‘ษิทรา ลอว์เฟิร์ม’ 5 ปี 21.9 ล้าน ผ่า 4 ธุรกิจ ‘ทนายตั้ม’ ก่อนถูกร้องคดีฉ้อโกง

‘ษิทรา ลอว์เฟิร์ม’ 5 ปี 21.9 ล้าน ผ่า 4 ธุรกิจ ‘ทนายตั้ม’ ก่อนถูกร้องคดีฉ้อโกง

ผ่าขุมทรัพย์ธุรกิจ 4 แห่ง ‘ทนายตั้ม’ พบ ‘ษิทรา ลอว์เฟิร์ม’ 5 ปี รายได้รวม 21.9 ล้านบาท อีก 3 แห่ง 'เลิก-ร้าง' ก่อนถูกแจ้งความกล่าวหาฉ้อโกงเงิน ‘นักธุรกิจหญิง’ 71 ล้านบาท เจ้าตัวยืนยันความบริสุทธิ์ พร้อมหอบพยานหลักฐานชี้แจงแก้ต่าง บช.ก.

พลันที่ประเด็น “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” อาณาจักรธุรกิจขายตรงฉาวของ “บอสพอลวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ถูกเปิดโปงขึ้นมา จนปัจจุบันเป็นคดีความขึ้นโรงขึ้นศาล มีกลุ่มผู้เสียหายกว่า 2 พันคน มูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาทนั้น หนึ่งในบุคคลที่ออกมาเปิดตัว “เหยื่อผู้เสียหาย” และให้สัมภาษณ์ผ่านรายการต่าง ๆ ในนั้นย่อมมีชื่อของ “ทนายตั้มษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทนายประชาชน อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดีล่าสุด “ทนายตั้ม” ต้องเผชิญข้อกล่าวหา หลังจากถูกแจ้งความว่ามีพฤติการณ์ “ฉ้อโกง” เงินกว่า 71 ล้านบาท จากนักธุรกิจสาวรายหนึ่ง เบื้องต้น “ทนายตั้ม” ชี้แจงผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง โดยเงินที่รับนั้นมาจากค่าทนายความ และพร้อมนำพยานหลักฐานไปแก้ต่างที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ต่อไป

ก่อนหน้านี้ “ทนายตั้ม” ต้องเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ในหลายคดีที่เขาว่าความ หรือเป็นผู้พาเหยื่อผู้เสียหายเข้าแจ้งความ แต่สิ่งหนึ่งที่ถูกสังคมจับจ้องหนีไม่พ้นข้อครหา “ทนายแบรนด์เนม” เนื่องจากเขามักแต่งตัวด้วยเครื่องนุ่งห่มราคาค่อนข้างสูง และมียี่ห้อหรูหรา ทว่าเขาเคยชี้แจงประเด็นนี้ พร้อมโชว์รายได้ปีละหลัก 10 ล้านบาท สวนกลับไปว่า “เงินขนาดนี้ผมไม่มีปัญหาซื้อของแบรนด์เนมใส่เหรอ”

ในมุมธุรกิจ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 4 แห่ง ยังเปิดดำเนินกิจการ 1 แห่งคือ บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด ธุรกิจให้การบริการทางกฎหมายของเขาเอง โดยแจ้งงบการเงิน 5 ปีย้อนหลัง ระหว่างปี 2562-2566 รวมแล้วกว่า 37 ล้านบาท โดยเฉพาะในงบการเงินปี 2565 มีรายได้รวมกว่า 21.9 ล้านบาท

โดยบริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 25 ก.ย. 2561 (เดิมชื่อบริษัท วิสดอม ลอว์ เฟิร์ม จำกัด) ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 1 อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้นที่ 24 ห้องเลขที่ 2409 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ ให้บริการทางกฎหมาย “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด เป็นกรรมการรายเดียว

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 5 มิ.ย. 2567 ษิทรา เบี้ยบังเกิด ถือหุ้น 50% ปทิตตา เบี้ยบังเกิด ถือหุ้น 50%

นำส่งงบการเงินย้อนหลัง 5 ปีหลังสุด ได้แก่

  • ปี 2566 สินทรัพย์รวม 1,805,979 บาท หนี้สินรวม 4,562,530 บาท มีรายได้รวม 9,173,363 บาท รายจ่ายรวม 15,111,072 บาท ขาดทุนสุทธิ 5,950,312 บาท
  • ปี 2565 สินทรัพย์รวม 4,090,404 บาท หนี้สินรวม 896,642 บาท มีรายได้รวม 21,943,161 บาท รายจ่ายรวม 17,874,007 บาท กำไรสุทธิ 3,438,570 บาท
  • ปี 2564 สินทรัพย์รวม 118,991 บาท หนี้สินรวม 363,800 บาท มีรายได้รวม 1,807,017 บาท รายจ่ายรวม 1,374,661 บาท กำไรสุทธิ 412,502 บาท
  • ปี 2563 สินทรัพย์รวม 87,988 บาท หนี้สินรวม 745,300 บาท มีรายได้รวม 2,010,064 บาท รายจ่ายรวม 3,092,086 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,082,022 บาท
  • ปี 2562 สินทรัพย์รวม 451,510 บาท หนี้สินรวม 26,800 บาท มีรายได้รวม 2,339,973 บาท รายจ่ายรวม 2,142,512 บาท กำไรสุทธิ 197,460 บาท

ส่วนอีก 3 แห่ง แจ้ง “เลิกกิจการ” 1 แห่ง คือ 

  • บริษัท มอนสเตอร์บายส์ จำกัด จดทะเบียน 21 ม.ค. 2565 เลิกกิจการ 20 ต.ค. 2565 เสร็จชำระบัญชี 23 พ.ย. 2565 ทุน 1 ล้านบาท วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการจำหน่ายบัตรที่พัก บัตรร้านอาหารและบริการอื่นๆ

ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่า “ร้าง” 2 แห่ง คือ

  • บริษัท อเมทิส สกินแคร์ จำกัด จดทะเบียน 5 มี.ค. 2555 “ร้าง” 9 มิ.ย. 2560 ทุน 1 ล้านบาท วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการค้าเครื่องสำอางอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องใช้เสริมความงาม
  • บริษัท เอสที.อินเตอร์ 2016 จำกัด จดทะเบียน 13 ม.ค. 2559 “ร้าง” 18 ส.ค. 2564 ทุน 1 ล้านบาท วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการโรงแรม

ทั้งหมดคือข้อมูลธุรกิจของ “ทนายตั้ม” เท่าที่ตรวจสอบพบ อย่างไรก็ดีข้อกล่าวหาของ “ทนายตั้ม” ยังอยู่ระหว่างการถูกกล่าวหา ยังไม่มีคำพิพากษาจากศาลอันถึงที่สุด เขายังมีสิทธิ์นำพยานหลักฐานเข้าชี้แจง แก้ต่างความบริสุทธิ์ได้