ปชป.เคลียร์จบ 'เดชอิศม์-นิพนธ์' สยบดราม่า เคาะ ส่ง'สุพิศ'ชิงนายกอบจ.สงขลา

วันหลงเกมฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 50  ณ สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา ทำ ให้ทีมชาติไทยคว้าแชมป์เอาชนะทีมชาติซีเรีย 2-1ประตูได้อย่างสมศักด์ศรี สร้างความชื่นมื่นให้กับวงการกีฬาฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

ภายใต้ความสำเร็จของวงการกีฬาหันกลับมาฟากฝั่งของเกมการเมืองก็ชื่นมื่นพอกัน โดยเฉพาะ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 50 ที่เป็นผู้ขับเคลื่อนหลักที่ผลักดันให้สงขลาเป็นเจ้าภาพการแข่งขันและสร้างผลงานชิ้นโบว์แดง หนุนส่งให้นายสุพิศ ผงาดเป็นเต็งหนึ่งแคนนิเดตชิง “นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา” หรือ “นายกอบจ.สงขลา”อย่างไร้ข้อกังขา

ล่าสุดได้รับการยืนยันว่านายสุพิศลาออกจากราชการเป็นที่เรียบร้อยมีผลวันที่ 7 ต.ค.2567 ซึ่งคาดว่าน่าจะลงสมัครชิงนายกอบจ.สงขลาที่จะครบกำหนด 20ธันวาคม 67ไม่พลาดแน่

เป็นภาพที่คอการเมืองเห็นแล้วชัดเจนว่าเกมนี้จบแล้ว!เคลียร์แล้ว!ลงตัวแล้ว!เป็นภาพนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข หรือ “นายกชาย” ส.ส.สงขลา และเลขาธิการพรรคปชป.ที่ถ่ายภาพควงคู่นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ขนาบข้างด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทยเป็นการถ่ายภาพในช่วงพักเกมฟุตบอลคิงส์คัพระหว่างทีมชาติไทย-ซีเรียที่สนามติณฯ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนมาเชียร์ฟุตบอลแต่งานนี้ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าเรื่องของเกมการเมืองคุยกันได้ทุกที่ นอกจากนี้ยังตอกย้ำด้วยวลีเด็ดที่พี่ใหญ่คนในพรรคย้ำชัด “คนนี้แหละนายกอบจ.สงขลา” 

เป็นอันชัดเจนว่าสนามนี้ไม่ต้องชิงกันเอง เพราะก่อนหน้านี้แว่วๆว่านายนิพนธ์ก็ฟอร์มทีมสจ.สงขลาหวังยึดคืนเก้าอี้นายกฯ แต่ด้วยคุณสมบัติที่ยังมีคดีที่รอเคลียร์ ทำให้เตรียมแผน2 ส่ง “มาดามปิ๋ม” นางมาลัยทิพย์ ครุอำโพธิ์ นักธุรกิจหญิงภรรยาคนสวยของ “โกถึก”นายสมยศ พลายด้วง สส.เขต3สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ ชิงเก้าอี้นายกอบจ.หญิงอีกสักคน

ส่วนนายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกอบจ.สงขลาคนปัจจุบันแม้จะชิมลางการเมืองครบวาระแต่เทียบกระแสแล้วไม่เปรี้ยงจึงไม่ได้ไปต่อ

ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องนี้กับนายนิพนธ์ บุญญามณี ซึ่งได้รับคำตอบชัดเจนสนามนี้ไม่ได้ถอยแต่ยอมเปิดทางให้ “สุพิศ”ได้ชิมลางสร้างผลงานการเมืองท้องถิ่น เช่นเดียวกับรมช.สาธารณสุขที่บอกชัดประโยคเดียวให้ “สุพิศ” โดยไม่ห่วงจะผิดใจนายไพเจนเพราะพวกเราพี่น้องกัน คุยกันได้ เข้าใจกันดี

อย่างไรก็ตามสนามการเมืองสายใต้ที่ “สงขลา” สิ่งที่ต้องเข้าใจบริบทการเมืองที่แท้ทรู!!สนามนี้ทั้งคนและพรรคที่หยั่งรากฝังลึกมานมนานยังคงเป็นพื้นที่ของพรรค “ประชาธิปัตย์” ที่ต้องแข่งกันเองไม่ว่าจะสนามเล็กหรือสนามใหญ่แทบไม่ต่างกัน เข้าทำนองใครก็ได้เพราะส่วนใหญ่ก็ลูบหน้าปะจมูกด้วยกันทั้งนั้น