'ช่อ' เสวนาร้อนปม 'ยุบก้าวไกล' ชี้ ปชช.ร่วมสู้ด้วยการลง สว.ตัดวงจรอุบาทว์
'พรรณิการ์' บุกสงขลา ร่วมเสวนาการเมืองร้อน ปม 'ยุบพรรคก้าวไกล' เหน็บถ้าไม่อยากโดนรอบหน้าต้องแพ้เลือกตั้ง ไม่เกี่ยวชงแก้ ม.112 ชี้ ปชช.ร่วมสู้ได้ทันทีด้วยการสมัคร สว.ใช้เสียงโหวตอิสระเข้าสภาฯ ตัดวงจรอุบาทว์ทางการเมือง
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 ทีมโฆษกคณะก้าวหน้า แจ้งข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะทำงานของพรรคก้าวไกล สาขาจังหวัดสงขลา จัดงานเสวนาในหัวข้อ “นิติสงครามในสมรภูมิการเมืองไทย” โดยมีวิทยากรรับเชิญได้แก่ นายอธึกกิต แสวงสุข สื่อมวลชนอิสระ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และนายรอมฎอน ปันจอร์ สส.ก้าวไกล
โดย น.ส.พรรณิการ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ประชาชนจำนวนมากมองว่าหากพรรคก้าวไกลถอยเรื่องประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ก็คงไม่ถูกยุบพรรค และได้เป็นรัฐบาลแล้ว แต่ตนขอย้อนอดีตให้พิจารณาว่า สมัยอนาคตใหม่ ไม่มีการแตะต้องกฎหมายมาตรา 112 แต่นายธนาธรก็โดนสั่งให้พ้นจาก สส.ได้เข้าสภาเพียง 15 นาที เพราะคดีหุ้นสื่อ พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบเพราะคดีกู้เงินธนาธร เป็นที่มาของความงงทั้งแผ่นดิน ว่าเงินกู้เท่ากับรายได้ได้อย่างไร
“หากท่านถามว่าจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันการยุบพรรค คำตอบมีอย่างเดียว ไม่ใช่ถอยเรื่อง 112 แต่คือต้องแพ้เลือกตั้งค่ะ รอบหน้าก้าวไกลคงต้องได้สัก 30 เสียงพอ จะได้ไม่โดนยุบพรรค ที่อนาคตใหม่โดนยุบก็เพราะที่คิดกันว่าจะได้ 5-10 เสียง ดันได้มา 81 เสียง ที่พรรคก้าวไกลโดนคดียุบพรรค ก็มาโดนหลังจากชนะเลือกตั้งได้เป็นพรรคอันดับหนึ่ง เพราะเราท้าทายเขาได้ เรามีพลังที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง มีโอกาสบริหารประเทศ เราจึงเป็นภัยคุกคามของฝั่งที่กุมอำนาจและไม่อยากเสียอำนาจ กฎหมาย 112 เป็นเพียงข้ออ้างสร้างความชอบธรรม วันนั้นยุบไทยรักไทย อ้างว่าเพราะเป็นนักการเมืองโกง วันนี้ก้าวไกลไม่โกง เลยต้องเปลี่ยนข้อหา บอกว่าต้องยุบเพราะเป็นพวกล้มเจ้า ล้มล้างการปกครอง” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว
ทั้งนี้ในวงเสวนา มีคำถามจากประชาชนว่า สถานการณ์เช่นนี้ ประชาชนต้องต่อสู้อย่างไร จะทำอะไรได้บ้าง น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องรอการเลือกตั้งใหญ่ อาจจะอีกหลายปี สิ่งที่ประชาชนทำได้ทันที คือการลงสมัคร สว. เปลี่ยนวุฒิสภาให้เป็นของประชาชน ปลดล็อกการแก้รัฐธรรมนูญ โดยก่อนมาสงขลา เพิ่งได้อ่านข่าวว่า กกต.สงขลา ถึงกับสายไหม้ เพราะมีคนโทรไปถามเรื่องการเลือก สว. กันเยอะมาก วันนี้พอดีได้พบเจ้าหน้าที่ กกต. มาร่วมฟังเสวนา ได้สอบถามดูก็พบว่าสายไหม้จริง คนโทรเข้ามาสอบถามกันเยอะ เพราะสนใจลงสมัคร ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ประชาชนให้ความสำคัญกับการเลือกสว.
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวด้วยว่า แม้ระบบจะออกแบบมาเพื่อกีดกันประชาชนไม่ให้มีส่วนร่วม ด้วยค่าสมัคร 2,500 บาท และอายุ 40 ปีขึ้นไป แถมยังออกแบบระบบการเลือกที่สับสนวุ่นวาย ไม่มีประเทศไหนทำมาก่อน แต่หากประชาชนเห็นว่าการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็นกกต. ปปช. หรือศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ยังไม่เป็นธรรม รับใบสั่งการเมือง นำไปสู่วังวนยุบพรรค-ตัดสิทธิ์ไม่รู้จบ ทางออกก็คือต้องช่วยกันทำให้มีสว. ของประชาชนให้ได้ สว. เหล่านี้จะได้เข้าไปสรรหาบุคคลที่เหมาะสม มาดำรงตําแหน่งในองค์กรอิสระเหล่านี้ ยุติวงจรอุบาทว์ของการทำนิติสงครามสกัดกั้นพรรคการเมืองที่ประชาชนเลือกมาเสียที