ส่องปม 'นายกฯ-5 รัฐมนตรี’ เสี่ยงสะดุดด่านองค์กรอิสระ

ส่องปม 'นายกฯ-5 รัฐมนตรี’ เสี่ยงสะดุดด่านองค์กรอิสระ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า รัฐบาลนี้ มีสารพัดนักร้องซุุ่มเก็บข้อมูลเตรียมพร้อม แม้ว่าสํานวนไม่ต่างกัน เพราะรู้ว่าต้องร้องตรงจุดไหน แต่ต่างคนต่างร้อง ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ทำให้นายกฯ และรัฐบาลบริหารลําบาก

KEY

POINTS

  • พลิกแฟ้มคำร้องกล่าวหาอย่างเป็นทางการ “อุ๊งอิ๊ง-พ่วง 5 รัฐมนตรี” ในมือ กกต.-ป.ป.ช.
  • ส่วนใหญ่สืบเนื่องจากคำวินิจฉัยศาล รธน.สั่ง “เศรษฐา” พ้นเก้าอี้นายกฯ กระทบชิ่งอีกหลายคน
  • ทั้งปมมติ กก.บห.เพื่อไทย เห็นชอบ “เศรษฐา” ตั้ง “พิชิต” ส่อถูกยุบพรรคหรือไม่
  • ประเด็น “นักโทษเทวดา” ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาร้องอีกครั้ง
  • กรณียื่นบัญชีทรัพย์สิน 3 รัฐมนตรีโดน “เรืองไกร” จองกฐิน มี 2 คน ป.ป.ช.รับสอบแล้ว
  • ปมยุบพรรคภูมิใจไทย คำร้องค้างใน กกต.นานนับปี ยังคงรอสอบอยู่

แม้จะเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ เริ่มหนึ่งทำงานอย่างเป็นทางการไปแล้วสำหรับ ครม.“แพทองธาร” โดยเรียกประชุม ครม.นัดพิเศษ ถกทิศทางนำเสนอนโยบาย ก่อนแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ระหว่างวันที่ 12-13 ก.ย.นี้ก็ตาม  แต่ยังหลงเหลือ “อุปสรรคสำคัญ” ที่อาจทำให้การดำเนินงานต่าง ๆ ไม่ราบรื่น

โดยเฉพาะประเด็น “นักร้อง” ที่ยื่นคำร้องสอบ “นายกฯ-รัฐมนตรี” บางคน บางเรื่องค้างตั้งแต่สมัย “รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน” บางเรื่องเพิ่งมาร้องภายหลัง “แพทองธาร ชินวัตร” นั่งเก้าอี้นายกฯคนที่ 31 ก็มี

เริ่มจาก “มือดี” ที่ต่อมาใช้ชื่อว่า “คณะนิติชน-เชิดชูธรรม” ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยุบพรรคเพื่อไทย หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นตำแหน่งนายกฯ ปมแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรี ทั้งที่ขาดคุณสมบัติและฝ่าฝืนจริยธรรม

โดยในคำร้องส่วนหนึ่งอ้างคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่า ก่อนแต่งตั้ง “พิชิต” เป็นรัฐมนตรีนั้น “เศรษฐา” เข้าพบ “บุคคลหนึ่ง” ที่ “พิชิต” เป็นหัวหน้าทนายความประจำตัว เป็นมูลเหตุให้ “เศรษฐา” ต้องการเอื้อประโยชน์แก่ “บุคคลดังกล่าว” และเสนอแต่งตั้ง “พิชิต” เป็นรัฐมนตรี ทั้งที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง รวมทั้งยินยอมให้ “พิชิต” และ “บุคคลอื่น” ใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งนายกฯของ “เศรษฐา” เพื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีโดยมิชอบ

คำร้องนี้กลายเป็นโจษขานไปทั่วองคาพยพทางการเมือง เพราะเป็นการร้องเรียนในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่ง “เศรษฐา” พ้นตำแหน่ง และ “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” เพิ่งได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร เสียงข้างมากเห็นชอบให้นั่งเก้าอี้ “นายกฯ” คนที่ 31 หมาด ๆ

แม้ว่า “บิ๊กเนมค่ายสีแดง” ดูเหมือนจะเมินคำร้องดังกล่าว โดยยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามข้อกฎหมาย แต่ “มือดี” คนเดิมได้ยื่นคำร้องเพิ่มเติมแก่ กกต. อีกอย่างน้อย 3 คำร้องด้วยกัน 

คราวนี้มีการกล่าวหา “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” โดยตรงด้วย ซึ่งเป็นประเด็นสืบเนื่องจากคำร้องฉบับแรก เพราะเห็นว่า การที่ “เศรษฐา” เห็นชอบแต่งตั้ง “พิชิต” เป็นรัฐมนตรีนั้น เป็นมติของคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพื่อไทย (ขณะนั้น) ซึ่งมี “แพทองธาร” เป็นหัวหน้าพรรค

 จึงยื่นคำร้องให้ กกต.สั่งให้ กก.บห.เพื่อไทย พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ รวมถึงส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะความเป็นนายกฯของ “แพทองธาร” ว่าต้องสิ้นสุดลงหรือไม่ เนื่องจากอาจเป็นผู้ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และอาจมีพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ลักษณะเดียวกับ “เศรษฐา” ที่โดนเด้งมาแล้ว

ล่าสุด การร้องเรียนดังกล่าวยังไม่จบ เมื่อ “มือดี” คนเดิม ยื่นคำร้องเป็นฉบับที่ 4 ถึง กกต.ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสถานะนายกฯของ “แพทองธาร” จากการแต่งตั้ง “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” เป็น รมว.ยุติธรรม รอบ 2 

ซึ่ง “พ.ต.อ.ทวี” รมว.ยุติธรรม ยุค “รัฐบาลเศรษฐา” ถูกกล่าวหาว่า เอื้อประโยชน์ให้ “ทักษิณ” เมื่อครั้งเป็นผู้ต้องขัง ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลดีกว่าผู้ต้องขังรายอื่นหรือไม่ โดยอ้างผลตรวจสอบจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) บ่งชี้ว่าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลตำรวจ เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม

ส่องปม \'นายกฯ-5 รัฐมนตรี’ เสี่ยงสะดุดด่านองค์กรอิสระ

นอกจาก “อุ๊งอิ๊ง” ในฐานะนายกฯแล้ว ยังร้องเรียน “พ.ต.อ.ทวี” โดยขอให้ กกต.ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสถานะความเป็นรัฐมนตรีอีกด้วย เพราะการที่ “พ.ต.อ.ทวี” ไม่สั่งการใด ๆ แสดงว่ารู้เห็นหรือยินยอมให้มีการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องเช่นนั้นหรือไม่

นอกจากนี้ “แพทองธาร” ยังถูก “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” ร้อง กกต.ให้ตรวจสอบการลาออกจากกรรมการบริษัทในเครือข่าย “ชินวัตร” ประมาณ 20 บริษัท ในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ กทม. ปทุมธานี นครราชสีมา ลำพูน ภายในวันเดียวกัน ซึ่งในจำนวนนี้มีการลาออกจากกรรมการในบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ด้วย 

รวมถึงให้ตรวจสอบจริยธรรมว่า “แพทองธาร” ยินยอมให้ “ทักษิณ” ครอบครองตำแหน่งนายกฯแทนหรือไม่ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการ “ครอบงำ” พรรคการเมือง

โดยสรุป บรรดารัฐมนตรีชุดใหม่ใน “ครม.แพทองธาร 1” มีอย่างน้อย 6 คนที่ถูกร้องเรียนกล่าวหาในชั้น กกต. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดังนี้

1.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูก “คณะนิติชน-เชิดชูธรรม” ร้องต่อ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถอดถอนพ้นจากตำแหน่งนายกฯ กรณีเป็นหนึ่งใน กก.บห.เพื่อไทย เห็นชอบเศรษฐา แต่งตั้งพิชิต และกรณีแต่งตั้ง “พ.ต.อ.ทวี” เป็น รมว.ยุติธรรม รอบ 2 

ถูก “เรืองไกร” ร้อง กกต.ให้ตรวจสอบการลาออกจากกรรมการบริษัทอย่างน้อย 20 แห่ง 4 จังหวัด ในวันเดียวกัน และถูกร้องสอบจริยธรรมปมปล่อยให้ “ทักษิณ” ครอบครองตำแหน่งนายกฯ หรือไม่

2.พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ถูก “คณะนิติชน-เชิดชูธรรม” ร้องเรียนต่อ กกต.ให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถอดถอนจากตำแหน่งรัฐมนตรี กรณีเมินเฉยไม่สั่งการ ปมร้องเรียนกล่าวหา “นักโทษเทวดา” ชั้น 14 รพ.ตำรวจ

3.นภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ กรณีถูกเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ “เงินลงทุน” ที่ยื่นในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ปัจจุบัน ป.ป.ช.รับเรื่องไว้ตรวจสอบแล้ว

4.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กรณีถูกเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ “เงินลงทุน” ที่ยื่นในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ปัจจุบัน ป.ป.ช.รับเรื่องไว้ตรวจสอบแล้ว

5.สุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม กรณีถูกเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบว่ายื่นบัญชีทรัพย์สินถูกต้องหรือไม่ ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าว่า ป.ป.ช.รับเรื่องไว้ตรวจสอบแล้วหรือไม่

6.ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบ กรณีการแจ้งถือครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 ในบัญชีทรัพย์สินเมื่อครั้งเป็น สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย จำนวน 30 ไร่ มูลค่า 3 แสนบาท

ส่วนคำร้องอื่น ๆ ที่เกี่ยวพันกับรัฐบาลชุดนี้ ได้แก่

1.คำร้องของ “คณะนิติชน-เชิดชูธรรม” ต่อ กกต.กล่าวหายุบพรรคเพื่อไทย จากที่ “อุ๊งอิ๊ง-กก.บห.” เห็นชอบให้ “เศรษฐา” แต่งตั้ง “พิชิต”

2.คำร้องยื่นยุบพรรคภูมิใจไทยจากนักร้องหลายคน ซึ่งผ่านไปนานนับปีแล้ว กรณีกล่าวหาว่ารับบริจาคเงินโดยมิชอบ โดยอ้างอิงถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คดีสั่ง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” พ้นตำแหน่ง รมว.คมนาคม ตอนหนึ่งว่า มีการให้ “นอมินี” ไปถือหุ้นใน หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น และ หจก.ดังกล่าวบริจาคเงินให้พรรคภูมิใจไทย

ปฏิเสธไม่ได้ว่า รัฐบาลนี้ มีสารพัดนักร้องซุุ่มเก็บข้อมูลเตรียมพร้อม แม้ว่าสํานวนไม่ต่างกัน เพราะรู้ว่าต้องร้องตรงจุดไหน แต่ต่างคนต่างร้อง ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ทำให้นายกฯ และรัฐบาลบริหารลําบาก 

ทั้งหมดคือคำร้องกล่าวหา “อย่างเป็นทางการ” กับบรรดา “รัฐมนตรี” ใน “ครม.แพทองธาร 1” ดังนั้นคงต้องรอดูว่าจะแก้ข้อกล่าวหาเหล่านี้เพื่ออยู่รอดให้ “ครบเทอม” หรือว่าจะซ้ำรอย “รัฐบาลเศรษฐา” รอวัดฝีมือ