ผู้ว่าฯ กทม.ถอดบทเรียนปมรถบัส นร. เข้มตรวจคุณภาพ ลั่นไม่งดทัศนศึกษา
'ผู้ว่าฯ กทม.' เสียใจเหตุรถบัสนักเรียน สั่งถอดบทเรียน เข้มหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจคุณภาพรถ-คนขับ เตรียมตั้ง กก.พิจารณา TOR จ้างรถให้ได้มาตรฐาน ลั่นไม่งดทัศนศึกษา ชี้เป็นการพาเด็กไปหาประสบการณ์ เตรียมพร้อมสร้างความปลอดภัยสูงสุด
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2567 ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) กล่าวถึงกรณีรถบัสนักเรียนเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถบัส ในส่วนของ กทม.จะมีมาตรอย่างไร ว่า รถบัสของ กทม.จะมี 2 ส่วน คือ รถของเราเอง เช่น สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว จะมีรถประมาณ 80 คัน เพื่อจัดนักกีฬาไปแข่งจังหวัดต่าง ๆ ได้สั่งการว่าต้องเข้มงวดเรื่องการตรวจคุณภาพทั้งในแง่ของรถและคนขับ
ส่วนรถที่ออกไปทัศนศึกษาต่าง ๆ ขั้นแรกคือต้องทบทวน TOR ที่จ้าง เพราะเราจ้างคนนอกมา ซึ่งได้สั่งการให้ทบทวนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพราะที่ผ่านมาแต่ละโรงเรียนอาจออก TOR ไม่เหมือนกัน โดยให้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ อาทิ จะใช้รถแก๊สหรือไม่ การตรวจสอบอุปกรณ์ความปลอดภัย จะใช้รถสองชั้นหรือรถชั้นเดียว เหล่านี้ต้องให้ชัดเจน ซึ่งจะให้มีคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาตรงนี้ให้ละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้งหนึ่ง
นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการทัศนศึกษาของ กทม.นั้น กทม.ได้รับเงินที่รัฐบาลให้มา 300 บาทต่อหัว ส่วนใหญ่เป็นการทัศนศึกษาในกรุงเทพฯ ไปไกลสุดแค่ดรีมเวิลด์ ถ้าเป็นเด็กเล็กก็มาที่สยาม และส่วนใหญ่ก็จะมีรถตำรวจนำทุกครั้งเพราะว่าเราเดินทางไปจำนวนมาก ฉะนั้น ได้สั่งการให้ทบทวนความเหมาะสมในกรณีเด็กเล็กมาก ๆ เช่น เด็กอนุบาล ว่าสรุปแล้วมีความเสี่ยงตรงไหน จะเพิ่มมาตรการความปลอดภัยอย่างไร ทั้งนี้ ยังไม่ได้สั่งการให้หยุด แต่ให้พิจารณาตามความเหมาะสม คิดว่ากิจกรรมทัศนศึกษามีเหตุผลที่เป็นเชิงบวกในการพาเด็กไปหาประสบการณ์ ขณะเดียวกันคงต้องดูเรื่องเชิงลบควบคู่ด้วย
ส่วนกิจกรรมลูกเสือเนตรนารี กทม. มีค่ายของเราเองที่ดอนเมืองกับที่ทุ่งครุ ส่วนใหญ่ก็อยู่ในกรุงเทพฯ เป็นหลัก ก็คงให้หลีกเลี่ยงต่างจังหวัดให้มากที่สุด ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไป เพราะเป็นหน้าที่เราต้องดูแลเด็ก ๆ แทนพ่อแม่เขา ซึ่งบางครั้งก็มีจุดที่อาจเป็นอันตรายได้
“ในภาพรวมคือ กทม. เน้นเรื่องการตรวจมาตรฐานความปลอดภัยของรถ โดยเฉพาะรถของเราเองที่มีอยู่ ต้องทำให้มั่นใจ รถจะต้องผ่านการตรวจทั้งโดยกองโรงงานช่างกล ของ กทม. และโดยกรมการขนส่งทางบก ซึ่งกองโรงงานช่างกลจะต้องตรวจให้ดีกว่ามาตรฐานข้างนอกเสียก่อน ส่วนการตรวจของข้างนอกก็ให้เป็นไปตามกฎหมายที่จะต้องมีการนำรถไปตรวจประจำอยู่แล้ว” นายชัชชาติ กล่าว
สั่งถอดบทเรียน เตรียมพร้อมสร้างความปลอดภัยสูงสุด
นายชัชชาติ กล่าวแสดงความเสียกับต่อกรณีเกิดอุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษาของเด็กนักเรียนจาก จ.อุทัยธานี เกิดเพลิงลุกไหม้ส่งผลให้มีครูและเด็กนักเรียนเสียชีวิต ว่า ถือเป็นเรื่องที่เศร้ามาก ๆ เป็นบทเรียนราคาแพงมาก และได้สั่งการให้รองผู้ว่าฯ ศานนท์ (นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร) ที่รับผิดชอบดูแลด้านการศึกษาของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้นำสิ่งที่เกิดขึ้นมาเป็นบทเรียนเพื่อปรับปรุงให้เกิดความมั่นใจในการรับผิดชอบชีวิตเด็ก ๆ ที่มาเรียนโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการศึกษา ได้พิจารณาเพิ่มความเข้มงวดมาตรการดูแลความปลอดภัยและป้องกันเหตุอันตรายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมทัศนศึกษานอกโรงเรียนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร รวมถึงประสานสำนักงานเขตและโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ทุกคนได้รับความปลอดภัยสูงสุดในการจัดกิจกรรมทัศนศึกษาของโรงเรียน อาทิ ให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยและป้องกันเหตุอันตรายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการจัดกิจกรรมทัศนศึกษา โดยพิจารณาความเหมาะสมของนักเรียนในแต่ละช่วงวัย จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม และครูผู้ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมดูแลให้เพียงพอ ระยะทางในการเดินทาง ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของยานพาหนะที่ใช้โดยสารโดยเฉพาะรถที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ (LPG หรือ NGV) ความพร้อมของอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยภายในรถ ประตูฉุกเฉิน อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นประจำรถ ผู้ขับรถต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถถูกต้องตามชนิดและประเภทของรถที่ตนเองขับ และมีช่องทางหรือระบบการติดต่อสื่อสาร รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานงานทุกระยะในการดูแลนักเรียนให้ได้รับความปลอดภัยตลอดการเดินทาง ตลอดจนมีแผนสำรองกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
กรณีรถบัสที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักการศึกษา มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษา และกิจกรรมต่าง ๆ เช่น กิจกรรมตามนโยบายผู้บริหารกรุงเทพมหานคร กิจกรรมลูกเสือหรือยุวกาชาด และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนของโรงเรียนที่สอดคล้องกับหลักสูตรการเรียนการสอน สำนักการศึกษามีมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับนักเรียน ครูผู้ดูแล และบุคลากรอื่น ๆ ในระหว่างการเดินทาง เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยมีแนวทางดำเนินการที่ครอบคลุมด้านความปลอดภัย การเตรียมความพร้อม และการจัดการในกรณีฉุกเฉินอย่างเป็นระบบ
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ได้กำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อส่งเสริมความรู้ ทักษะ และมีการฝึกซ้อมกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ให้แก่นักเรียนโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ครูและบุคลากรทางการศึกษาของกรุงเทพมหานคร ผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียน ตลอดจนผู้ปกครอง โดยส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและสาธิตการใช้เครื่องมือดับเพลิงเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัย มีการซักซ้อม อบรม ชี้แจง เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ทุกภาคเรียน หรืออย่างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง โดยเฉพาะ “เส้นทาง” ในการออกจากพื้นที่เกิดเหตุ และจัดทำลูกศรชี้ทิศทางการอพยพเคลื่อนย้ายเด็กนักเรียน กรณีนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครเดินทางร่วมกิจกรรมนอกโรงเรียน การทัศนศึกษา ให้มีการตรวจสอบความพร้อมของยานพาหนะ ประตูรถทางออกฉุกเฉิน อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นประจำรถ ครูผู้ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมดูแลนักเรียน พนักงานขับรถ ให้มีช่องทางการรายงานแจ้งให้ทราบว่าเดินทางถึงจุดไหนเป็นระยะ มีหมายเลขโทรศัพท์เพื่อติดต่อสื่อสารกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีมีการประสานขอความช่วยเหลือกรณีเหตุฉุกเฉินหรือเกิดอุบัติเหตุเพื่อดูแลนักเรียนให้ได้รับความปลอดภัยตลอดเวลาที่อยู่ระหว่างการเดินทาง