ป.ป.ช.ชี้มูลอัยการพิษณุโลก เรียกเงินหลักแสนจากผู้ต้องหา แลกไม่ฟ้องคดี

ป.ป.ช.ชี้มูลอัยการพิษณุโลก เรียกเงินหลักแสนจากผู้ต้องหา แลกไม่ฟ้องคดี

ป.ป.ช.ชี้มูลผิด อัยการจังหวัดพิษณุโลก ปมเรียกรับเงินหลักแสนบาท จากผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกาย แลกไม่สั่งฟ้อง 

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2567 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายปริญ หรือประการ ทองดอนน้อย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลก กรณีกล่าวหาว่า เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อสั่งไม่ฟ้อง ผู้ต้องหาในสำนวนคดีอาญาของสำนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลก

ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า ระหว่างวันที่ 14 - 29 พ.ย. 2561 นายปริญ หรือประการ ทองดอนน้อย อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลก ได้นัดพบและติดต่อกับกลุ่มผู้ต้องหาในสำนวนคดีอาญา ส.1 เลขรับที่ 1854/2561 ของสำนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งถูกดำเนินคดี ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยที่นายปริญ หรือประการ  ทองดอนน้อย มิได้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีดังกล่าว และได้แจ้งกับกลุ่มผู้ต้องหาในทำนองว่าจะหาวิธีช่วยเหลือเพื่อสั่งไม่ฟ้องคดี แต่ต้องจ่ายค่าดูแลผู้ใหญ่ประมาณหลักแสนบาทเป็นการตอบแทน

การกระทำของนายปริญ หรือประการ ทองดอนน้อย จึงเป็นการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากกลุ่มผู้ต้องหาเพื่อเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการผู้มีอำนาจหน้าที่ในการสั่งคดี โดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมาย เพื่อให้กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณแก่กลุ่มผู้ต้องหาด้วยการสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าว

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำของนายปริญ หรือประการ ทองดอนน้อย มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 175 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญา และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98