'นพดล' ขอคิดก่อน! รอซาวเสียงหนุนนั่งรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1
'นพดล' ขอคิดดูก่อน รอซาวเสียงหนุนชิงเก้าอี้รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ปัดล็อบบี้ต่อรองผลประโยชน์ รับ 'บุญส่ง' มีชื่อถูกเสนอนั่งรองประธานฯคนที่ 2
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2567 นายนพดล อินนา สว. ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการเสนอตัวชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจ 100% ว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งหรือไม่ ขอเวลาคิดอีก 1-2 วัน ต้องรอดูจะมีเสียงสนับสนุนจากเพื่อน สว.มากน้อยแค่ไหน ถ้ามีเสียงเพียงพอก็ยินดีทำหน้าที่ เพราะเคยเป็นสส.ทำหน้าที่ในสภาฯมา 4 ปี คิดว่าสามารถทำหน้าที่ได้ แต่ถ้ามีเสียงไม่พอก็คงไม่ลง ขอรอดูสถานการณ์ใกล้ๆวันที่ 23 ก.ค.ที่จะเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาอีกที แล้วค่อยตัดสินใจ ถ้ามีแนวโน้มมีเสียงสนับสนุนเพียงพอ ค่อยมาพิจารณาอีกครั้ง
“การรวมกลุ่มประชุมของกลุ่ม สว.อิสระ เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นการไปสร้างสัมพันธ์ ทำความรู้จักกัน การรวมกลุ่มกันเพื่อทำความรู้จักกันในการทำงานให้มีความราบรื่นเท่านั้น ไม่ได้ต้องการไปล็อบบี้ต่อรองตำแหน่ง ผมพร้อมพูดคุยกับทุกกลุ่ม เพื่อความสามัคคีการทำงาน เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน” นายนพดล กล่าว
เมื่อถามว่า สว.ที่สนับสนุนเป็นกลุ่มไหนบ้าง นายนพดล กล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอิสระ ทั้งนี้เราไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเป็นกลุ่มไหนแต่เป็นกลุ่มทั่วๆไปเนื่องจากตนมาจากอิสระตั้งแต่แรก และตนยังอยากเห็นการทำงาน ตั้งแต่แรกและตนยังอยากเห็นการทำงานของวุฒิสภาเป็นในแนวสมานฉัน ฉะนั้นใครเชิญมาอย่างไร ส่วนใหญ่ตนก็จะไปเพื่อที่จะทำเพื่อที่จะทำความรู้จักกับทุกท่าน วัตถุประสงค์คือต้องการรู้จักจริงๆ เพราะกว่าจะรับรองและเลือกมา รายงานตัวมีเวลาสั้นมากที่จะทำรายงานตัวมีเวลาสั้นมากที่จะทำความรู้จักกับทุกท่าน ดังนั้นเมื่อกลุ่มไหนเชิญมาตนก็ยินดีไปพูดคุย ทำให้การทำงานของวุฒิสภาเกิดความราบรื่น เพราะฉะนั้นการทำความรู้จักกันแบบสังคมไทยทั่วๆไปก็จะทำให้การทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น
เมื่อถามว่าเท่าที่ได้พูดคุยกันมีเปอร์เซ็นต์ที่จะได้รับการสนับสนุนให้เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่งจำนวนมากหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูอีกทีเพราะถ้าประเมินแล้วเสียงส่วนใหญ่ สนับสนุนตนก็ยินดี แต่ถ้าในวันที่ 23 ก.ค.เสียงยังมีไม่มากพอ ตนก็คงจะไม่เข้าไปสู่การเสนอชื่อ เพราะเราโหวตตัวเองได้คะแนนเดียว ที่เหลือสมาชิก 199 คะแนน จะเลือกหรือไม่ แต่ถ้าดูแล้วหลายท่านอยากสนับสนุนให้ตนไปทำหน้าที่ก็ยินดีด้วยความพร้อม
“เพราะว่าผมก็อยู่สภาผู้แทนราษฎรมา 4ปี เคยบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในฐานะรองอธิการบดี และอยู่ภาคเอกชน ภาคนักวิชาการมา ก็น่าจะมีความพร้อม และเข้าใจทุกภาคส่วน ก็น่าจะมาทำงานตรงนี้ได้ดี” นายนพดล กล่าว
เมื่อถามว่า หากประธานวุฒิสภา เป็นตำรวจหรือทหาร สามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ด้วยบุคลิกลักษณะของตน เป็นคนที่เข้ากับคนง่ายและประนีประนอม เพราะฉะนั้นไม่ว่าประธานวุฒิสภาจะมาจากส่วนไหน ตนก็ทำงานร่วมด้วยได้ เพราะตนเชื่อว่าท่านที่มาทำงานในท่านที่มาทำงานใน สว.200 คน เชื่อว่าทุกคนตั้งใจมาทำงานเชื่อว่าทุกคนตั้งใจมาทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน เวลา 5 ปีจะว่าสั้นก็สั้นจะว่ายาวก็ยาว ดังนั้นตน คิดว่าทุกคนมีความตั้งใจดีที่จะมาทำงาน คิดว่าน่าจะเป็นการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
เมื่อถามว่าได้เตรียมการแสดงวิสัยทัศน์ที่จะต้องแสดงต่อที่ประชุมไว้แล้วหรือยัง นายนพดล กล่าวว่า เรื่องวิสัยทัศน์สำหรับตนเนื่องจากเป็นอาจารย์มาก่อน และเคยอยู่สภาฯมาแล้ว ดังนั้นการเสนอวิสัยทัศน์คงจะไม่ยากสำหรับตน เพราะเราทราบปัญหาดี ว่าการประชุมสภาเป็นอย่างไรและการที่จะขับเคลื่อนสภาไปให้ได้ดีมีประสิทธิภาพจะต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นการแสดงวิสัยทัศน์น่าจะไม่มีปัญหาสำหรับตน
“การลงคะแนนเป็นการลงคะแนนลับ ผมยังคิดว่าการแสดงวิสัยทัศน์ที่ดี และแสดงให้เห็นว่าเราจะมาทำอะไรให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติประชาชนอย่างเป็นกลาง และเป็นความหวังของพี่น้องประชาชน ผมคิดว่าสมาชิกคงพิจารณาถึงจุดนี้ด้วย ไม่ว่าท่านจะมาจากกลุ่มวิชาชีพไหน เพราะทุกคนตั้งใจมาทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่สมัครมาเป็น สว.” นายนพดล กล่าว
ส่วนที่รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 มีชื่อของนายบุญส่ง น้อยโสภณ สว. อดีต กกต.นั้น นายนพดล กล่าวว่า ทราบมาแบบนั้น แต่ยังไม่ได้ถามท่านโดยตรง ส่วนจะมีรองประธานวุฒิสภาเป็นผู้หญิงหรือไม่นั้น ไม่ทราบ แต่สุภาพสตรีก็ดี เพราะให้ความเสมอภาคทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี เพราะฉะนั้นคงไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ใคร เพราะสุภาพสตรีก็มีสิทธิ์ที่จะมาทำหน้าที่ตรงนี้