สส.ปชน.ถอดบทเรียนตากใบ มรดก 'ทักษิณ' ถึง 'นายกฯอิ๊งค์' จี้เลิกกฎอัยการศึก

สส.ปชน.ถอดบทเรียนตากใบ มรดก 'ทักษิณ' ถึง 'นายกฯอิ๊งค์' จี้เลิกกฎอัยการศึก

'รอมฎอน' ย้อนบทเรียนกรณี 'ตากใบ' คือการจำกัดอำนาจกองทัพ เป็นมรดกตกทอดจาก 'ทักษิณ' ถึง 'แพทองธาร' ชี้ถึงเวลายกเลิกกฎอัยการศึกอย่างจริงจัง

เมื่อวันที่ 23 ต.ค.2567 นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก บทเรียนของกรณี "ตากใบ" โดยระบุว่า ภายใต้การประกาศกฎอัยการศึกในชายแดนใต้ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจสั่งการมากที่สุด จากแม่ทัพ "พิศาล" (พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย) ในอดีตถึงแม่ทัพ "ไพศาล" (พล.อ.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในปัจจุบัน) 

ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อเรื้อรังและกฎอัยการศึกกลายเป็นมรดกตกทอดที่ส่งต่อให้แม่ทัพคนต่าง ๆ ของกองทัพภาคที่ 4 แม้จะมีเครื่องมือทางกฎหมายพิเศษนี้อยู่ในมือ ก็ไม่อาจคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งที่ว่าได้ ซ้ำร้าย ภายใต้บทบาทนำของกองทัพและ กอ.รมน. ความไว้วางใจของประชาชนต่ออำนาจรัฐที่ถูกเซาะกร่อนลงไปก็ไม่อาจฟื้นคืนได้โดยง่าย

นายรอมฎอน ระบุอีกว่า หนึ่งในข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ที่ตั้งโดยนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ 20 ปีก่อน คือการปรับปรุงกฎหมายที่จำกัดบทบาทของกองทัพ เพื่อให้พลเรือน มีบทบาทมากขึ้นในการควบคุมสถานการณ์วิกฤต นี่ถือเป็นบทเรียนประการสำคัญของเหตุการณ์ตากใบ

"ถือเป็นมรดกของรัฐบาลทักษิณ ที่ส่งต่อให้กับรัฐบาลแพทองธารครับ คงถึงเวลาที่จะต้องคิดยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกอย่างจริงจังแล้วครับ #คดีตากใบ #ตากใบต้องไม่เงียบ" นายรอมฎอน ระบุ

ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก : Romadon Panjor