ไม่ใช่เวลาขอโทษ! สส.ปชน.จี้รัฐบาล ควานหาตัวจำเลยคดีตากใบขึ้นศาล
'รอมฎอน' สส.ปชน. ขอให้จับตาประชุม ครม.วันนี้ มีวาระถก 'คดีตากใบ' หรือไม่ แนะรัฐบาลตอนนี้ไม่ใช่เวลาขอโทษ แต่ควรเร่งนำตัวจำเลย-ผู้ต้องหาทุกคนเข้าสู่กระบวนการ เทียบคดีดังอื่น ทำไมเร่งรัดทำได้เร็ว
เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2567 นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการติดตามจำเลยคดีตากใบของรัฐบาล ว่า ต้องจับตาดูว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ จะมีวาระพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับคดีตากใบและสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ เพราะตอนนี้ประชาชนกำลังติดตามอย่างใกล้ชิดว่าภายในระยะเวลาอีก 4 วันที่คดีจะหมดอายุความ เจ้าหน้าที่จะสามารถนำตัวจำเลย 7 คนในคดีราษฎรเป็นผู้ฟ้องมาที่ศาลนราธิวาสและจับกุมตัวผู้ต้องหาอีก 8 คนในคดีที่อัยการสั่งฟ้องมาพร้อมทั้งนำมาส่งอัยการให้ทันฟ้องศาลหรือไม่
นายรอมฎอน กล่าวว่า ทั้งนี้ จากการที่ตนได้ไปสังเกตการณ์คดีมาก่อนหน้านี้ ศาลนราธิวาสได้ยืนยันว่าเตรียมพร้อมสำหรับการมอบตัวของจำเลยตลอดเวลาจนถึงเที่ยงคืนวันที่ 25 ต.ค. และมีมาตรการในการนำส่งตัวจำเลยจากทั่วประเทศในกรณีที่จับกุมตัวได้ ในขณะที่อัยการก็ยืนยันในที่ประชุมคณะกรรมาธิการว่าพร้อมทำสำนวนส่งศาลให้ทันตามกำหนด เพียงแต่นำตัวผู้ต้องหามาให้ทันตามกำหนด
“จะเห็นได้ว่าทุกฝ่ายต่างทุ่มเทและเตรียมพร้อมรับมือกับทุกฉากทัศน์ที่จะเกิดขึ้น ตอนนี้รัฐบาลซึ่งเป็นฝ่ายบริหารและเป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยงาน ไม่อาจหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบเหล่านี้ได้ ในขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติและตุลาการได้ทำหน้าที่อย่างถึงที่สุดแล้ว” นายรอมฎอน กล่าว
นายรอมฎอน กล่าวอีกว่า ในขณะนี้รัฐบาลควรต้องตั้งหลักให้ดีและทุ่มเทกำลังและความสำคัญไปที่การนำตัวจำเลยและผู้ต้องหามาให้ได้ การเตรียมการสำหรับการขอโทษ ไม่ว่าจะเป็นกรณีโศกนาฏกรรมเมื่อ 20 ปี ก่อน หรือเป็นการขอโทษที่ล้มเหลวในการนำตัวจำเลยและผู้ต้องหามาปรากฏตัวที่ศาลตามข้อเสนอของหลายฝ่ายนั้น ยังไม่ใช่ความสำคัญเร่งด่วนในเวลานี้ ในทางกลับกันหากรัฐบาลเตรียมพร้อมที่จะมีถ้อยแถลงดังกล่าวจะกลายเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลได้ยินยอมและจงใจให้มีการหนีคดีขึ้น
“ในวันที่เหลืออยู่นี้ ประชาชนจะยิ่งมีคำถามมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ารัฐบาลได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้วหรือไม่ รวมไปถึงจะยิ่งมีการเปรียบเทียบกับขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ในคดีอื่นๆ ที่มีการเร่งรัดดำเนินการอย่างรวดเร็ว ทั้งคดีดิไอคอนที่ใช้เวลาจับกุมตัวผู้ต้องหาอย่างรวดเร็ว หรือคดีแป้ง นาโหนดที่อาศัยความสัมพันธ์ทางการทูตและทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อจับกุมตัว หรือคดีที่เกี่ยวข้องกับนักกิจกรรมทางการเมืองก็มีความมุ่งมั่นเป็นพิเศษ แตกต่างไปจากกรณีที่ข้าราชการผู้ใหญ่ตกเป็นจำเลยอย่างในกรณีนี้” นายรอมฎอน กล่าว
นายรอมฎอน กล่าวด้วยว่า ยังเชื่อมั่นว่าหากรัฐบาลใช้ศักยภาพและขีดความสามารถของเจ้าพนักงานอย่างเต็มที่ เราอาจได้ตัวจำเลยและผู้ต้องหาทั้ง 14 คนมาส่งศาลได้ทันตามกำหนดอายุความและกระบวนการยุติธรรมจะได้ทำงานต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องมีมาตรการพิเศษใด ๆ ในการขยายอายุความ อีกทั้งยังเป็นการแก้ข้อกล่าวหาที่คนในรัฐบาลกังวลอยู่ว่าคดีนี้จะถูกขยายผลในทางการเมืองและนำพาไปสู่สถานการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาต่างๆ
“การจะทำหรือไม่ทำสิ่งใดในห้วงเวลานี้เป็นเรื่องสำคัญ และถือเป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองของรัฐบาล นี่คือโอกาสของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ที่จะพิสูจน์ว่าให้ความสำคัญกับการสร้างนิติธรรมที่เข้มแข็งให้กับประเทศตามที่เคยแถลงเอาไว้ อีกทั้งยังเป็นการรักษาชีวิตของประชาชนหรือพลเรือนที่จะได้รับผลกระทบจากความรุนแรง อันเป็นผลจากล้มเหลวของระบบยุติธรรมของเรา” นายรอมฎอน กล่าว