'ดิเรกฤทธิ์' ระบุ ไร้ผลกระทบ หลัง มีสว. โวยถูกอ้างชื่อ ยื่นศาลรธน.

'ดิเรกฤทธิ์' ระบุ ไร้ผลกระทบ หลัง มีสว. โวยถูกอ้างชื่อ ยื่นศาลรธน.

"ดิเรกฤทธิ์" ระบุไร้ผลกระทบ หลัง มีสว. โวยถูกอ้างชื่อ ยื่นศาลรธน. ถอด "เศรษฐา-พิชิต" พ้นตำแหน่ง เหตุการลงชื่อครบตามกฎหมายกำหนด แจงไม่เปิดชื่อทั้งหมด หวั่นมีผลกระทบ

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว. ฐานะ 1 ใน 40 สว. ที่ร่วมลงชื่อเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ปฏิเสธการเข้าชื่อเพื่อยื่นเรื่องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมระบุว่ามีผู้นำเชื่อไปแอบอ้าง ว่า กรณีดังกล่าวไม่มีผลใดๆ ต่อการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ  เพราะมีการลงชื่อครบตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด คือ ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกที่มี หรือ 25 คน ซึ่งการลงลายมือชื่อดังกล่าวมี สว. เข้าชื่อ จำนวน  40 คน ส่วนที่มีข้อเรียกร้องให้เปิดเผยรายชื่อสว. ทั้งหมดที่ร่วมลงนามนั้น เป็นเอกสิทธิของแต่ละบุคคลที่จะเปิดเผยหรือไม่เปิดเผยก็ได้ อีกครั้งบางคนไม่อยากให้เปิดเผย เพราะกังวลว่าจะมีผลกระทบ  หรือทำให้เกิดการได้หรือเสียเปรียบต่างๆ

“สว.หลายคนเป็นผู้ใหญ่ไม่อยากออกสื่อ หรือไม่จำเป็นต้องแสดงตัว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตีตราลับและใช้สิทธิยื่นต่อประธานวุฒิสภาเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ทั้งนี้รายชื่อของสว.นั้น ถูกเปิดเผยต่อศาลแล้ว หากมีคำพิพากษาหรือคำวินิจฉัยจะเปิดเผยในรายละเอียด แต่ในระหว่างการดำเนินการไม่อยากให้เปิดเผย ทั้งนี้ผมในฐานะผู้ร่วมลงชื่อ ยอมรับว่าไม่ได้เห็นรายชื่อทั้งหมด" นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว

นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวยืนยันด้วยว่าการเข้าชื่อของสว. ไม่มีการใช้เครดิตของบุคคลใดเป็นการเฉพาะ เพราะ สว.แต่ละคนมีหน้าที่และมีสิทธิเท่ากัน และเป็นการทำหน้าที่ตามกฎหมาย  ส่วนที่หลายฝ่ายถามหาเหตุผลว่าทำไมต้องทำในช่วงที่สว.ปัจจุบันหมดวาระแล้ว นั้นข้อเท็จจริงคือสว.ปัจจุบันยังมีเงินเดือนและค่าตอบแทน ยังทำหน้าที่อยู่ และตามกฎหมายสว.ปัจจุบันจะพ้นจากตำแหน่งเมื่อมีสว.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องของการทำในระหว่างหมดวาระ

“ผมยืนยันว่าไม่มีใบสั่งหรือรับงานมาจากไหน แต่ยอมรับว่าสว.มีความเห็นหลากหลายในแต่ละกลุ่ม ซึ่งแต่ละคนล้วนมีเหตุผลและการพิจารณาเนื้อหา ส่วนผมนั้นไม่ใช่คนเกเร หรือเห็นแก่ประโยชน์ใด และที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของผมนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน” นายดิเรกฤทธิ์  กล่าว.