'อนุฯนิรโทษกรรม' เตรียมเช็คลิสต์ คดีการเมือง ชงล้างผิด ไม่เกี่ยวคดีแพ่ง
"ยุทธพร" เผย อนุฯนิรโทษกรรม หารือพรุ่งนี้ เช็คลิสต์ฐานความผิด แยกคดีจูงใจทางการเมือง ตั้งแต่ 1 ม.ค. 48 ย้ำไม่ล้างผิดคดีแพ่ง
ที่รัฐสภา นายยุทธพร อิสระชัย ประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาและจำแนกการกระทำเพื่อประกอบการพิจารณาแนวทางการตราพระราชบัญญัตติ(พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 พ.ค. คณะอนุกมธ.จะนัดประชุมเพื่อจำแนกคดีที่มีฐานความผิดที่มาจากแรงจูงใจทางการเมืองชัดเจน และ ฐานความผิดที่มีแรงจูงใจทางการเมืองไม่ชัดเจน ซึ่งมีต้นร่างจาก 25 ฐานความผิดตามที่พิจารณาในกมธ. ทั้งนี้ในการกำหนดคำนิยามว่าด้วยแรงจูงใจทางการเมือง คือ ประเด็นตั้งต้นที่จะนำมาพิจารณา ก่อนเสนอต่อกมธ. ในวันที่ 2 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ดีในการประชุมคาดว่าจะเห็นเป็นรูปร่าง แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นบทสรุป เนื่องจากต้องให้กมธ.ชุดใหญ่พิจารณา
“กรณีการจำแนกคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมืองชัดเจน มีรายละเอียดที่ต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย และต้องใช้กฎหมายนิรโทษกรรมความผิด เช่น คดีบุกยึดสนามบิน ในส่วนของคดีอาญา ไม่เกี่ยวกับคดีทางแพ่งเพราะเป็นกรณีละเมิดและมีคู่ความ ส่วนกรณีที่เป็นบางเรื่อง อาจใช้มาตรการทางกฎหมาย อื่นๆ ประกอบ เช่น กฎหมายจราจร เป็นต้น อย่างไรก็ดีในประเด็นพิจารณาจะเช็คลิสต์ในการกระทำที่เข้าข่ายในการนิรโทษกรรมในช่วงการเมืองต่าง ซึ่งตั้งต้นมาตั้งแต่ 1 ม.ค. 2548 ” นายยุทธพร กล่าว
เมื่อถามว่าการพิจารณาและทำข้อเสนอจะนำร่างกฎหมายนิรโทษกรรมหรือทำนองเดียวกันที่เสนอต่อสภาฯ มาพิจารณาด้วยหรือไม่ นายยุทธพร กล่าวว่า เป็นประเด็นที่สภาฯ ต้องพิจารณาต่อ เพราะอนุกมธ. เป็นผู้ศึกษา ส่วนกมธ.เป็นผู้ทำแนวทางที่ควรนิรโทษกรรม อย่างไรก็ดีร่างกฎหมายที่เสนอไว้ในสภาฯนั้น จะพิจารณาพร้อมกับ รายงานของกมธ.ชุดใหญ่ เป็นข้อเสนอแนะว่าควรนิรโทษกรรมอะไร ฐานความผิดไหน ซึ่งอาจนำสู่การร่างขึ้นใหม่ หรือ นำร่างกฎหมายที่มีอยู่มาพิจารณาด้วยก็ได้
เมื่อถามว่าในส่วนของคดีความที่เกี่ยวกับมาตรา 112 จะมีแนวทางเป็นอย่างไร นายยุทธพร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวกมธ.ชุดใหญ่จะเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง.