'อนุทิน' เข้าพบ 'ฮุน มาเนต' ย้ำ สัมพันธ์แน่นแฟ้น ผลักดันเศรษฐกิจ 2 ประเทศ

'อนุทิน' เข้าพบ 'ฮุน มาเนต' ย้ำ สัมพันธ์แน่นแฟ้น ผลักดันเศรษฐกิจ 2 ประเทศ

"อนุทิน" นำคณะเข้าพบ "ฮุน มาเนต" ย้ำ สัมพันธ์แน่นแฟ้น ชู จุดแข็งค้าชายแดน แปลงวัฒนธรรมเป็นซอฟท์เพาเวอร์ร่วม ผลักดันเศรษฐกิจท่องเที่ยว 2 ประเทศ  ระบุ รัฐบาลกัมพูชา เชื่อมั่น-เข้าใจรัฐบาลไทย 

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่โรงแรมสุขะ พนมเปญ ประเทศกัมพูชา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ มหาดไทย นำคณะเข้าพบเยี่ยมคารวะ สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ณ Peace Palace ทำเนียบรัฐบาล กรุงพนมเปญ ในโอกาสที่นายอนุทิน นำคณะเข้าร่วมการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 8  

นายอนุทิน กล่าวว่า การเดินทางเข้าเยี่ยมคารวะครั้งนี้ได้นำความปรารถนาดีจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มายังนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และคณะด้วย เพื่อเป็นการยืนยันในความปรารถนาดีต่อกันระหว่าง 2 ประเทศ โดย น.ส.แพทองธาร ได้ฝากเยี่ยมเยียน และกล่าวว่าในโอกาสที่เหมาะสมนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาเยือนกัมพูชาด้วยตนเองเนื่องด้วยมีแผนการเยือนอยู่แล้ว 

ทั้งนี้ ด้วยความสัมพันธ์อันดีของทั้ง 2 ฝ่าย ทางการไทยเองมีความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะผลักดันความร่วมมือในทุกมิติให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ และเชื่อมั่นว่าด้วยความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งทั้งด้านการทูต การทหาร และเศรษฐกิจชายแดน จะทำให้ทุกความร่วมมือสำเร็จลุล่วง โดยกัมพูชาและไทย มีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน เราจะใช้โอกาสนี้ในการขยายและพัฒนาด้านวัฒนธรรม สร้างสรรค์พื้นฐานเดียวกันนี้ให้เป็นซอฟท์เพาเวอร์ที่ดีร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว เกิดเป็นงานและอาชีพของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ 
   

ด้าน สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต ได้ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีของไทยที่นำคณะมาเยือน และกล่าวว่า ทราบถึงการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 8 ที่จะมีขึ้นในวันที่  24 ต.ค. นี้ โดยยินดีที่จะช่วยเหลือเพื่อให้การพูดคุยในทุกประเด็นสำเร็จลุล่วง โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด และจะร่วมมือกับทางการไทยในการต่อต้านอาชญากรรม และการกระทำที่ผิดกฎหมายอื่นๆ 
   

นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า ภายหลังจากการได้พบหารือแบบทวิภาคีกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ของไทยในช่วงการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว แล้ว ก็รอการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีไทย เพื่อสานต่อความร่วมมือในประเด็นที่ได้หารือให้เกิดเป็นรูปธรรม และด้วยความสัมพันธ์อันดีด้านชายแดนเป็นสามารถพัฒนาการค้าชายแดนให้เป็นจุดแข็งร่วมกัน โดยเฉพาะการพัฒนาด่านหนองเอี่ยน-สตึงบท ให้เกิดการมีส่วนร่วมและเกิดประโยชน์กับประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย 

ทั้งนี้ ในตอนท้ายทั้ง 2 ฝ่ายยังได้แสดงความยินดีและแสดงถึงความพร้อมร่วมกันในการสานต่อกิจกรรมที่หลากหลายในทุกระดับ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ให้แน่นแฟ้นในโอกาสที่ ไทย - กัมพูชา จะครบรอบ 75 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี  2568 ที่จะมาถึง
 

หลังจากนั้น นายอนุทิน ออกมาเปิดเผยว่า ได้พบกับท่านประมาณ 20 นาที ขอให้ท่านช่วยเรื่องสนับสนุนการเจรจาทั้งหมดให้บรรลุข้อตกลง เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ จึงได้ให้คำมั่นสัญญา ว่าสิ่งใดก็ตามที่ทางรัฐบาลไทย สามารถสนับสนุนให้เป้าหมายของทั้งสองประเทศประสบความสำเร็จโดยเร็ว เรามีความพร้อม ตนอยู่ที่นี่ พร้อมให้แนวทางและช่วยตัดสินใจ
   

นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม นายกฯกัมพูชา มีความมั่นใจในสถานการณ์การเมืองไทยหรือไม่ เนื่องจากมีการร้องคดีเยอะ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่ารัฐบาลกัมพูชาเข้าใจความเป็นไปของรัฐบาลไทย และมีความมั่นใจ พูดถึงเรื่องอนาคต การพัฒนาอีก 5 ปี 10 ปีด้วยความยั่งยืน เป็นเรื่องระหว่างประเทศไม่ได้ไปยึดถือตัวตัวบุคคล อะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์เกิดความสะดวกสบายกับประชาชนทั้งสองประเทศไม่ว่าใครมาก็ต้องพร้อมที่จะสานต่อ
   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคณะผู้เข้าร่วมเยี่ยมคารวะนายกรัฐราชอาณาจักรกัมพูชาพร้อมกับรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ประกอบด้วย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย , นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย , น.ส.เอกอร คุณาเจริญ อุปทูตฯ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ และพลโทณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย