ปมฝรั่งทำร้ายหมอทำพิษ! กสม.จี้รัฐปูพรมสอบปัญหาที่ดิน ลั่น ปชช.ต้องได้ใช้
กสม.แนะหน่วยงานรัฐ ปูพรมตรวจสอบปัญหาที่ดิน-พื้นที่สาธารณะ หลังเกิดเหตุ 'หมอ' ถูกทำร้าย ลั่นประชาชนต้องได้ใช้พื้นที่ด้วย
เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2567 นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า ในการประชุมด้านการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมาได้มีการพิจารณาถึงข่าวทำร้ายร่างกายคุณหมอที่ จ.ภูเก็ต ว่า เหตุดังกล่าวนอกจากจะเป็นเรื่องการใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างในเรื่องการรุกล้ำที่ดินสาธารณะ ทั้งนี้ชายหาดและหาดทรายถือเป็นทรัพย์สิน ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ไม่สามารถโอนให้แก่กันได้ เว้นแต่อาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะ หรือพระราชกฤษฎีกา อันเป็นไปตามมาตรา 1305 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ผ่านมา กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนเรื่องสิทธิชุมชนและสิทธิในที่ดินจำนวนมาก ซึ่งมีกรณีพิพาทจากการที่ประชาชนไม่สามารถใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะอย่างชายหาดได้ เพราะเอกชนอ้างสิทธิในการถือครองที่ดินชายหาด และก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำชายหาด ซึ่งปัญหาและความขัดแย้งมักมีความรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อเป็นกรณีพื้นที่สาธารณะในเขตอุตสาหกรรมประมงและการท่องเที่ยว อย่างเช่น จ.ภูเก็ต และจังหวัดที่มีชายฝั่งทะเลอื่น ๆ
กสม. เห็นว่า สิทธิในที่ดินมีความสำคัญเชื่อมโยงกับสิทธิชุมชน ในการใช้และได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุลและยั่งยืน การที่ประชาชนและชุมชนไม่สามารถมีส่วนร่วมใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ ย่อมไม่สอดคล้องและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 ที่รับรองและคุ้มครองสิทธิของบุคคลและชุมชนในการมีส่วนร่วม จัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืน
“กรณีนี้สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างเรื่องที่ดินและการใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะ แม้เอกชนเจ้าของวิลล่าที่เป็นข่าว จะเข้ารื้อถอนบันไดและสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ที่รุกหาดยามู ซึ่งเป็นที่สาธารณะแล้ว แต่ปัญหาลักษณะเดียวกันนี้ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจสร้างปัญหาหลายอย่าง เช่น การถูกขัดขวางไม่ให้เข้าถึงพื้นที่สาธารณะ และอาจกระทบต่อพื้นที่ทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล ชาวประมง ซึ่ง กสม. เห็นว่าหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน รวมทั้งการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำพื้นที่สาธารณะ หากพบว่าเป็นการดำเนินการโดยมิชอบ ก็ให้เพิกถอนสิทธิดังกล่าว” นายวสันต์ กล่าว