'ภูมิธรรม'เชื่อ ปม'วรชัย-พรหมินทร์'ไร้ปัญหาการสื่อสาร เชื่อมองคนละมุม

'ภูมิธรรม'เชื่อ ปม'วรชัย-พรหมินทร์'ไร้ปัญหาการสื่อสาร เชื่อมองคนละมุม

“ภูมิธรรม” เชื่อ ปม“วรชัย-พรหมินทร์”ไม่มีปัญหาการสื่อสาร ถูกทั้งสองฝ่ายแค่มองคนละมุม ควรสะท้อนกันภายในมากกว่าพูดผ่านสื่อ ทำงานร่วมกันแบบมีวุฒิภาวะ ชี้ “นายกฯ”ทำงานเยอะแต่ยาก เพราะปัฐหาทับถมมานาน

เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 67 เวลา 9.30น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของรองนายกรัฐมนตรี(นายภูมิธรรม เวชยชัย) ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การลงพื้นที่และเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี ว่าจะกลายเป็นปัญหาระหว่างคนภายในะรรคเพื่อไทยหรือไม่ ว่า คิดว่าเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหา ซึ่งขณะนี้เราก็พยายามทำความเข้าใจ ซึ่งนายวรชัยเองก็อาจจะไปรับรู้หรือรับฟังถึงปัญหาสภาพความเดือดร้อนประชาชนและพยายามสะท้อนออกมา อันที่จริงแล้วควรจะมาสะท้อนกันภายในเพราะไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่ได้รับมาครบถ้วนทั้งหมดหรือไม่ และสิ่งที่ดำเนินการอยู่ มันก็มีหลายด้านหลายเหตุผลที่จะต้องมาทำความเข้าใจในแต่ละเรื่อง เพราะวันนี้การแก้ปัญหาไม่ใช่แก้ง่ายๆ เพราะสิ่งทีเป็นปัญหาอยู่เป็นปัญหาต่อเนื่องมาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่บริหารไม่ได้ดีและสร้างปัญหามาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งสภพทางภูมิศาสตร์การเมืองที่เกิดสงครามต่างๆ และสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีปัญหา ซึ่งขณะนี้พึ่งจะเริ่มฟื้นตัวบ้าง เพราะฉะนั้นการทองทุกอย่างคงต้องรอบด้าน ตนคิดว่าหากทุกฝ่ายทำใจให้สงบและมานั่งคุยกันก็จะเข้าใจปัญหากันได้มากขึ้น

นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายวรชัยก็อาจจะสะท้อนภาพที่พี่น้องประชาชนเจอและได้เสนอมาซึ่งนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็อยู่ในสถานะการทำงานใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี การออกมาบอกว่านายวรชัยไม่รู้ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะอย่างตนก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่องของรัฐบาลที่ทำอยู่ ซึ่งตรงนี้คือการเอามุมของแค่ละคนที่เห็นและมาพูดคุยมาชั่งน้ำหนักกั ก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ ตนไม่อยากให้เรื่องนี้ยืดเยื้อเพราะที่จริงแล้วไม่ได้มีอะไร ซึ่งรัฐบาลตระหรักถึงปัญตรงนี้ดีอยู่แล้วและพยายามแก้ไข

เมื่อถามว่า จะต้องมีการพูดคุยกับนายวรชัยหรือไม่ในฐานะที่ปรึกษา นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ต้องคุยกันทุกฝ่าย ซึ่งตนก็ได้ยกไปคุยกับนายแพทย์พรหมินทร์ และตนก็ได้คุยกับนายวรชัยแล้ว ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้ต้องจบ ไม่ควรทำให้ประเด็นเล็กประเด็นน้อยถูกถามและไปขยายความที่เป็นควาทเห็นของแต่ละคน เพราะเนื่องนี้ควรที่จะรับรู้ร่วมกัน ไม่ใช่ไปใช้วิธีไปพูดผ่านสื่อ แบบนี้ตนว่ามันไม่ได้

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ส่วนตัวคิดว่า นายแพทย์พรหมินทร์คงจะจบเรื่องนี้แล้ว เพราะได้ชี้แจงในส่วนของรัฐบาลไป ซึ่งส่วนของนายวรชัยตนก็ไม่อยากให้ไปขยายความอีก ในฐานะที่เราเป็นคนทำงานร่วมกัน ดังนั้นควรยุติ

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยเป็นส่วนตัวกับนายวรชัยไปแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้พูดคุยไปแล้ง แต่ในเรื่องนี้ตนพึ่งเห็นในสองวันที่ผ่านมา ถ้าเป็นส่วนตัว ตนคิดว่าคงหยุดไปแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่สะท้อนออกมาแล้ว และไปคุยกันได้ ไม่ใช่ว่าคนหนึ่งพูดอย่างหนึ่งอีกคนพูดอีกอย่างหนึ่ง ตนมองว่านั่นไม่ใช่การทำงานที่มีวุฒิภาวะ ควรจะหยุด มีแต่จะพูดทำให้ความเชื่อมั่นและปัญหาของประเทศมากขึ้นไป ซึ่งที่จริงแล้วถูกทั้งสองฝ่ายเพียงแต่เห็นกันคนละด้าน

เมื่อถามว่า ในขณะนี้มีคนพูดถึงการทำงานของนายกรัฐมนตรีว่า “ทำดีแต่ไม่มีผลงาน” ที่จะครบ1ปีของการทำงานของรัฐบาล มองเรื่องนี้อย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องยอมรับว่านายกรัฐมนตรีทำงานหนัก และสิ่งที่กำลังทำอยู่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่สะสมมายาวนาน ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าตั้งแต่ก่อนเข้ามาเป็นรัฐบาลจะต้องเจอกับปัญหาหนักแน่ๆ เพราะสภาพที่ทับถมมานาน ดังนั้นตนคิดว่านายกรัฐมนตรีก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ และพยายามคลี่คลายในทุกจุด ซึ่งสิ่งที่นายกฯกำลังดำเนินการมันเป็นปัญหาในฟลาบเรื่อง ทั้งการผูกขาดทั้งเรื่องของเศรษฐกิจที่ซบเซาลงและเศรษฐกิจโลกก็ส่งผลกระทบ ซึ่งทุกอย่างต้องใช้เวลา ตนที่กำกับดูและกระทรวงพาณิชย์เองก็ไม่ได้เป็นอย่างที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปจนเกินเลย เพราะตัวเลขการส่งออกของ5เดือนแรกปี67 อยู่ที่2.6 ซึ่งสูงกว่าเป้าที่ประเมิณไว้ว่าจะโตได้แค่2% ซึ่งอีก7เดือนที่เหลือก็จะต้องทำให้ได้ 2.3 ซึ่งตอนนี้เราเกินเป้าอยู่แล้ว ก็ต้องมาดูว่าการค้าขายในปัจจุบันไม่ใช่กทรส่งออกแบบเดิม แต่เรากำบังเริ่มดำเนินการแบบใหม่ ซึ่งก็สามารถเพิ่มยอดค่าใช้จ่ายได้อีกแบบหนึ่ง ตนคิดว่าจะมองปัญหาเพียงจุดเดียวไม่พอ ต้องมองในภาพรวม เพราะตอนนี้เรากำลังก้าวไปข้างหน้า และวันนี้พืชผลการเกษตรก็ทำได้เยอะ ซึ่งการทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พืชผลทางการเกษตรก็ดีขึ้นทุกตัว สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ ซึ่งสิ่งที่สำคัญเราต้องไปตรวจสอบกับประชาชนที่เป็นผู้ผลิตดีขึ้นด้วยหรือไม่ เพราะฉะนั้นปัญหาหลายเรื่องมันซับซ้อน และก็ต้องดูปัจจัยอย่างอื่นไม่ใช่แค่ปัญหาของประชาชนเพียงอย่างเดียว ซึ่งวันนี้เข้ามาต้องแก้ปัญหาให้ไปถึงราก เพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปตลอดกาล

เมื่อถามว่า จากเหตุการณ์นี้ พรรคกับรัฐบาลจำเป็นต้องสื่อสารกันมากขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า สื่อสารกันดีอยู่แล้ว แต่ในตัวบุคคลอาจจะมีคลาดเคลื่อนกันได้บ้าง ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ปรับปรุงได้ไม่มีปัญหา และการทำงานของพรรคกับรัฐบาลเองก็มีอยู่แบ้วอย่างในวันอังคารรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไืยก็จะเดิยทางเข้าพรรคไปประชุม และในส่วนของสภาเราก็เข้าสภา ในวันธรรมดาเราก็ทำหน้าที่บริหารในส่วนรับผิดชอบของตนเอง รัฐมนตรีทุกคนต่างก็งานล้นมือ ต้องของเวลานิดนึงให้เราได้ทำงานจริงๆ เพราะเรากำลังทำในสิ่งที่เป็นปัญหายุ่งยาก