ทนายตั้ม ษิทรา ร้อง 'ปธ.สภา' สั่งปลด 'สามารถ' ทุกตำแหน่งกมธ.

ที่รัฐสภา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนทนายความ​ ยื่นหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา​ ผ่านนายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ  ว่าอยู่ในกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ และกรรมาธิการวิสามัญ คณะไหนบ้าง และขอให้พิจารณา ปลดออกจาก กมธ. ทุกคณะ​ พร้อมกับนำหลักฐานคลิปเสียงจำนวน 2 คลิปและเอกสารถอดเทป ยื่นประกอบด้วย

โดยนายษิทรา กล่าวว่า การกระทำที่ปรากฎในคลิปเสียงที่พบว่าเสียงคล้ายนายสามารถ ซึ่งระบุถึงการเรียกรับผลประโยชน์ ผู้บริหาร บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป อาจเข้าข่ายแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองซึ่งผิดจริยธรรมขั้นร้ายแรงไม่สมควรที่จะอยู่ต่อ

ด้านนายมุข  กล่าวว่า​ ขณะนี้นายวันมูหะมัดนอร์ สั่งให้ กมธ.ทุกคณะตรวจสอบบุคคลที่เข้ามาดำรงตำแหน่งใน กมธ.ทุกตำแหน่ง เพื่อไม่ให้ใช้ตำแหน่งดังกล่าวไป หลอกลวงพี่น้องประชาชน ซึ่งหากยังพบว่ามีประเด็นดังกล่าว คนที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบคือ​ ประธานคณะกรรมาธิการ และหลังจากนี้ก็จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องของการใช้ตำแหน่งหน้าที่​ โดยมิชอบอย่างเข้มข้นต่อไป​ 

หลังจากยื่นหนังสือแล้ว นายษิทรา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า นายสามารถดำรงตำแหน่งในกมธ. เกือบ 10 คณะ  อาทิ​ ที่ปรึกษา กมธ.การแรงงาน​, ที่ปรึกษาอนุ กมธ.ศึกษาการส่งเสริมคุณภาพชีวิต ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึง 6 ปี​ กมธ.ร่าง​พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ภาษี​ สรรพสามิต​ และยังมีตำแหน่งเป็นเป็นโฆษกอนุ กมธ.ศึกษาหนี้นอกระบบ​  

"ผมทราบว่าตอนนี้​นายสามารถ​ ยังอยู่ไทย​ แต่ไม่กล้าออกมาตอบคำถามกับสื่อมวลชน ส่วนใครจะอยู่เบื้องหลังนายสามารถนั้น รู้กันอยู่ว่าเป็นผู้มีบารมีค่อนข้างสูง  เพราะถ้าไม่มีผู้ใหญ่ให้ท้ายเขาคงไม่ปีกกล้าขาแข็งถึงขนาดไปเรียกเงินจากบอสพอล ให้ดูแลเป็นรายเดือน​ นี่เป็นแค่กรณีเดียว เพราะยังมีอีก ซึ่งหากใครถูกเรียกค่าดูแลขอให้แจ้งตนได้เลย ผมพร้อมจะจัดการให้​ " นายษิทรา กล่าว

เมื่อถามว่าว่าที่ผ่านมานายสามารถ​ ขู่ทุกคนว่าจะฟ้องกลับ​ หากมีการเอ่ยชื่อ​เขา​ แต่ทนายตั้มเป็นคนแรกที่กล้าเอ่ยชื่อถือเป็นการเปิดหน้าชนเลยหรือไม่​ นายษิทรา​ กล่าวว่า​ "มีขู่มาตลอด​ ถ้าใครเอ่ยชื่อเขา​ จะฟ้อง วันนี้ผมจะขอเอ่ยชื่อเขา 3 ครั้ง นายสามารถ​ นายสามารถ​ นายสามารถ จะฟ้องผม​ กี่ครั้งก็ฟ้องมาเลย เพราะเรื่องนี้ฟังจากคลิปเสียงแล้ว ผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ต่อส่วนรวม คนประเภทแบบนี้​ ตบทรัพย์เขา ​ไม่ควรจะอยู่ทำงานเกี่ยวกับการเมืองเลย พอเรื่องเงียบก็ชุบตัว แล้วกลับมาใหม่​

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่พรรคพลังประชารัฐปลดนายสามารถออกจากรองโฆษกพรรค ​นายษิทรา​ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ควรทำตั้งนานแล้ว​ ไม่ใช่ตนเข้าไปร้อง ถึงดำเนินการ​ พรรคพลังประชารัฐควรทำตั้งแต่ก่อนที่จะมีคนไปร้องด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม  อย่างไรก็ดี ตนมองว่ากรณีที่พรรคขับนายสามารถออกแล้ว​ ต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนด้วย​ว่า มีการรีดเงินจริงหรือไม่​ 

ต่อข้อถามว่าจะสาวไปถึงบิ๊กบอสทางการเมืองตัวจริงหรือไม่​ นายษิทรา​ กล่าวว่า "ถ้าจะเอาจริงก็คงเป็นเรื่องยาก ถ้าเขามีพฤติกรรมอย่างว่าจริง และถ้าต้องเอาเงินไปให้คนที่อยู่สูงกว่า เขาก็คงไม่รับสารภาพ เพราะจะไปถึงบิ๊ก
บอสได้ ตัวนายสามารถเองต้องรับสารภาพ"

นายษิ​ทรา กล่าวด้วยว่า​ ว่าในวันที่ 21 ต.ค.นี้​ จะไปยื่นเรื่องเกี่ยวกับนายสามารถ​อีก​ แต่ขออุปไว้ก่อนว่า​เป็นที่ไหน.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการดำรงตำแหน่ง กมธ.ของนายสามารถ นั้นจากการตรวจสอบในฐานข้อมูลนิติบัญญัติ พบว่าในสภาฯชุดปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง 1 กมธ. คือ  กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระ ราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) ในสัดส่วนของบุคคลภายนอก และแต่งตั้งเมื่อวันที่  15 ต.ค. ที่ผ่านมา