'วิปค้าน' ซัดไร้เหตุผล ยื้อถกรายงานนิรโทษกรรม
"ปกรณ์วุฒิ" มองไร้เหตุผล ยื้อถกรายงานกมธ.นิรโทษกรรม ถาม "รัฐบาล" ได้ประโยชน์อะไร จี้ให้เร่งพิจารณาเพื่อเป็นประตูบานแรก ขจัดขัดแย้งการเมือง
ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ขอสภาฯ เลื่อนพิจารณารายงานของกมธ. ว่า ตนไม่เข้าใจว่าเลื่อนเพราะอะไร หรือไม่พร้อมเรื่องอะไร ทั้งนี้ทุกฝ่ายควรยอมรับกันได้แล้วว่าความขัดแย้งทางการเมืองใน 4-5 ที่ผ่านมา ถือเป็นบาดแผลใหญ่ที่ทำให้สังคมเกิดความขัดแย้งถึงร้าวลึก ทั้งนี้ รายงานฉบับนี้ไม่ได้เป็นการเสนอกฎหมาย แต่เป็นการพูดถึงแนวทางว่าจะมีทางเลือกไหนบ้าง ดังนั้น ตนคิดว่าเป็นบันไดขั้นแรกที่ดี ที่เราจะเอามาพูดคุยกันในรัฐสภาอย่างมีวุฒิภาวะ
"การเปิดประตูบานแรกด้วยการมาพูดคุยถึงการนิรโทษกรรม ของผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย โดยมีเหตุจูงใจทางการเมือง ถือเป็นก้าวแรกที่ดี ที่จะมีความสามัคคีและปรองดองในสังคม ย้ำว่า ทั้งหมดนี้เป็นรายงานการศึกษาไม่ใช่กฎหมาย ทั้งนี้การเลื่อนออกไปอีก และจะเป็นเรื่องตลกมากที่ 2 สัปดาห์ที่เหลือ ประธาน กมธ.ขอเลื่อนไปเรื่อยๆ ถือว่าไม่สมเหตุสมผลว่าเลื่อนไปเพื่ออะไร" นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่าเหตุของการเลื่อนเพื่อต้องการพูดคุยกันก่อน ขณะนี้มีการประสานเพื่อพูดคุยแล้วหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อมาพูดคุยอะไร
เมื่อถามว่า ที่มีการเลื่อนออกไป แต่ยังไม่มีท่าทีที่จะคุยกันมองว่าเป็นการยื้อหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า มองได้ว่าเป็นการยื้อ ทั้งนี้ตนไม่แน่ใจว่ายื้อไปแล้วมีประโยชน์อย่างไร เพราะขณะนี้ทุกฝ่ายพร้อมแล้ว
เมื่อถามว่า ฝ่ายรัฐบาลอาจจะเป็นกังวลเพราะในเรื่องมาตรา 112 นั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ประเด็นนี้ต้องเอาเข้ามาพูดคุยกัน การเข้ามาเห็นชอบกับรายงานไม่ได้แปลว่าทุกฝ่ายเห็นชอบกับการนิรโทษกรรม อาจจะมีความกังวลมากเกินไปหรือไม่ ความขัดแย้งที่มีอยู่ข้างนอกคือหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรที่จะหยิบยกเข้ามาถึงวุฒิภาวะความคิดเห็น แตกต่าง หลากหลาย ไม่เห็นด้วยได้ หาจุดตรงกลาง ที่คิดว่าจะดีกับสังคมในระยะยาว.