ลับลวงพรางฉบับ‘บ้านจันทร์ฯ’ ดัน‘แพทองธาร’นายกฯคนที่31

ลับลวงพรางฉบับ‘บ้านจันทร์ฯ’ ดัน‘แพทองธาร’นายกฯคนที่31

ถอดรหัสลับลวงพรางฉบับ"บ้านจันทร์ส่องหล้า" เกม"ชินวัตร"รัฐบาลขั้วเดิม ดัน"แพทองธาร"นายกฯคนที่31 จับตา 31 ส.ค.วาระพ้นโทษ บทพิสูจน์“นายกฯตัวจริง”

KEY

POINTS

  • “หน้าฉาก”การเมือง ในนามรัฐบาลเพื่อไทยภาค 2 ถือว่าเปิดฉากใหม่ได้อย่างรวดเร็ว นั่นเพราะการเดินเกม“หลังฉาก” ได้มีการตระเตรียมแผน 1-2 รองรับ เอาไว้อย่างแยบยล 
  • “จากนี้ผมก็จะไปเยี่ยมเยียนประชาชนไปขอบคุณเขา แล้วจะคอยช่วยงานหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่หน้าตาเหมือนผม” แหล่งข่าวอ้างถึงประโยคสำคัญซึ่งทักษิณพูดกลางที่ประชุม สส.วันที่13ส.ค. 1วันก่อนศาลวินิจฉัย
  • “อนุทิน” ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า ในวงหารือ มีการเสนอชื่อ “ชัยเกษม” เป็นนายกฯ คนต่อไปจริง แต่เหตุไฉน ในวันรุ่งขึ้น บรรดา “พรรคร่วมรัฐบาล” แถลงจุดยืนสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย มีเงื่อนไข ต้องไม่มีแนวคิดแก้ไข มาตรา112    สื่อนัยไปถึง“ชัยเกษม” ที่เคยมีแนวคิดดังกล่าว

  • แน่นอนว่า แผนลับลวงพราง “ฉบับบ้านจันทร์”  ที่เกิดขึ้น เป็นการตอกย้ำว่า แท้จริงแล้วชื่อของ “แพทองธาร” อาจถูกจัดวางขึ้นแท่น “นายกรัฐมนตรีหญิง” มาตั้งแต่ต้น เพียงแต่รอจังหวะที่เหมาะสม

  • ต้องจับตาหลังวันที่ 16 ส.ค.ที่ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 แบบสมบูรณ์ โดย “แพทองธาร” ที่กำลังเข้าวัย 38 ปี จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุด  ท่ามกลางบรรยากาศที่เปรียบเหมือน “ละครการเมือง” ที่กำลังดำเนินไปสู่ฉากต่อไป

  • ฉากสำคัญ การพ้นโทษของ"นายใหญ่เพื่อไทย" ในวันที่ 31ส.ค.จะเป็นบทพิสูจน์ว่า ที่สุดแล้วใครคือ“นายกฯตัวจริง”

ลับลวงพรางฉบับ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” จับตาหลัง 16 ส.ค.การเมืองไทยกำลังเข้าสู่ฉากทัศน์ใหม่ ภายใต้การบริหารราชการของ “นายกรัฐมนตรี” คนที่ 31 ของประเทศไทย 

เย็นวันที่ 15 ส.ค. กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย มีมติเสนอชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่31 และถือเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ต่อจาก “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ผู้เป็นอา

“ว่าที่นายกฯหญิง” เปิดใจในเวลาต่อมา ขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุน โดยยืนยันจะทำทุกอย่างสุดความสามารถ และขอให้รอดูผลโหวตอย่างเป็นทางการ 

แพทองธาร ระบุด้วยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอชื่นชมการทำงานของ "เศรษฐา ทวีสิน" อดีตนายกฯ และเสียดายที่เกิดเรื่องแบบนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เราไม่ได้คาดฝันเอาไว้ แน่นอนว่า เศรษฐาเป็นผู้ใหญ่ที่เธอเคารพรักนับถือ ตั้งแต่ก่อนเป็นนายกฯ เพราะเป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน เสียดายโอกาสนี้ 

"แต่ประเทศต้องไปต่อ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล วันนี้มีความพร้อมผลักดันประเทศต่อ มั่นใจในพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมทุกพรรคที่จะนำพาประเทศให้หลุดพ้นวิฤติเศรษฐกิจ และแน่นอนการมารวมตัววันนี้เพื่อให้ประชาชน ได้เห็นว่าเรามีความตั้งใจมุ่มมั่นพร้อมเพียงกันผลักดันให้ประเทศไปต่อ ขอบคุณทุกท่านที่มารวมตัวกันและตกลงกันทำเพื่อประเทศชาติต่อไป”

ลับลวงพรางฉบับ‘บ้านจันทร์ฯ’ ดัน‘แพทองธาร’นายกฯคนที่31

“หน้าฉาก”การเมือง ในนามรัฐบาลเพื่อไทยภาค 2 ถือว่าเปิดฉากใหม่ได้อย่างรวดเร็ว นั่นเพราะการเดินเกม“หลังฉาก” ได้มีการตระเตรียมแผน 1-2 รองรับ เอาไว้อย่างแยบยล 

 

แกะรอย “เกมลับลวงพราง” ฉบับบ้านจันทร์ฯ มีจุดเริ่มต้นช่วงบ่ายวันที่ 14 ส.ค. หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 เสียง วินิจฉัยให้ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีคนที่30 พ้นจากตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบ มาตรา 160 (4) และ (5)จากกรณีแต่งตั้ง“พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรี  ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตน เป็นการก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯ อาจจะกระทบกระเทือนต่อศรัทธาของประชาชน

ลึกๆ แล้ว“ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่เพื่อไทย น่าจะรับรู้ถึงสัญญาณที่ไม่ค่อยสู้ดี มาตั้งแต่ก่อนวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ตอกย้ำจากการเดินทางไปยังตึกชินวัตร 3 เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2567 ก่อนศาลวินิจฉัย 1 วัน เป็นประธานการประชุม สส.เพื่อไทย แทนลูกสาว

พร้อมกับมีซีนปลุกกำลังใจ เพื่อให้การเลือกตั้งรอบหน้าทะลุ 200 ที่นั่ง

“จากนี้ผมก็จะไปเยี่ยมเยียนประชาชนไปขอบคุณเขา แล้วจะคอยช่วยงานหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่หน้าตาเหมือนผม” แหล่งข่าวอ้างถึงประโยคสำคัญซึ่งทักษิณพูดกลางที่ประชุม สส.ในวันดังกล่าว

ลับลวงพรางฉบับ‘บ้านจันทร์ฯ’ ดัน‘แพทองธาร’นายกฯคนที่31

เป็นไปตามคาด “แผนลับลวงพราง” ฉบับปัจจุบันทันด่วน ได้ถูกเปิดขึ้นที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่“ทักษิณ”ชิงเกมเร็ว จัดตั้งรัฐบาลขั้วเดิม โดยพรรคเพื่อไทยยังเป็นแกนนำ 

ข่าวที่ถูกปล่อยออกมาเวลานั้น คือ “แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล” เคาะชื่อ “ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31

ทว่า ในวันรุ่งขึ้น กลับมีกระแสตีกลับมาจากวงสส.เพื่อไทย ชื่อนายกฯไม่ใช่ “ชัยเกษม” แต่เป็น “แพทองธาร” นายน้อยเพื่อไทย

ลับลวงพรางฉบับ‘บ้านจันทร์ฯ’ ดัน‘แพทองธาร’นายกฯคนที่31

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หนึ่งในแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมวงพูดคุยที่บ้านจันทร์ฯ ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า ในวงหารือ มีการเสนอชื่อ “ชัยเกษม” เป็นนายกฯ คนต่อไปจริง 

แต่เหตุไฉน ในวันรุ่งขึ้นบรรดา “พรรคร่วมรัฐบาล” ไล่ตั้งแต่พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ  พรรคชาติไทยพัฒนา กลับพาเหรดออกมาแถลง “จุดยืนพรรค”ในการสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทยอย่างมีเงื่อนไข คือต้องไม่มีแนวคิดแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112   

สื่อนัยไปถึง“ชัยเกษม” ที่เคยมีแนวคิดดังกล่าว(ซึ่งเคยแสดงจุดยืนในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย เมื่อ 31 ต.ค.2564) แทนที่จะค้านเสียตั้งแต่ในบ้านจันทร์ส่องหล้า 

 อีกทั้ง วันเดียวกัน ยังมีการขุดปม เสี่ยงซ้ำรอย “อดีตนายกเศรษฐา” นั่นคือ ประเด็นจริยธรรมจากกรณี “ชัยเกษม” ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง “อัยการสูงสุด” ระหว่าง 1 ต.ค. 2550-30 ก.ย. 2552  อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกรณีอัยการไม่สั่งฟ้อง  “คดีถุงขนม 2 ล้านบาท” ที่มี “พิชิต ชื่นบาน” ทนายความประจำตระกูลชินวัตร กับพวกรวม 3 คนตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ที่อาจเป็นการกระทำเข้าข่ายต่างตอบแทน

กระทั่งอัยการสูงสุดต้องออกมาชี้แจงว่า “ชัยเกษม”ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ในการสั่งคดี

ลับลวงพรางฉบับ‘บ้านจันทร์ฯ’ ดัน‘แพทองธาร’นายกฯคนที่31

แน่นอนว่า แผนลับลวงพราง “ฉบับบ้านจันทร์”  ที่เกิดขึ้น จึงยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า แท้จริงแล้วชื่อของ “แพทองธาร” อาจถูกจัดวางขึ้นแท่น “นายกรัฐมนตรีหญิง” มาตั้งแต่ต้น เพียงแต่รอจังหวะที่เหมาะสม

แม้ก่อนหน้าจะมีกระแสข่าวว่า “แพทองธาร”ยังไม่พร้อมก็ตาม แต่ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจ รวมถึงการพูดคุยร่วมกันของคนใน “ตระกูลชินวัตร”  ทั้งนายใหญ่ นายหญิง และนายน้อย

สอดรับกับสัญญาณปฏิญญาเขาใหญ่  เมื่อช่วงปลายเดือนก.ค. หลังจากวันนั้น “เสี่ยหนู ” อนุทิน ซึ่งถูกจับตาว่า อาจมีลุ้นเป็น “หัวขบวน” คนใหม่แทนพรรคเพื่อไทย พูดกับนักข่าวว่า หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ภูมิใจไทยก็ยังอยู่กับเพื่อไทย

ยิ่งไปกว่านั้น ท่ามกลางข่าวคราวการเปิดดีลอย่างไม่เป็นทางการ ที่“เสี่ยหนู”แลกเปลี่ยนกับ“นายใหญ่เพื่อไทย”ถึงคิวนายกฯ ลำดับถัดไป หากเป็น“อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร”เขาพร้อมสนับสนุน แต่หากไม่พร้อม เขาก็พร้อมรับไม้ต่อ

จึงยิ่งเป็นการตอกย้ำแผนลับลวงพรางฉบับ“บ้านจันทร์ส่องหล้า”ว่า แท้จริงแล้ว ชื่อของ “ชัยเกษม”อาจตัวหลอกมาตั้งแต่ต้น 

เพราะครั้นการจะเสนอชื่อ “แพทองธาร” ตั้งแต่ทีแรก อาจกลายเป็นการสร้างความคลางแคลงใจให้กับ “อดีตนายกฯเศรษฐา” ถึง “ทฤษฎีสมคบคิด” เพื่อเปิดทาง “นายน้อย” ขึ้นแท่นนายกฯหญิง

จึงเป็นที่มาของการโยนชื่อ “ชัยเกษม” ออกมาช่วงค่ำวันที่ 14 ส.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ “แพทองธาร” อยู่ระหว่างการเดินทางกลับจากต่างประเทศ หลังเดินทางไปศึกษาดูงานในหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ มินิ วปอ.​ ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน​ ระหว่างวันที่​ 12 -​ 15 ส.ค.

ลับลวงพรางฉบับ‘บ้านจันทร์ฯ’ ดัน‘แพทองธาร’นายกฯคนที่31

ล่าสุด“อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร”โพสต์ภาพผ่านไอจีสตอรี่ “ingshin21” รับประทานมื้อเที่ยงกับอดีตนายกฯเศรษฐา วันที่ 15 ส.ค. วันก่อนโหวตนายกฯ จึงเป็นเสมือนการสื่อนัย แสดงความบริสุทธ์ใจ ไม่มีส่วนรู้เห็น แผนลับลวงพรางแต่อย่างใด

ต้องจับตาหลังวันที่ 16 ส.ค.ที่ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 แบบสมบูรณ์ โดย “แพทองธาร” ที่กำลังเข้าวัย 38 ปี จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุด 

ท่ามกลางบรรยากาศที่เปรียบเหมือน “ละครการเมือง” ที่กำลังดำเนินไปสู่ฉากต่อไป ภายใต้สถานการณ์ ที่การต่อรองทางการเมืองเพิ่งเริ่มต้น สารพัดเรือธงสีต่างๆ ที่รอสะสาง ย่อมกลายเป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาลเพื่อไทย ภาค 2 ในการกู้วิกฤติและความเชื่อมั่นกลับคืนมา 

ฉากสำคัญ การพ้นโทษของ"นายใหญ่เพื่อไทย" ในวันที่ 31ส.ค.จะเป็นบทพิสูจน์ว่า ที่สุดแล้วใครคือ“นายกฯตัวจริง”