'รังสิมันต์' ยี้ กระแส นายกฯ คนละครึ่ง หลัง 'แกนนำภท.' ดอดพบ 'ทักษิณ'

'รังสิมันต์'  ยี้ กระแส นายกฯ คนละครึ่ง หลัง 'แกนนำภท.' ดอดพบ 'ทักษิณ'

"รังสิมันต์" มอง แกนนำภท. พบ "ทักษิณ" สะท้อนการเมืองไม่มีเสถียรภาพ ยี้กระแสเปิดดีล "นายกฯ"คนละครึ่ง ฝากถึง "ณัฐวุฒิ" ช่วยเข็นเรื่องนิรโทษกรรม

ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่นายเนวิน ชิดชอบ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านจันทร์สองหล้า ว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่หากเป็นจริงสะท้อนภาพการเมืองได้หลายอย่าง เช่น ความเป็นเอกภาพทางการเมือง ที่ปัจจุบันพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้มีบทบาทที่ชี้นำหลายเรื่องทางการเมืองฝั่งรัฐบาลอยู่มาก ทำให้ไม่มั่นใจว่าพรรคการเมืองใดคือแกนนำ

"อาจบอกได้ว่าตอนนี้พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคแกนนำตัวจริง เพราะการตัดสินใจหลายๆ อย่าง ล้วนถูกชี้นำโดยพรรคภูมิใจไทยทั้งสิ้น เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่สะท้อนว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างแท้จริง ต่อให้มีนายทักษินเป็นกาวใจ อาจจะไม่แก้ปัญหาอะไร  ในประวัติศาสตร์อาจจะพบว่าคุณเนวินกับคุณทักษิณ ก็เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขและมีความขัดแย้งกันมา วันนี้ก็ต้องกลับมาร่วมกันอีก อาจจะด้วยเหตุผลทางการเมือง ทั้งนี้ต้องรอติดตาม” นายรังสิมันต์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามวว่าเมื่อถามว่าหลังจากมีการพบกันได้มีกระแส นายกฯคนละครึ่ง นายรังสิมันต์  กล่าวว่า ไม่สมควร และไม่ควรต้องแบ่งคนละครึ่ง อีกทั้งตำแหน่งนายกฯ ไม่ใช่เก้าอี้ดนตรี ที่จะมาผลัดกันนั่งผลัดกันเล่น การเมืองที่อยากเห็นคือการเมืองที่ตรงไปตรงมา การผลัดกันในลักษณะนี้ แม้อยู่ในฝั่งพรรคร่วมเดียวกัน ไม่มีทางที่การเมืองจะมีเสถียรภาพได้ 

เมื่อถามว่าการพบกันครั้งนี้ เป็นการดีลแผนทางการเมืองหรือไม่ เพราะล่าสุด นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐก็ไปยื่นร้องสอบนางสาวแพทองธาร กรณีแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีคดีทางการเมือง ซึ่งอาจจะซ้ำรอยจริยธรรมเหมือนนายเศรษฐา นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขนาดนั้น และยังไม่เคยเห็นกรณีที่นายกรัฐมนตรี จะต้องพ้นจากตำแหน่งเพราะตั้งที่ปรึกษา ตนไม่ทราบว่าผลของการร้องจะเป็นอย่างไร ส่วนจุดยืนของตนและพรรคประชาชน ไม่สนับสนุนการทำนิติสงคราม เรามองว่าวิถีทางการเมืองก็ปล่อยให้มันดำเนินการไปโดยวิธีการทางการเมือง

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นายณัฐวุฒิเอง เป็นอดีตนักสู้ผ่านมาหลายสมรภูมิ วันนี้เรารอคอยในเรื่องความยุติธรรมจากรัฐบาลนี้มากมายหลายเรื่อง เช่น การนิรโทษกรรม ซึ่งตนหวังว่านายณัฐวุฒฒิจะใช้โอกาสแนะนำนายกฯ ว่า เรื่องนิรโทษกรรมควรมีทางออกได้แล้ว ทั้งนี้มีคนจำนวนมากเห็นคุณณัฐวุฒิเป็นต้นแบบและคาดหวังว่ารัฐบาลนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในเรื่องยุติธรรมได้ รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลมา 1 ปีกว่าแล้ว ควรจะมีคำตอบให้ประชาชน อย่าให้ต้องสับสน

เมื่อถามว่าจะเป็นการตั้งตำแหน่งต่างตอบแทนหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยังไม่อยากวิเคราะห์ขนาดนั้น เอาเป็นว่ามาตั้งแล้ว ตนก็รอคอยว่านายณัฐวุฒิจะใช้ความรู้ความสามารถในการแนะนำรัฐบาลไปในทางที่ถูกต้อง.