'พิธา' คืนสภา! จ่ออภิปรายญัติภท.'แก้ขยะ-แถลงแผนก้าวไกล' ไม่กังวลคดีล้มล้าง
"พิธา" คืนสภาครั้งแรกในรอบ6เดือน หลังรอดบ่วงหุ้นสื่อ เผยภารกิจแรกอภิปรายญัติภท."แก้ขยะ-แถลงแผนก้าวไกล" พรุ่งนี้ พร้อมจับตา3เรือธงรัฐบาล "แลนด์บริดจ์-ดิจิทัลวิเล็ต-ซอร์ฟพาวเวอร์" ยืนยันไม่กังวลคดีล้มล้างลามยุบพรรค พร้อม3ปมซักฟอก "ประพฤติมิชอบ -คอร์รัปชั่น -ใช้งบประมาณ ล้มเหลว จี้ "เศรษฐา" เข้าสภา
ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เดินทางเข้าสภาครั้งแรกหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินคดีถือหุ้นไอทีวีไม่ส่งผลให้สิ้นสุดสถานภาพการเป็นส.ส. ซึ่งถือเป็นการเข้าสภาในฐานะสส.ครั้งแรกในรอบ6เดือน พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า รวมเวลาตั้งแต่เดือนก.ค.น่าจะ6เดือนนับตั้งแต่ที่ตนถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
ยอมรับว่าเวลาที่เสียไปแน่นอนว่าโอกาสที่เสียไปคือการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่6เดือนที่ผ่านมาตนก็ใช้เวลาในการลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ จ.สมุทรปราการ จ.ภูเก็ต ที่เห็นปัญหาขยะล้นเมืองก็จะใช้ข้อมูลที่ได้มาในการอภิปรายพรุ่งนี้ซึ่งเป็นญัตติของพรรคภูมิใจไทย
นายพิธา ยังกล่าวว่า ขณะเดียวกันในวันพรุ่งนี้จะมีการแถลงแผนงานพรรคก้าวไกลเพื่อให้ประชาชนและสมาชิกมีส่วนร่วมในการทำงานในปีหน้า
เมื่อถามถึงกรณีมีข้อครหาพรรคก้าวไกลโดยเฉพาะกรณีคุกคามทางเพศ นายพิธากล่าวว่า ก็ต้องยอมรับด้วยความเสียใจและขอโทษประชาชนแต่ในช่วงที่เกิดสถานการณ์ตนก็ไม่ได้หายไปไหน เมื่อนายชัยธวัช ตุลาธน เป็นหัวหน้าพรรคตนก็ไม่อยากเป็นสถาบันที่มีหัวหน้าพรรค2คน แต่คอยให้คำปรึกษาโดยตลอด
เมื่อถามว่า ติดใจเตื่องการร้องเรียนหุ้นไอทีวีหรือไม่นายพิธากล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องในอดีตวันนี้ขอโฟกัสเฉพาะปัจจุบัน ส่วนโอกาสกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่
ในส่วนตำแหน่งหัวหน้าพรรคคงต้องรอการประชุมวิสามัญในเดือนเม.ย. ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับการคัดเลือกพรรคส่วนที่2ไม่ได้ยึดติดตำแหน่งชัยธวัชทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสมาชิก
เมื่อถามว่ามีอะไรอยากจะฝากถึงรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีถึงข้อควรระวังหรือไม่ รวมถึงการอภภิปรายไม่ไว้วางในด้วย นายพิธา กล่าวว่า ตนยึดประชาชนเป็นที่ตั้งไม่ได้ค้านทุกเรื่อง แต่หากมีอะไรที่พบความไม่ชอบมาพากลก้พร้อมตรวจสอบ
โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา การกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้ที่ไม่กระทบสภาพแวดล้อม ซึ่งตนย้ำเสมอว่าขณะนี้มีวารร่วมเพื่อประชาชนมากมายโดยที่ไม่คำนึงว่าพรรคไหนฝ่ายไหนเช่นสมรสเท่าเทียม อากาศสะอาดเป็นต้น
ส่วนโครงการแลนด์บริดจ์ของรัฐบาล นายพิธากล่าวว่า จะจับตาเป็นพิเศษเพราะโครงการเรือธงของรัฐบาลจะมี3โครงการทั้งแลนด์บริดจ์ ดิจิทัลวอเล็ต และ ซอร์ฟพาวเวอร์
โดยเฉพาะดิจิทัลวอเล็ตซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการตรวจสอบของพรรคก้าวไกลซึ่งส่วนตัวเห็นว่าประชาชนเดือดร้อนพอสมควรและเศรษฐกิจโตช้า ซบเซาเป็นเวลานาน ซึ่งไม่ได้เป็นความความผิดของรัฐบาลที่เพิ่งบริหารมา6เดือนแต่ปัญหาเป็นการเมืองทศวรรษที่สูญหายไป10ปี จึงทำให้เศรษฐกิจโตช้า
แต่ในขณะเดียวกันตนกังวลว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นโดยเอางบประมาณระยะยาวจนทำให้ไม่มีพื้นที่การคลังในการแก้ปัญหาระยะยาวไม่ได้เป็นทางที่เหมาะสมจึงอยากชวนรัฐบาลคิดว่ามีแผน2หรือไม่ว่าสิ่งที่ทำหาเสียงมาไม่ผ่านและคิดถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานแระโดยไม่จำเป็นต้องแจกเงินก่อนรวมเป็นพลังเศรษฐกิจที่ดีต่อไป
เมื่อถามว่ามีความคาดหวังกับตัวนายกรัฐมนตรีอย่างไร นายพิธากล่าวว่า การที่จะคาดหวังกับใครก้ต้องคาดหวังกับตนเองด้วยหากตนเป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องกลับเข้ามาตอบกระทู้ด้วยตนเอง ถ้าคาดหวังกับตนเองก็ต้องคาดหวังกับคนอื่นด้วยเช่นกัน
นายพิธายังกล่าวถึงคดีล้มล้างการปกครอง จากกรณีเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยในวันที่31ม.ค.ซึ่งอาจเป็นหัวเชื้อไปสู่การยุบพรรคว่า ก็ต้องเรียนเหมือนคดีไอทีวีว่าอะไรที่เราควบคุมได้หรือควบคุมไม่ได้ในส่วนอะไรที่เราควบคุมได้เราได้ทำเต็มที่จึงทำให้มีความมั่นใจ
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายพิธากล่าวว่า วันนี้มีความคืบหน้าและมีข้อมูลส่งเข้ามาเรื่อยๆก็จะเน้นเรื่องการประพฤติมิชอบ เรื่อคอร์รัปชั่น และความล้มเหลวในการใช้งบประมาณ ซึ่งต้องขอรอจังหวะว่าจะเป็นไปแบบ "บาซูก้า" เลยหรือไม่ หรือในการยื่นว่าจะเป็นญัตติตามรัฐธรรมนูญมาตรา151 หรือ 152
ยืนยันว่าการทำงานของพวกเราไม่ได้ต้องการล้มรัฐบาลอย่างเดียวแต่เอาผลประโยชน์ประเทศชาติและภาษีประชาชนเป็นหลัก