'เพื่อไทย' หาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก ยังชูนโยบายแจกเงินดิจิทัล
'อนุสรณ์' ลงพื้นที่ช่วยหาเสียง 'จเด็ศ' ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมชิงเก้าอี้ สส.พิษณุโลก เขต 1 ยังชูนโยบาย 'แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต' เหตุประชาชนยังคงชื่นชม-เรียกร้อง
เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2567 ที่ จ.พิษณุโลก นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ช่วยนายจเด็ศ จันทรา หรือ "บู้" ผู้สมัคร สส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคเพื่อไทย หาเสียงเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง โดยจุดแรก ได้ลงพื้นที่ ชุมชนเมืองอรัญญิก ตำบลอรัญญิก อำเภอเมืองพิษณุโลก เพื่อเดินพบปะพี่น้องประชาชนตามบ้านพัก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยมีพี่น้องประชาชน ออกมาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง และช่วงหนึ่งนายจเด็ศ ได้ร่วมทดลองชงกาแฟโบราณ จากรถเข็นที่ผ่านมา พร้อมพูดคุยเรื่องการส่งเสริมอาชีพ เพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วย จากนั้นได้ขึ้นรถปราศรัย ไปตามชุมชนต่างๆ เพื่อนำเสนอนโยบาย และรับฟังปัญหาด้วย
นายอนุสรณ์ กล่าวขณะลงพื้นที่ว่า ตนไปร่วมหาเสียงในหลายพื้นที่ ครั้งนี้แม้จะเป็นการเลือกตั้งซ่อม แต่กระแสความตื่นตัวของพี่น้องประชาชนถือว่าสูงมาก ซึ่งนายจเด็ศ เป็นคนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทย ที่พี่น้องประชาชนชาวพิษณุโลกฝากความหวังในการเข้าไปเติมเสียงให้กับ รัฐบาลเพื่อไทย เพื่อไปขับเคลื่อนผลักดันเดินหน้านโยบาย ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งเป็นนโยบายเรือธง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินตรงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระจายเม็ดเงินไปสู่ชุมชนทั่วทั้งประเทศ
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ลงพื้นที่หลายวันพบว่า ประชาชนชาวพิษณุโลกต่างชื่นชมและเรียกร้องให้ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ได้เกิดขึ้นโดยเร็ว ดังนั้นจึงขอทุกๆเสียงของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลก เลือกนายจเด็ศ พรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทยเข้าไปรับใช้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลก
ขณะที่นายจเด็ศ กล่าวว่า ตนไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเขต 1 จึงต้องทำการบ้านอย่างหนัก ทั้งการรับฟังความคิดเห็นผู้นำชุมชน พี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อรับฟังสิ่งที่ชาวพิษณุโลก อยากให้ตนช่วยขับเคลื่อน โดยก็พบหลายปัญหา เช่น การกำจัดขยะ ดังนั้น หากให้โอกาสเลือกตน ก็จะสามารถเข้าไปประสานงานกับรัฐบาล รวมถึงท้องถิ่น เพื่อเดินหน้าแก้ปัญหาได้ทันทีด้วย ซึ่งถ้าเลือกตน จังหวัดพิษณุโลก จะเปลี่ยนไป เพราะตนพร้อมประสาน ติดตาม และพัฒนา วันนี้ ตนจึงขอโอกาสปลุกยักษ์ที่หลับใหล ให้ตื่นขึ้นมา ให้สมกับคำว่าเมืองหลวงของภาคเหนือตอนล่าง
นายจเด็ศ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาล ก็ได้ขับเคลื่อนโครงการจนเห็นผลแล้วหลายโครงการ เช่น 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ซึ่งถือเป็นการยกระดับการบริการด้านสาธารณสุข การแก้ปัญหายาเสพติด ด้วยการลดปริมาณครอบครองยาบ้าเหลือ 1 เม็ด ช่วยลดรายจ่าย เพิ่มราคาสินค้าเกษตร และกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยจะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมา รัฐบาล ผลักดันจนสำเร็จมาแล้วจำนวนมาก ดังนั้น ตนพร้อมที่จะช่วยประสานให้รัฐบาล ช่วยขับเคลื่อนโครงการ และแก้ปัญหาในจังหวัดพิษณุโลกทันที