ถอดรหัส 'นายกฯ อิ๊ง' - ‘ประสานพลัง’ ดันเรือธงเพื่อไทย

“3 ปีที่เหลือตามวาระของรัฐสภา ดิชั้นในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร จะขอทำหน้าที่ร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง เปิดพื้นที่ในการรับฟังทุกความคิดเห็น เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง”

“พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทุกท่าน ภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการทำงานของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ดิฉันมีความมุ่งหวังที่จะประสานพลังของคนทุกรุ่น ประสานพลังของบุคคลที่มีความสามารถในประเทศไทยจากทุกภาคส่วน ทั้งคณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล ข้าราชการ เอกชน และพี่น้องประชาชน”

ถ้อยแถลง คำมั่นสัญญาประชาคมที่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ได้เปิดใจเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 ภายหลังพิธีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ที่อาคารวอยซ์สเปซ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่ ถนนวิภาวดีรังสิต

สปีชดังกล่าว มีนัยไม่ต่างจากถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรี ชินวัตร ก่อนหน้านี้ 2 คนคือ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้เป็นพ่อแท้ๆ เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งนายกฯ คนที่ 23 เมื่อปี 2544 และ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ผู้เป็นอาแท้ๆ เข้ารับตำแหน่งนายกฯ คนที่ 28 เมื่อปี 2554

“ผมขอทำหน้าที่เป็นรัฐบาลที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเททำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต” คือคำแถลงของ “ทักษิณ” เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544

“จะมุ่งมั่นใช้ความรู้ ความสามารถ ทุ่มเททำงานเพื่อสร้างสุข สลายทุกข์ ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ โดยจะไม่ทำเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จะทำเพื่อประเทศชาติ และคนไทยทุกคน” คำแถลง ของ “ยิ่งลักษณ์” เมื่อครั้งรับตำแหน่งนายกฯ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2554

13 ปีต่อมา “แพทองธาร” ลูกสาว “ทักษิณ” หลานสาว “ยิ่งลักษณ์” เข้าพิธีแต่งตั้งเป็นนายกฯ คนที่ 31 คีย์เวิร์ด “ดิฉันมีความมุ่งหวังที่จะประสานพลังของคนทุกรุ่น”

สะท้อนนัยว่า นายกฯ นารี คนที่ 2 ของไทย เตรียมผลักดันขับเคลื่อนนโยบายจากรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เพื่อนำนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนขับเคลื่อนต่อไปอย่างไร้รอยต่อ

ด้าน แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ถอดรหัสคำว่า “ประสานพลังของคนทุกรุ่น” ของนายกฯ อิ๊ง แพทองธาร ว่า นายกฯ คนใหม่จะต้องชูธงผลักดันเรื่องนโยบายที่เป็นเรือธงต่อ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหายาเสพติด การเพิ่มรายได้ให้กับประเทศผ่านการท่องเที่ยว แน่นอนว่าเรื่องนโยบายของรัฐบาลชุดที่แล้วดำเนินการเห็นประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย จำเป็นต้องผลักดันต่อ เพื่อหาฉันทามติร่วมกัน

โดยเฉพาะนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เพราะประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด และฝ่ายค้านก็ไม่คัดค้านเรื่องนี้ ซึ่งนโยบายนี้แทบจะไม่มีความเห็นต่างกัน แต่ถ้าฝ่ายค้านจะคัดค้าน ต้องถามว่าด้วยเหตุผลอะไร และแน่นอน ทุกนโยบายก่อนออกคำแถลงนโยบายของรัฐบาล ก็ต้องพูดคุยกันในพรรคร่วมรัฐบาลก่อน

ส่วนการขอความร่วมมือกับฝ่ายค้านในสภาฯ นั้น “แหล่งข่าวพรรคเพื่อไทย” ระบุว่า การขอความร่วมมือฝ่ายค้านทำอยู่แล้ว ผ่านวิปรัฐบาล ซึ่งหากเป็นกฎหมายฝั่งรัฐบาล และผลประโยชน์ร่วมกันกับประชาชน ก็เชื่อว่าทุกฝ่ายในสภาฯ จะเห็นพ้องร่วมกัน

“เรื่องการประสานพลังทุกกลุ่ม เพราะคุณอิ๊งเป็นคนอยู่ในเจเนอเรชั่นตรงกลาง คุณอิ๊งย้ำไม่ลืมทั้งคนรุ่นเก่าและใหม่ จะเป็นตัวเชื่อมให้กับทุกฝ่าย ซึ่งความต่างจากนายกฯ เศรษฐา ก็คือ ด้วยสไตล์ ความเป็นผู้หญิงที่มีความละเอียดอ่อน นอกจากนี้คุณอิ๊งยังเติบโตมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ได้ใกล้ชิดกับสส.ในพรรค ทำให้ภาพการประสาน และเชื่อมกับทุกฝ่ายในพรรคมีสูง” แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ระบุ

สำหรับบทบาท ของ “แพทองธาร” ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่คอยสนับสนุนงานพรรคอย่างเต็มตัวนั้น โดยก่อนหน้านี้เป็นตัวเชื่อม สส.ทุกรุ่นภายในพรรค ทั้งการเปิดอบรมทีม PTP Academy ซึ่งมี สส.รุ่นใหม่ และสส.ที่เป็นผู้ใหญ่ของพรรค โดยติวเข้มในการทำงานด้านวิชาการ เพื่อให้ทีมงาน สส.ที่ผ่านการอบรมนี้มีความแหลมคม และสนับสนุนงานภายในรัฐสภาได้

อย่างไรก็ตาม ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่เคยชูธงในห้วง “รัฐบาลเศรษฐา” ยังต้องผลักดันต่ออย่างแน่นอน

ทั้งยุทธศาสตร์ “เพิ่มรายได้” 6 ประเด็น 1.การต่างประเทศเชิงรุก 2.เพิ่มราคาสินค้าเกษตร 3.ขับเคลื่อนการท่องเที่ยว 4.เร่งการลงทุน 5.เพิ่มรายได้ประชาชนโดยการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และเงินเดือน 6.ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

ยุทธศาสตร์ “ลดรายจ่าย” 4 ประเด็น 1.ลดค่าใช้จ่ายพลังงาน 2.พักหนี้เกษตรกร 3.แก้หนี้ประชาชน 4.ปราบอาชญากรรมออนไลน์

ยุทธศาสตร์ “ขยายโอกาส” 11 ประเด็น 1.ขับเคลื่อนดิจิทัลวอลเล็ต 2.ยกระดับบริการสาธารณสุข 30 บาทรักษาทุกที่ดำเนินการแล้ว 40 จังหวัด 3.แก้ปัญหายาเสพติด 4.แก้น้ำกิน-น้ำใช้ทั้งระบบ 5.เร่งรัดออกโฉนด 6.แก้วิกฤติ PM2.5 ที่ต้นตอ

7.ผ่านกฎหมายฉบับสำคัญ 8.ปรับลดกำลังกองทัพอย่างมีขั้นตอน 9.การคมนาคม ลดภาระประชาชน สร้างอนาคตประเทศไทย 10.รับมือวิกฤติทันการณ์ เพื่อความเชื่อมั่นประเทศไทย และ 11.หวยเกษียณ กระตุ้นการออมแบบสมัครใจแก้ปัญหาคนไทยแก่คนไม่มีเงินเก็บ

สำหรับไฮไลต์ที่ประชาชนทั้งประเทศกำลังรอลุ้น "ดิจิทัลวอลเล็ต" นั้น "แพทองธาร" ในฐานะนายกฯ ย้ำว่า "ท่านทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้สั่งล้มดิจิทัลวอลเล็ต ขอยืนยันความตั้งใจในการผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ"

“สิ่งที่ทำต่อไป คือ ต้องมีการศึกษาเนื้อหารายละเอียด ยืนยันความตั้งใจกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ยังต้องอยู่แน่นอน แต่ต้องอยู่ในระเบียบวินัยการเงินการคลัง”

คำแถลงแม้จะยืนยันผลักดัน “เงินหมื่น” ต่อ แต่ก็มีความกังวลที่อาจเจอขวากหนามระหว่างทาง ทำให้ต้องศึกษาตัวนโยบายให้ชัดเจนอีกครั้ง

ปฏิเสธไม่ได้ เรือธง “ดิจิทัลวอลเล็ต” จะไปต่อหรือล้มลงนั้น ล้วนเกี่ยวพันกับสถานะของรัฐบาลแพทองธาร นายกฯ หญิงคนใหม่ นับจากนี้ 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์