‘พิธา’ โชว์โรดแมป ‘ก้าวไกล’ ปี 67 คาด เม.ย.คิกออฟซักฟอกรัฐบาล

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2567 ที่ห้อง 601 ฝั่ง สส. รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวถึงหมุดหมายสำคัญของแถลงแผนทำงานพรรคก้าวไกล ปี 2567 หรือ MFP's Strategic Roadmap กว่า 20 นาที พร้อมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม

โดยนายพิธา กล่าวว่า มี Big Bangs หรือ เป้าหมายสำคัญ 6 เป้าหมาย  ได้แก่ การทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ ผ่านการปฏิรูปทหาร การแก้รัฐธรรมนูญ, การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ผ่านการยกระดับสวัสดิการ และขนส่งสาธารณะ, การหยุดแข่แข็งชนบทไทย ผ่านการสนับสนุนทางการเกษตร, การปฏิรูปรัฐครั้งใหญ่ ผ่านการกระจายอำนาจ ปฏิรูประบบราชการ, การเรียนรู้ทันโลก ผ่านการตัดอำนาจนิยมในสถานศึกษา เสริมสร้างทักษะผู้เรียน และการเติบโตแบบมีคุณภาพ ผ่านการสร้างงาน และสนับสนุน SMEs โดยวิธีการดำเนินการสู่เป้าหมายนั้น นายพิธา ชี้แจงว่า จะดำเนินการผ่านการเสนอแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค และเสนอร่างกฎหมายเพิ่มเติม รวมจำนวนทั้งสิ้น 47 ฉบับ สนับสนุนงบประมาณให้เพียงพอกับการดำเนินงาน และกำหนดแผนปฏิบัติการ รวมถึงพิจารณาความพร้อมของบุคลากร เพื่อให้เป้าหมายสัมฤทธิผล 

นายพิธา ยังกล่าวถึงการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคว่า ขณะนี้ มีร่างกฎหมายของพรรคฯ ที่สภากำลังพิจารณา ทั้งการสมรสเท่าเทียม การแก้ปัญหาฝุ่นพิษ และกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่คณะรัฐมนตรีขอนำไปพิจารณา 60 วัน ส่วนร่างกฎหมายที่บรรจุเข้าสู่วาระการประชุมแล้ว และรอการพิารณาจำนวน 17 ฉบับ อาทิ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ, กฎหมายโคนม และผลิตภัณฑ์นม, กฎหมายรับรองเพศ และคำนำหน้านามบุคคล และร่างกฎหมายการแข่งขันทางการค้า เป็นต้น และยังมีร่างข้อบังคับ 1 ฉบับที่ถูกสภาปัดตกไปแล้ว ได้แก่ ร่างข้อบังคับการประชุมสภาก้าวหน้า นอกจากนั้น ยังมีร่างกฎหมายที่รอนายกรัฐมนตรีรับรอง, ร่างกฎหมายที่กำหลังรับฟังความเห็นอยู่ โดยยืนยันว่า นโยบายการสมรสเท่าเทียม, สุราก้าวหน้า, การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร, การเปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนด และการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ เป็นนโยบายเรือธงของพรคก้าวไกล ที่จะเสนอเป็นร่างกฎหมาย เพื่อให้เป้าหมายประสบความสำเร็จ

นายพิธา กล่าวถึงการทำงานในปี 2567 แบ่งเป็น 2 ช่วงด้วยกัน คือการทำงานนอกพรรค เน้นเรื่องในสภา และเรื่องภายในพรรค โดยที่สำคัญเริ่มจากเดือน ก.พ.เป็นเรื่องภายในพรรค เราจะพิจารณาทบทวนตัวชี้วัดของประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) และ สส. คือทุกคนที่ทำงานจะมี KPI ควรจะวัดอะไรบ้างให้มีประสิทธิภาพ
    
นายพิธา กล่าวว่า ต่อมา เม.ย.หลังสงกรานต์ เป็นไปได้มีโอกาสว่า เราจะเริ่มคิด หรือมีโอกาสอภิปรายทั่วไป หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงนั้นหรือไม่ แต่เป็นช่วงที่เราคิดว่าเวลาน่าจะเหมาะสมกับการทำงานของรัฐบาล โอกาสในการอภิปรายปีละ 1 ครั้ง คงเริ่มคิดกันว่าผ่านมาครึ่งปีน่าจะเป็นเรื่องเหมาะสมที่คิดเรื่องนี้ ถัดจากนั้นในช่วงเดือนเดียวกัน เม.ย.จะมีการประชุมใหญ่สามัญพรรคก้าวไกล ที่กรรมการบริหารทำงานมาครบ 4 ปี คงทบทวนการปรับโครงสร้างองค์กร และการทบทวนรูปแบบการทำงาน

นายพิธา กล่าวอีกว่า ถัดมา พ.ค.จะทำให้การเมืองเป็นเรื่องสนุก ทำเรื่องนโยบายให้มัน ๆ ย่อยให้คนเข้าใจง่าย คือ Move Forward Party’s Policy Festival หลังจากนั้นมิ.ย.-ส.ค.จะเป็นช่วงอภิปรายวาระ 2-3 ของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ และปลายปีประมาณไตรมาส 4/2567 เราคงเตรียมตัวเรื่องลงแข่งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ โดยทั้งหมดจะมีการวัดผลทุกระยะ
    
เมื่อถามว่า ภาพรวมฝ่ายค้านปัจจุบันมีจุดยืนอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า คงทำงานร่วมกัน คิดว่าการเป็นสถาบันพรรคการเมือง หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง คงมีแผนดำเนินการประจำปี แต่แน่นอนว่า ต่างพรรคต่างคิดกัน แต่คงต้องเอามารวมกันคือ พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พรรคเป็นธรรม และพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่น มาดูว่ามีอะไรทำงานร่วมกันได้ ใครเหมาะสมการทำงานในส่วนไหน คงหารือในต่อไป

เมื่อถามว่า ตอนนี้เหมือนยังไม่เห็นการทำงานเข้มข้นในการตรวจสอบรัฐบาลที่ผ่านมา อยากถามถึงการฉายหนังที่รัฐบาลต้องเจอหลังจากกลับมาแล้ว นายพิธา กล่าวว่า คงตาม mindstone ที่ได้โชว์ไป ในทุก ๆ สัปดาห์จะมี กมธ.ทำงาน เก็บข้อมูล และลงพื้นที่รับฟังประชาชนตลอดเวลา เบื้องหลังมีการเรียบเรียงการฉายให้เห็นภาพว่า สิ่งที่รัฐบาลทำผิดพลาดมีอะไรบ้าง และรัฐบาลต้องปรับปรุงอะไรบ้าง ตามกลไกรัฐสภา อย่างที่เห็นเดือน เม.ย.เป็นต้นไปน่าจะเห็นภาพ ข้อมูลที่เราเก็บทุกสัปดาห์จะชี้แจงประชาชน และรัฐบาลให้ทราบ แต่ถ้ามีเหตุการณ์สำคัญจนรอถึง เม.ย.ไม่ได้ คงแถลงข่าว หรือตั้งกระทู้ในสภาฯ เพื่อประโยชน์ของประชาชน
    
เมื่อถามว่า ได้เห็นแผนโรดแมปของพรรคก้าวไกลทั้งปี แต่ปัญหาเฉพาะหน้า ในวันที่ 31 ม.ค.ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยนโยบายการแก้ไข มาตรา 112 มีการประเมินความเป็นไปได้ของคำวินิจฉัยหรือไม่ เตรียมการหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า มีการคิดเป็นฉากทัศน์อยู่ รวมถึงฉากทัศน์ที่แย่ที่สุด แต่พรรคก้าวไกลยังบริหารจัดการได้ แต่ไม่ทำให้ภาพรวมใหญ่ทั้งปีต้องสะดุดลง คิดว่าบริหารจัดการได้ แต่รายละเอียดคงลงไม่ได้ อย่างที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกล่าวไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว