ตุลาอาถรรพ์ ‘แกนนำเบี้ยหัวแตก’ ‘บ้านป่าฯ’ กุมอาวุธลับยุบเพื่อไทย
หน่วยข่าวความมั่นคงที่ติดตามกลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะนี้ ยังมีลักษณะเบี้ยหัวแตก ไม่มีสัญญาณรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่
KEY
POINTS
- คณะหลอมรวมประชาชน จะได้พูดคุยถึงก้าวย่างถัดจากนี้ไปว่า จะทำอะไรบ้าง จะออกแบบการเดินกันอย่างไร
- เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งคำเตือนไปถึงพรรคเพื่อไทยว่า ช่วงวันที่ 10-12 ต.ค.2567 จะเกิดเรื่องใหญ่ถึงขั้นยุบพรรค แต่ไม่ยอมเปิดเผยว่าเรื่องอะไร
- กลุ่มไทยภักดี และสถาบันทิศทางไทย ยังขับเคลื่อนตีแผ่ระบอบชินวัตร ผ่านสื่อใหม่ ยังไม่มีสัญญาณลงท้องถนน
จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน เตรียมจัดงานใหญ่ฉลองวันเกิดครบรอบ 59 ปี และนัดสื่อมาฟังแนวทางการเคลื่อนไหวทางการเมือง ในวันนี้ 5 ต.ค.2567 ที่สถานีโทรทัศน์พีซทีวี ซอยรามอินทรา 40 แยก 33/1
นอกจากการอภิปรายเกี่ยวกับอดีตและอนาคตการเมืองไทย คณะหลอมรวมประชาชน จะได้พูดคุยถึงก้าวย่างถัดจากนี้ไปว่า จะทำอะไรบ้าง จะออกแบบการเดินกันอย่างไร
เวลาไล่เลี่ยกัน ไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งคำเตือนไปถึงพรรคเพื่อไทยว่า ช่วงวันที่ 10-12 ต.ค.2567 จะเกิดเรื่องใหญ่ถึงขั้นยุบพรรค แต่ไม่ยอมเปิดเผยว่าเรื่องอะไร
จากการเช็กข้อมูลวงในบ้านป่ารอยต่อฯ พบว่า กรณีพรรคเพื่อไทย ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา 6 ประเด็น เมื่อกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมี สส.ร่วมลงนามนับร้อยคน และทางรัฐสภาได้รับเรื่องไว้รอการบรรจุ ก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะเปลี่ยนใจไม่เดินหน้า
กลุ่มซามูไรกฎหมายถือว่า เรื่องนี้ในทางนิตินัย สส.เพื่อไทยได้แสดงเจตจำนง หากเป็นความผิดก็เป็นความผิดสำเร็จแล้ว
เหนืออื่นใด การยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นดังกล่าว รวมประเด็นลบล้างด้อยค่าเรื่องจริยธรรมรวมอยู่ด้วย จึงมี “คณะบุคคล” เตรียมยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนเอาผิด เหมือนกับกรณีที่ 44 สส.ก้าวไกล ยื่นแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในลักษณะยกเลิก ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญ
มินับกรณีอดีต สว.(สาย คสช.) กลุ่มหนึ่งที่เป็นสหายร่วมรบกับไพบูลย์ เตรียมเคลื่อนไหวยื่นเอาผิดจริยธรรมกับนายกฯแพทองธาร กรณีที่ดินอัลไพน์
จะว่าไปแล้ว การเมืองนอกสภา ไม่ว่าจะเป็นม็อบไล่รัฐบาล และเกมนิติสงครามตามสอยนายกฯ ในหลายประเด็น ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของพรรคเพื่อไทย
อย่างไรก็ตาม หน่วยข่าวความมั่นคงที่ติดตามกลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะนี้ ยังมีลักษณะเบี้ยหัวแตก ไม่มีสัญญาณรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่
เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และกองทัพธรรมยังไม่วางมือจากประเด็นนักโทษชั้น 14 และนโยบายรัฐบาลเช่น กรณีกาสิโน กรณีเช่าที่ดิน 99 ปี และกรณีพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา
คณะหลอมรวมประชาชน นำโดยจตุพร พรหมพันธุ์ และนิติธร ล้ำเหลือ ก็ต้องรอดูการจัดงานของตู่ จตุพร ในวันที่ 5 ต.ค.
ทั้งคณะหลอมรวมประชาชน และ คปท. ต่างก็เป็นเนื้อเดียวกัน และมีเครือข่ายสายตรงถึงวงในบ้านป่ารอยต่อฯ
กลุ่มไทยภักดี และสถาบันทิศทางไทย โดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม และสนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม ยังขับเคลื่อนตีแผ่ระบอบชินวัตร ผ่านสื่อใหม่ ยังไม่มีสัญญาณลงท้องถนน
ที่เรียกเสียงฮือฮาในโซเชียล น่าจะเป็นกรณี สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้ประกาศจุดยืนและเงื่อนไขผ่านเวทีงาน “ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่3 ที่หอประชุมเล็ก ธรรมศาสตร์ เมื่อ 29 ก.ย.2567 ได้ประกาศจุดยืน และเงื่อนไขของตนที่จะทำใน 3 เรื่องนับจากนี้ไป
เรื่องแรก ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้ติดตามเรื่องราวที่ตนถูกลอบยิงเมื่อวันที่ 17 เม.ย.2552
เรื่องที่สอง ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี กรณีชาวเมียนมาเต็มเมือง มาอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายจำนวนมาก
เรื่องที่สาม ปีหน้าถ้าพบรัฐบาลมีการทุจริตฉ้อฉล จะนำมวลชนลงถนนขับไล่รัฐบาล ซึ่งจะเป็นการเดินครั้งสุดท้ายในชีวิตของสนธิ
แหล่งข่าวข่าวหน่วยงานความมั่นคง สรุปกรณีอดีตแกนนำพันธมิตรฯว่า น่าจะเป็นการทำตามอุดมการณ์ความคิดของสนธิ และเพื่อรักษาฐานแฟนคลับ
การประกาศจุดยืนของสนธิ ที่จะเดินเป็นครั้งสุดท้ายก็ไม่ได้ผูกมัดตัวเอง หากสถานการณ์ไม่เป็นใจ กลุ่มสนธิหรือกลุ่มจตุพร ก็ไม่สามารถทำอะไรรัฐบาลได้