ป.ป.ช.ฟัน 'อัยการ' ปมขอ จนท.กรมศุลฯ ช่วยกลุ่มบุคคลลอบนำเข้า 'นอแรด' 170 ล้าน
ป.ป.ช.ชี้มูลผิด 'อัยการ' ปมขอให้ จนท.กรมศุลกากร ช่วยเหลือกลุ่มบุคคล ลักลอบนำเข้า 'นอแรด' 12 ชิ้น มูลค่ากว่า 170 ล้านบาทเข้าประเทศโดยมิชอบ
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2567 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงถึงมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีเกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการ กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวน กรณีกล่าวหา พันตำรวจตรี วรภาส หรือนายนพรัตน์ บุญศรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดสระบุรี ให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานศุลกากรประจำสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อช่วยเหลือให้ไม่ต้องเปิดกระเป๋าเดินทางที่ภายในบรรจุนอแรด
โดยข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560 พันตำรวจตรี วรภาส หรือนายนพรัตน์ บุญศรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดสระบุรี ได้เสนอให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานศุลกากร ประจำสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มบุคคลผู้ลักลอบนำนอแรดคละขนาด จำนวน 12 นอ/ชิ้น น้ำหนักรวม 49.4 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท เข้ามาในราชอาณาจักร ไม่ให้ต้องถูกดำเนินคดีอาญา การกระทำของพันตำรวจตรี วรภาส หรือนายนพรัตน์ บุญศรี จึงเป็นการให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำของพันตำรวจตรี วรภาส หรือนายนพรัตน์ บุญศรี มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/5 วรรคหนึ่ง (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 176)
และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญา ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1)
สำหรับมูลความผิดทางวินัย เนื่องจากคณะกรรมการอัยการได้มีคำสั่งลงโทษไล่ออกพันตำรวจตรี วรภาส หรือนายนพรัตน์ บุญศรี เหมาะสมตามควรแก่กรณีแล้ว จึงไม่มีเหตุให้ต้องส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้ปรากฏเป็นข่าวดังในช่วงปี 2560 เมื่อเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เข้าตรวจยึด “นอแรด” จำนวน 21 ชิ้น น้ำหนักเกือบ 50 กิโลกรัมที่ถูกนำใส่กระเป๋าสัมภาระ ได้ที่สนามบินสวุรรณภูมิมูลค่า 170 ล้านบาท โดยพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย เจ้าหน้าที่ระดับสูงสังกัดกระทรวงยุติธรรมคนหนึ่งเดินประกบกระเป๋าพร้อมกับผู้หญิงอีก 2คน แต่หลบหนีไป
จากนั้น สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ออกเอกสารข่าวระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นหนึ่งในบุคคลที่ปรากฎคือ พันตำรวจตรีวรภาส บุญศรี รองอัยการจังหวัด คุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดสระบุรี โดยร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริการ อัยการสูงสุด ในขณะนั้น เห็นว่าการจับกุมดังกล่าวเป็นขบวนการที่สำคัญ ทางพนักงานสอบสวนเชื่อว่าเป็นขบวนการลักลอบขนนอแรดจำนวนมาก มีมูลค่าสูง และเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของสำนักอัยการสูงสุด จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมปรับย้าย พันตำรวจตรี วรภาส เป็นอัยการประจำสำนักสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีแพ่งกรุงเทพใต้ 3 สำนักงานคดีแพ่งกรุงเทพใต้ ให้มีผลตั้งแต่ 3 เม.ย.2560