'เศรษฐา'เชื่อ'ทักษิณ'อยากช่วยเหลือบ้านเมืองในบริบทถนัด

'เศรษฐา'เชื่อ'ทักษิณ'อยากช่วยเหลือบ้านเมืองในบริบทถนัด

“เศรษฐา”ไม่น้อยใจ คนรัก“ทักษิณ” มากกว่า บอกเป็นเรื่องจริง-ไม่โกหกตัวเอง เผยยังไม่ได้ขอคำปรึกษาหลังร่วมโต๊ะดินเนอร์ เชื่อคนอย่างทักษิณอยากช่วยเหลือบ้านเมืองในบริบทถนัด

เมื่อเวลา  13.15 น. วันที่ 16 มี.ค.ที่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  ให้สัมภาษณ์ถึงการร่วมรับประทานอาหารกับนายทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อค่ำวานนี้ที่บ้านพักของนายสมชาย  วงศ์สวัสดิ์  อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าไม่มีเวลาที่จะหารือกันกับนายทักษิณเลย แค่ถ่ายรูป ขณะที่ซุ้มอาหารมีเยอะมาก ก็ยังเดินไม่ครบ สื่อมวลชนก็เห็นอยู่ถึงบรรยากาศ ซึ่งในส่วนของนายทักษิณท่านก็มีท่าทางอ่อนเพลียเล็กน้อยแต่ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส จึงยังไม่ได้คุยอะไรกับท่าน และทราบมาว่าเมื่อวานนี้จากภารกิจ ท่านเอื้อมมือไปหยิบของทำให้หลังลั่นก๊อบขึ้นมา  ก็เลยต้องใส่อุปกรณ์พยุงหลัง แต่ใบหน้าของท่านมีแต่รอยยิ้ม เพราะอยู่ท่ามกลางครอบครัว ผมเองก็ดีใจครับ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าอดีตนายกฯทักษิณมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจะมีโอกาสได้ปรึกษาหารือกับท่านหรือไม่หรือไม่  นายเศรษฐา กล่าวว่าเข้าใจว่ามีโอกาสอย่างแน่นอน  แต่เมื่อคืนไม่ได้คุยจริงๆครับ  มันยุ่งเหลือเกิน  อีกทั้งโต๊ะก็มีขนาดใหญ่ด้วย  เลยยังมีโอกาสได้พูดคุยกัน และบังเอิญว่าตนนั่งข้างกลับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  จึงถือโอกาสคุยเรื่องงานด้วย  

“แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการปิดกั้นอย่างแน่นอนอย่างที่ผมเคยบอก ท่านทักษิณเป็นบุคคลระดับโลก เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความนิยมชมชอบสูงสุด ถ้าหากเราไม่สามารถดึงท่านมาช่วยงานเราได้ ผมว่าประเทศไทยก็จะไม่ได้ประโยชน์เต็มที่“

เมื่อถามว่าอดีตนายกฯทักษิณไปฝากอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวย้ำว่า ไม่มีเลยก็อย่างที่บอกว่าไม่มีเลย ไม่มีฝากบอกอะไรทั้งสิ้นแต่ฝากบอกว่าก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้อร่อย ให้ลองกินให้ลองกินดูหน่อย จริงๆครับไม่มีอะไรจริงๆเลยและผมก็ยังทานไม่ครบเลยเมื่อวานนี้

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แสดงว่ามีแนวคิดจะเชิญอดีตนายกฯทักษิณมาช่วยทำงาน และมีบทบาทในรัฐบาลใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ยืนยันว่ายังไม่มี แต่ถ้าเรื่องของการพูดคุยหรือปรึกษาเป็นไปได้แต่ส่วนตัวตนยังไม่ทราบเลยว่าท่านต้องการทำอะไร ท่านอาจจะต้องการแบ่งเวลา หรือชดเชยเวลาที่ไม่ได้อยู่กับครอบครัว 17 ปี หรือเปล่า  ตนก็ไม่ทราบ แต่บุคคลอย่างท่าน ผมเชื่อว่า ท่านเองก็อยากจะช่วยเหลือบ้านเมืองในบริบทที่ท่านถนัด ผมเองก็ยังไม่ทราบ ก็คงต้องถามท่านเมื่อมีโอกาส  ท่านเองก็เพิ่งกลับบ้านเกิดมาครั้งแรกแค่ 48 ชั่วโมงเท่านั้น ในรอบ 17 ปี ก็ไม่อยากไปรบกวนเวลาที่ท่านจะอยู่กับครอบครัว หรือไปรำลึกความหลังกับพรรคพวก เพื่อนฝูงท่าน ตรงนี้ไม่ต้องห่วงครับ 

”ผมเชื่อว่ารัฐบาลของผม จากนี้ต่อไปอีกสามปีครึ่ง เราใจกว้างเสมอ สำหรับการรับฟังความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นจากทางผู้สื่อข่าวเอง หรืออดีตนายกรัฐมนตรี“

เมื่อถามว่าคงไม่น้อยใจใช่หรือไม่อาจจะมีประชาชนบางส่วนหันไปรักอดีตนายกฯทักษิณบ้าง แต่ก็ยังรักนายกฯ เศรษฐาอยู่  นายกรัฐมนตรี ยิ้ม พร้อมกล่าวว่ามันเป็นของตายอยู่แล้ว และหัวเราะก่อนจะกล่าวต่อว่า

“ ท่านอยู่มาและเป็นนายกมากี่ปี และแลนด์สไลด์มา 377 เสียง อยู่ในแวดวงการเมืองมานานผมไม่ต้องคิดว่าถ้าเกิดหรอกครับ แน่นอนครับคนรักท่านมากกว่าผมแน่นอนครับ พร้อมหัวเราะ และบอกว่าทำใจได้อยู่แล้วครับ ทราบถึงความจริงอยู่แล้วครับ อายุขนาดนี้ ไม่โกหกตัวเองครับ แต่ว่าเรามีหน้าที่ต่างกันไปในวันนี้ วันนี้ผมเป็นนายกรัฐมนตรีก็พยายามที่จะแก้ปัญหาบ้านเมืองไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆครับ ”