เอฟเฟกต์การเมือง ปรับครม.1/3 ? ‘บิ๊กทิน’ปั๊มผลงาน ‘บิ๊กป้อม’ฝันค้าง

 เร่งปั๊มผลงานสุดฤทธิ์ สำหรับ“สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม หลังเร่งรัดบรรจุข้าราชการพลเรือนกลาโหมล็อตแรก 8 คน แม้จำนวนจะน้อยแต่ขอให้เอามาก่อน เพราะหากรอบรรจุครั้งเดียว จำนวน 200 กว่าคน อาจต้องยืดเวลาออกไปอีกระยะ น่าจะไม่ทันการ

สำหรับนโยบายนำข้าราชการพลเรือนมาทดแทนข้าราชการทหารตามแผน “ปฏิรูปกองทัพ ลดกำลังพล” ต้องยกเครดิตให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”องคมนตรี ที่ริเริ่มไว้ในสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมอบเป็นนโยบายให้กองทัพดำเนินการสานต่อ มาอย่างต่อเนื่องร่วม 8 ปี แต่มาผลิดอกออกผลยุค “สุทิน”

รวมถึงการจัดตั้ง “หน่วยบัญชาการไซเบอร์ทหาร” ป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ หลังได้ยุบรวมหลายหน่วยงาน พร้อมกำหนดภารกิจโครงสร้างชัดเจน จัดรูปแบบทีมเชิงรับและเชิงรุก โดยเฉพาะการดูแลระบบสาธารณูปโภคที่สำคัญของประเทศหากถูกโจมตี และทีมไซเบอร์อะคาเดมี โดยจะเริ่มวันที่ 1 ต.ค.นี้

เช่นเดียวผลักดัน“อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ” หาเม็ดเงินสร้างรายได้ให้กับประเทศ รวมถึงการ“ปรับแก้กฎหมาย”หลายฉบับ ด้านมาตรการทางภาษีสนับสนุนผู้ประกอบการภายในประเทศ หวังให้กองทัพพึ่งพาตัวเองหลังจากดำเนินการมากว่า 20 ปี ตั้งแต่ยุค พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นนายกฯ ต่อยอดเรื่อยมา

ส่วนผลงานริเริ่มช่วง 8 เดือนที่ “สุทิน” เข้ามาคุมกระทรวงกลาโหม คือการนำที่ดิน 4 เหล่าทัพมาให้ประชาชนทำกินทั้งในรูปแบบออกเป็นโฉนดและสัญญาเช่าที่ดิน พร้อมเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ตั้งเป้าหั่นที่ดินทหารไม่น้อยกว่า 72,000 ไร่

และการผลักดันแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 เรื่องให้อำนาจนายกรัฐมนตรีพักราชการทหารที่เตรียมการยึดอำนาจรัฐบาลได้ แม้ลึกๆ สุทิน ก็รับรู้ว่าไม่สามารถป้องกันได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องทำเป็น“เชิงสัญลักษณ์”ว่ากองทัพอยู่ภายใต้การเมือง

“สุทิน” ตีปี๊บประชาสัมพันธ์ผลงานครั้งใหญ่ เพราะมั่นใจว่าจะมีการปรับ ครม.อีกครั้งไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ หลังศาลรัฐธรรมนูญนัดตัดสินและพิจารณาในหลายคดีสำคัญทางการเมือง 18 มิ.ย.นี้

โดยคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัย กรณีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่  ซึ่งหากผลออกมาเป็นลบ ส่งผลกระทบแน่นอน

คดี “ยุบพรรคก้าวไกล” ปมล้มล้างการปกครอง ต้องรอลุ้นว่า 18 มิ.ย.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณากำหนดวันนัดฟังคำวินิจฉัยหรือไม่ หลังมีคำสั่งให้ กกต. ยื่นบัญชีพยานหลักฐานภายใน 17 มิ.ย.แต่หลายฝ่ายฟันธงตรงกันว่า ในที่สุดพรรคก้าวไกลก็ไม่รอด และจะเกิดขึ้นไม่เกินเดือนมิถุนายนนี้

สำหรับคดี “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ถูก 40 สว.ยื่นถอดถอนปมแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ หากไม่มีปัจจัยแทรกซ้อน เชื่อกันว่าจะผ่านพ้นไปด้วยดี หลังจากได้มือกฎหมายอย่าง “วิษณุ เครืองาม” ที่ปรึกษาของนายกฯ มาตรวจสอบคำชี้แจง 3 รอบ

ตามมาติดๆ คดีอาญามาตรา 112 อดีตนายกฯ “ทักษิณ ชินวัตร” หลังยื่นขอความเป็นธรรม อ้างเหตุพนักงานสอบสวนถูกข่มขู่ ก็ได้คิวอัยการนัดนำตัวฟ้องต่อศาล 18 มิ.ย.เช่นกัน โดยคาดว่าจะได้ประกันตัวเฉกเช่นผู้ต้องหาคนอื่นในคดีเดียวกัน โดยทักษิณมั่นใจว่าสามารถชนะคดีได้แน่นอน

ตัดกลับมาที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แม้จะออกอาการลมออกหู เพราะคำพูดของ ทักษิณ

“ถ้าจะมีคนวุ่นวาย ก็คนแถวบ้านในป่า”

แต่“บิ๊กป้อม”ก็เก็บอาการ ใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว รอดูสถานการณ์ชิงความได้เปรียบ หลังคนใกล้ชิดโปรยยาหอม ดีลสส.ก้าวไกลเข้าสังกัด พปชร. ได้จำนวนมากพอสร้างแต้มต่อทางการเมือง สานฝันให้ได้ลุ้นเป็นนายกฯ อีกรอบ หาก"เศรษฐา”ตกเก้าอี้

ในอีกด้านหนึ่ง หากสถานการณ์วิฤติถึงขั้นต้องหานายกฯ คนใหม่จริง ก็มีลุ้นกันว่าส้มอาจหล่นไปที่ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะโอกาสที่ “ลุงตู่” จะคัมแบค เป็นไปได้ยาก

และล่าสุด ชื่อของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ถูกมองข้ามมาตลอด ก็เริ่มถูกพูดถึงการเป็นตัวเลือกอีกคน

ดังนั้นกว่าจะถึงวันนี้( 18 มิ.ย.) มีการเช็คข่าวกันให้วุ่น สิ่งที่คุยกันไว้ยังคงเดิม หรือจะมีปัจจัยใดผันแปร เพื่อเตรียมปรับแผน ตั้งรับกันแต่เนิ่นๆ ในสถานการณ์การเมืองที่เอาแน่เอานอนไม่ได้

อีกทั้งยังมีโอกาสพลิกผัน กลายเป็นความสับสนอลหม่าน หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ สส.จะกลายเป็นผึ้งแตกรัง ต้องย้ายเข้าพรรคใหม่ภายใน 60 วัน  

แม้จะมีความเคลื่อนไหวบางส่วนเทใจไปที่ “ภูมิใจไทย” แต่ก็มีข้อกังวล เพราะภูมิใจไทยเอง ก็มีคดียุบพรรคค้างอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน

หรือจะย้ายไปอยู่พรรคใหม่ ที่“เพื่อไทย”ซุ่มจัดเตรียมไว้ให้ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง 

ขณะที่“บิ๊กป้อม”ก็พร้อมอ้าแขนรับ เปิดบ้านป่าฯ และพลังประชารัฐ ให้ สส.ก้าวไกลได้พักพิง

ดังนั้นสถานการณ์ช่วงชุลมุนจากเอฟเฟกต์คดีการเมือง หากสัดส่วนตัวเลข สส.ก้าวไกล เทไปเติมให้พรรคร่วมรัฐบาล โอกาสจะเกิดการต่อรองเพื่อนำไปสู่การปรับ ครม.ย่อมมีสูง 

จึงได้เห็นสัญญาณ “บิ๊กทิน”เร่งโปรโมทผลงานครั้งใหญ่ หวังยืดเวลานั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม ต่อไปอีกครา