'วิปครม.'จ่อขอเวลาชี้แจงเพิ่มเวทีซักฟอก-หวัง'ก้าวไกล'ก้าวข้าม'ทักษิณ'
'วิปครม.'จ่อขอเวลาชี้แจงเพิ่มเวทีซักฟอก หวั่นให้ข้อมูลได้ไม่ครบเหมือนเวทีสว. หวัง 'ก้าวไกล' ก้าวข้ามปม 'ทักษิณ' โฟกัสประโยชน์ประชาชนมากกว่าสร้างวาทกรรม
นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนแทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า การอภิปรายวันที่ 3-4 เม.ย. กำหนดเวลาอภิปราย 30 ชั่วโมง โดยแบ่งเวลาการอภิปรายให้ฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง ให้เวลานายกฯและคณะรัฐมนตรีชี้แจง 6 ชั่วโมง และเป็นเวลาของประธานในการควบคุมการประชุม 2 ชั่วโมง แต่ในการอภิปรายทั่วไปของสว.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ที่ผ่านมา ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เวลาชี้แจง 3 ชั่วโมงปรากฎว่าไม่เพียงพอ คณะรัฐมนตรีไม่สามารถชี้แจงข้อสงสัยได้ครบถ้วนทุกประเด็น
"ดังนั้นคณะรัฐมนตรีจึงอยากขอปรับเวลาเพิ่มในส่วนของคณะรัฐมนตรีจาก 6 ชั่วโมงเป็น 10 ชั่วโมง แล้วปรับเวลาของฝ่ายค้านจาก 22 ชั่วโมง เป็น 18 ชั่วโมง เพื่อให้นายกฯและคณะรัฐมนตรีได้ชี้แจงผลการทำงานระยะ 7 เดือนกว่าที่ผ่านมาได้อย่างครบถ้วนตามข้อสงสัยและข้อชี้แนะของสมาชิก"
ขณะเดียวกันจะได้ใช้เวลาชี้แจงด้วยว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการอะไรไปบ้าง และเตรียมการอะไรไว้รองรับงบประมาณปี 2567 ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในเวลาอันใกล้นี้ เพราะเรามั่นใจว่าเมื่องบประมาณมีผลบังคับใช้เมื่อบวกกับสิ่งที่เราเตรียมการไว้จะสามารถผลักดันให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจ สร้างธุรกิจใหม่ๆให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน
"ยืนยันว่าการเสนอปรับเวลานี้ไม่เกี่ยวกับกรณีที่สัปดาห์ก่อนฝ่ายค้านได้เล่นเกมขอนับองค์ประชุม แต่เรามุ่งหวังให้การใช้เวลาของสภาฯเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างคุ้มค่าที่สุด โดยแนวทางการขอปรับเวลานี้จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายในช่วงเข้าวันที่ 3 เม.ย. ก่อนการอภิปราย"
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านเหมือนมุ่งพุ่งเป้าการอภิปรายไปที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นางมนพร กล่าวว่า การอภิปรายของฝ่ายค้านถือเป็นสิทธิ แต่ที่ผ่านมาฝ่ายค้านได้หยิบยกเรื่องนี้มาตั้งเป็นกระทู้ถามรัฐบาลหลายครั้ง การที่พูดแล้วพูดอีกแบบนี้จะทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง
"การอภิปรายเวทีนี้ของฝ่ายค้านน่าจะมีสิ่งใหม่ๆ การก้าวไม่ข้ามคนคนเดียวแบบนี้ไม่ใช่การเมืองแบบใหม่เหมือนที่พรรคก้าวไกลต้องการทำ ที่ตั้งประเด็น พรรคเพื่อใคร หัวใจไม่ใช่ประชาชน ตนมองว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาเลือกตั้งแล้ว ก็อยากให้พรรคก้าวไกลมาโฟกัสสิ่งที่จะทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่ามาสร้างวาทกรรมอะไรแบบนี้"