อดีตผู้สมัคร สว.จ่อยื่นศาลปกครองขอไต่สวนฉุกเฉิน คุ้มครองประกาศผลเลือก สว.
อดีตผู้สมัคร สว.จ่อยื่นศาลปกครองสูงสุด ขอไต่สวนฉุกเฉิน คุ้มครองชั่วคราวประกาศผลเลือก สว.ใหม่ ชี้เชื่อมโยงการเมือง การโหวตหักหลังกันอย่างน่าเกลียด จี้ กกต.ฟัน สว.นกแล - ผู้สมัครแจ้งประวัติไม่ตรงกลุ่มอาชีพ
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ เลขาธิการกลุ่ม Clean Politic ในฐานะอดีตผู้สมัคร สว. ปี 2567 เปิดเผยว่า เตรียมยื่นศาลปกครองสูงสุด ในวันที่ 1 ก.ค.67 เวลา 10.00 น. เพื่อขอให้ศาลเปิดไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองชั่วคราวการประกาศรับรองผลการเลือก สว.ไม่ตรงปก หวั่นการเมืองสภาสูง เสียศูนย์ยิ่งกว่าสภาผัวเมีย โดยจากการติดตามข้อมูลข่าวสาร และประสบการณ์ตรงในการเลือก สว. น่าจะเป็นการเลือกที่สกปรกทางการเมืองครั้งหนึ่ง ผู้สมัครกรอกประวัติอาชีพ ไม่ตรงกลุ่มก็มี กกต.ปล่อยมาได้อย่างไร และจากมีกลุ่มก้อนทางการเมืองเข้ามาจัดการ
นายจาตุรันต์ กล่าวว่า อยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สร้างประวัติศาสตร์เร่งกู้ศักดิ์ศรี ความเชื่อมั่นต่อองค์กร ด้วยการสั่งฟันว่าที่ สว.นกแล เหตุเส้นทางเชื่อมโยงพรรคการเมืองชัดเจน รวมถึงผู้สมัครแจ้งประวัติอาชีพกับกลุ่มที่สมัครไม่ตรงกัน ส่อเจตนาบางประการ
“การเลือก สว.คราวนี้เต็มไปด้วยกลยุทธ์ หักเหลี่ยม เฉือนคม โกหก หลอกลวง หักหลังกันอย่างน่าเกลียด น่าเวทนา สุดท้ายหลังหักกันถ้วนหน้า ที่หนักหนาสาหัส จนไม่สามารถปล่อยผ่านคือ การสมัครเข้ามาเพื่อไม่ได้อยากเป็น สว.อย่างบริสุทธิ์ใจ ผิดเจตนาของรัฐธรรมนูญคือ ให้คนมาสมัครเพื่อเสนอตัวเป็นสมาชิกวุฒิสภาผู้ทรงเกียรติ” นายจาตุรันต์ กล่าว
นายจาตุรันต์ กล่าวอีกว่า ถ้าประเทศได้ สว.มีที่มาเป็นอย่างนี้ นึกไม่ออกว่าชาติบ้านเมืองจะเดินไปอย่างไร ไม่ได้มีเจตนาด้อยค่าอาชีพผู้สมัครท่านใดท่านหนึ่ง แต่การเข้าไปทำหน้าที่เป็นสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์ มีส่วนร่วมในการพิจารณาตัดสินใจ ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศชาติโดยตรง และเป็นตำแหน่งที่ใช้เงินภาษีของพี่น้องประชาชน เรามีสิทธิตรวจสอบที่มา ยิ่งถ้าได้คนที่ไร้วุฒิภาวะขาดเจตนาในการมาสมัครด้วยตนเอง และขาดความรู้ขาดประสบการณ์ ในวิชาชีพด้านนั้นจริงๆ นึกภาพไม่ออก ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร สุดท้ายการพิจารณากฎหมายก็ดีแต่งตั้งองค์กรอิสระก็ดี จะถูกสั่งซ้ายหันขวาหันจากพรรค หรือบุคคลเบื้องหลัง ที่หวังผลประโยชน์ทางการเมืองได้จัดตั้งเข้าไป ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ชัดเจนว่า สว.ต้องเป็นอิสระเป็นกลางปราศจากการครอบงำทางการเมือง ด้วยเหตุนี้
“ผมในฐานะผู้เสียหายโดยตรงซึ่งทั้งเป็นอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภาปี 67 ในครั้งนี้ และเสียหายโดยตรงอีกทางหนึ่งก็คือ เป็นประชาชนผู้เสียภาษีเพื่อเป็นเงินประจำตำแหน่งให้กับสมาชิกวุฒิสภา และผู้ช่วยอีก 8 คนในชุดนี้ จึงร้องขอให้ศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองการประกาศรับรองผลสมาชิกวุฒิสภาซึ่งคาดว่า กกต.จะประกาศรับรองในวันที่ 3 กรกฎาคม นี้ออกไปก่อน ที่จะรับรอง สว.ที่ได้มาโดยผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และผิดกฎหมายตามมาตรา 74 รู้ว่าตนไม่มีสิทธิแต่ก็มาสมัครรับเลือกตั้งตามกลุ่มวิชาชีพ 20 กลุ่ม ถือว่าเป็นการติดกระดุมเม็ดแรกผิดของ กกต.ซึ่งให้เจ้าหน้าที่รับสมัครเป็นผู้พิจารณาตีความโดยอะลุ่มอล่วยไม่ยึดหลักเกณฑ์ตามกลุ่มวิชาชีพที่กำหนดมาอย่างชัดเจน ทำให้ผู้สมัครที่ถูกจัดตั้งมาได้สมัครในกลุ่มที่มีผู้พยายามจัดตั้งคนมาลงสมัครโดยผิดธรรมชาติของวิชาชีพ” นายจาตุรันต์ กล่าว
นายจาตุรันต์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ กกต.ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนที่ กกต.จะประกาศรับรอง สว.ที่ปราศจากการครอบงำของบุคคลที่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังทางการเมืองได้อย่างไร เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของอนาคตประเทศชาติโดยรวมจึงไม่สามารถไปตายเอาดาบหน้าปล่อยผ่านการตรวจสอบอย่างถูกต้องไปก่อนได้ ด้วยเหตุข้างต้นทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ประชาชนจึงไม่สามารถไม่ไว้วางใจ และไม่สามารถปล่อยผ่านให้ว่าที่สมาชิกวุฒิสภาบางท่านในจำนวน 200 คนนี้ ให้เข้าไปทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองรับรองกฎหมายพิจารณารับรองเห็นชอบบุคคลที่เข้าไปทำหน้าที่องค์กรอิสระ ตามสั่งซ้ายหันขวาหันในสภาอันทรงเกียรติได้แม้แต่วินาทีเดียว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์