ชำแหละพท.ฟอกขาว‘กาสิโน’ ‘แก้พนัน’ผิดจุด-‘3 ปีศาจร้าย’?

ชำแหละพท.ฟอกขาว‘กาสิโน’  ‘แก้พนัน’ผิดจุด-‘3 ปีศาจร้าย’?

ชำแหละพท.ฟอกขาว‘กาสิโน’ กฤษฎีกาติง‘แก้พนัน’ผิดจุด กมธ.สะท้อน‘3 ปีศาจร้าย’ จับตาเกมสภา‘ศึก3เส้า’ พรรคร่วมรัฐบาล-ฝ่ายค้าน-สว.

KEY

POINTS

  • เสียงทักท้วง จากภาคประชาสังคม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึง “สารพัดปมเสี่ยง” ของกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ต่างอะไรกับการฟอกขาวให้มี “กาสิโน” ถูกกฎหมาย
  • “การสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ได้แก้ไขปัญหาการพนันโดยตรงถ้าอยากแก้ไขปัญหาการพนันโดยตรงต้องไปแก้ไขที่อื่น เช่น นิสัยของคน พฤติกรรมของคนที่ชอบเล่นการพนัน ซึ่งก็มีกฎหมายการพนันอยู่แล้ว” ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา
  • การ “ฟอกเงิน” ของ พ่อค้ายาเสพติด หรือกลุ่มทุนสีเทาทั้งหลาย ในการทำให้เงินเหล่านั้นสามารถนำมาใช้งานในประเทศได้ ก็ต้องมีการฟอกเงินโดยผ่านกาสิโนซึ่งจะเป็นช่องทางได้เป็นอย่างดี : “รังสิมันต์ โรม” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภา
  • แม้ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  จะบอกว่า  กฎหมายฉบับนี้จะมีกาสิโนแค่10% นอกนั้น 80-90% เป็นเรื่องการท่องเที่ยว แต่จากนี้ต้องจับตาปลายทางของกฎหมายฉบับนี้

  • ลำพังเสียงในสภาล่าง “เพื่อไทย” อาจเป็นเป็นต่อในแง่ของเสียงที่มีอยู่ในมือ แต่อย่าลืมว่า ปราการด่านสุดท้ายหากกฎหมายเข้าสภาฯคือ ด่านสภาสูง คือ สว. ที่เวลานี้ถูกรวบอำนาจโดยสีน้ำเงิน

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังสนั่น หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 13 ม.ค. อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ..... หรือ  กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตามที่กระทรวงคลังเสนอ 

ตามขั้นตอนหลังจากนี้ ยังต้องลุ้นอีกหลายชั้นหลายตอน ทั้งการส่งร่าง พ.ร.บ.ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ก่อนนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ฯ ฉบับนี้ ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรซึ่งคาดว่าจะเป็น 1-2 เดือนข้างหน้า

ทว่าท่ามกลางเสียงทักท้วง ทั้งจากภาคประชาสังคม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึง “สารพัดปมเสี่ยง” ของกฎหมายฉบับดังกล่าวที่ไม่ต่างอะไรกับการฟอกขาวให้มี “กาสิโน” ถูกกฎหมาย

ไม่ว่าจะเป็น ความเห็นจาก “คณะกรรมการกฤษฎีกา” ให้ความเห็น 6 ประเด็นความ “ไม่ตรงปก” จากที่จากแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ที่มุ่งเน้นในการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย แต่การจัดให้มีการเล่นกาสิโนด้วย อาจไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล 

ชำแหละพท.ฟอกขาว‘กาสิโน’  ‘แก้พนัน’ผิดจุด-‘3 ปีศาจร้าย’?

สำทับด้วยความเห็นส่วนตัวจาก  “ปกรณ์ นิลประพันธ์ ”เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่มองว่า คำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จะต้องไปดู Man - made destination หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น จะมีตั้งแต่สวนสนุกอื่นๆ และเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้าไปอยู่ในนั้น

ดังนั้นถ้าจะเป็น Man - made destination ควรจะเขียนให้กว้างขึ้นเพื่อความครอบคลุม รวมถึงมีข้อสังเกตเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ในรายงานศึกษาของสภาผู้แทนฯ ที่มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการพนัน 

“แต่กฤษฎีกามองว่าการสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ได้แก้ไขปัญหาการพนันโดยตรงถ้าอยากแก้ไขปัญหาการพนันโดยตรงต้องไปแก้ไขที่อื่น เช่น นิสัยของคน พฤติกรรมของคนที่ชอบเล่นการพนัน ซึ่งก็มีกฎหมายการพนันอยู่แล้ว”

 ‘3 ปีศาจร้าย’ นักพนัน-ฟอกเงิน-คอร์รัปชัน 

ไม่ต่างจาก “รังสิมันต์ โรม” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ และสภาผู้แทนราษฎร มองว่า เวลาพูดถึงกาสิโน หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ “ปีศาจ” มันอยู่ในรายละเอียด เวลาเราพูดถึงปัญหาของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่กำลังทำอยู่ในเวลานี้ แน่นอนว่า ต้องมีการเตรียมความพร้อม 

1.การเตรียมความพร้อมในเรื่องผลกระทบต่อสังคมโดยเฉพาะปัญหานักพนัน

2. ปัญหาในเรื่องของการ “ฟอกเงิน” ของ พ่อค้ายาเสพติด หรือกลุ่มทุนสีเทาทั้งหลาย ในการทำให้เงินเหล่านั้นสามารถนำมาใช้งานในประเทศได้ ก็ต้องมีการฟอกเงินโดยผ่านกาสิโนซึ่งจะเป็นช่องทางได้เป็นอย่างดี

3. เรื่องของความโปร่งใสในการทำโปรเจ็กต์นี้ เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า การกำหนดเป็นไซซ์ขนาดใหญ่ระดับ 1 แสนล้าน เช่นนี้จะไม่ถูกผูกขาดโดยนายทุนเพียงไม่กี่คน

ชำแหละพท.ฟอกขาว‘กาสิโน’  ‘แก้พนัน’ผิดจุด-‘3 ปีศาจร้าย’?

 

ฟอกขาวกาสิโน ปล่อยผี “ทุนสีเทา”

ที่ผ่านมา มีความพยายามจะดันเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่บริเวณอู่ตะเภาโดยมีการเซ็นสัญญาของบริษัทเอกชนไปแล้วเป็นเช่นนี้จะถือเป็นการล็อกสเปกหรือไม่ ฉะนั้นเรื่องของความโปร่งใสเป็นเรื่องที่น่ากังวล

ประธานกมธ.ความมั่นคงฯ กล่าวอีกว่า วันนี้เราจะพบว่ารัฐบาลกำลังมีปัญหากับการรับมือกับทุนจีนสีเทา ไม่ว่าจะเป็นปัญหา สแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ฉะนั้นถ้ามาประจบกับเรื่องกาสิโนซึ่งจะเป็นการเพิ่มช่องทางในการฟอกเงิน ส่วนตัวจึงมีความกังวลใจ

“รังสิมันต์” ยังกล่าวว่า  ตามโครงสร้างประเด็นบทบาทของการทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ อยู่ที่นายกรัฐมนตรีค่อนข้างสูงทั้งในเรื่องของใบอนุญาต การพิจารณาเลือกพื้นที่ต่างๆ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม นายกฯก็จะเข้ามามีส่วนในการตัดสินใจ ซึ่งถือเป็นจุดเสี่ยงต่อการทุจริตคอรัปชั่นมาก

เรื่องนี้เชื่อว่าถึงที่สุดพรรคเพื่อไทยอาจจะต้องมีการแก้กฎหมายในการมอบหมายภารกิจให้แต่ละกระทรวงรับผิดชอบดูแลแต่คิดว่า พอเราเอาองค์ประกอบทั้งหมดมาไล่เรียงทำให้เกิดความรู้สึกว่าโครงการนี้ดูแปลก

ส่วนที่รัฐบาลอ้างว่าการมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งรวมไปถึงบ่อนกาสิโน จะเป็นการแก้ปัญหาคนไทยที่เดินทางไปเล่นบ่อนผิดกฎหมาย มองว่า การกำหนดเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ สิ่งที่จะตามมาคือการเก็บค่าแรกเข้าเท่าที่จำได้ตัวเลขค่าแรกจะอยู่ที่4-5 พันบาท ขณะเดียวกันเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะไม่ได้มีทุกพื้นที่ จึงเชื่อว่าไม่สามารถแก้ปัญหาบ่อนที่เกิดขึ้นตามหัวเมืองหรือบ่อนที่ผิดกฎหมายได้ 

ขณะที่การเดินทางไปเล่นยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ มาเก๊า ต้องบอกว่า ค่าเดินทางไม่ได้แพงมาก เผลอๆ อาจจะถูกกว่าค่าแรกเข้าในไทยเสียด้วยซ้ำ มองว่า ความคุ้มค่าที่จะเล่นในประเทศอาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ ถ้ามองในเชิงธุรกิจอย่างมาเก๊า การมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในประเทศไทยจึงไม่ได้หมายความว่าเราจะสู้คู่แข่งของเราได้เช่นเดียวกัน

ไทยทำเลทอง'อาชญากรรม'ข้ามชาติ?

เหนือไปกว่านั้น ข้อมูลจาก“ภาคประชาสังคม”ที่ในกรรมาธิการ สภาฯ รวบรวม มีเหยื่อที่ถูกหลอก และนำข้ามจากฝั่งไทย กว่า 6,000 คน 

เบื้องต้นกว่า 20 ประเทศ จีนมากสุดเกือบ 4,000 คน สัญชาติอื่น ไทย ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เนปาล ศรีลังกา ปากีสถาน บังคลาเทศ คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน บราซิล เอธิโอเปีย เคนยา เซียร่าเลโอน ยูกันดา บุรุนดี โมรอคโค

คนจากชาติต่างๆ เหล่านี้ ถูกหลอกโดยแก๊งค้ามนุษย์ ให้ไปทำงานเป็นสแกมเมอร์ในหลายพื้นที่ ทั้งเมียนมา กัมพูชา รวมถึงลาว ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านไทยในลุ่มแม่น้ำโขง 

โดยเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้ ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน เพื่อหาตัวเหยื่อไปยังปลายทาง

ท่ามกลางเสียงทักท้วงจากบรรดาปมร้อนในเวลานี้ แม้ล่าสุด “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  จะบอกว่า  กฎหมายฉบับนี้จะมีกาสิโนแค่10% นอกนั้น 80-90% เป็นเรื่องการท่องเที่ยว 

แต่จากนี้ต้องจับตา แน่นอนว่า ปลายทางของกฎหมายฉบับนี้ ยังต้องฝ่าสารพัดขวากหนามไม่ว่าจะเป็นความเห็นของกฤษฎีกา ที่จะชี้ขาดก่อนเข้าสภาฯ

ชำแหละพท.ฟอกขาว‘กาสิโน’  ‘แก้พนัน’ผิดจุด-‘3 ปีศาจร้าย’?

จับตา‘ศึก3เส้า’รัฐบาล-ฝ่ายค้าน-สว.

ยังไม่นับรวมไปถึง “เกมการเมือง”ที่ส่อแววเปิดฉากวัดพลังกันอีกรอบ หากกฎหมายฉบับนี้เข้าสภาฯ ลำพังศึกข้ามขั้วระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคประชาชนคงไม่ได้เหนือความคาดหมายอะไร

แต่ที่ต้องจับตาคือ พรรคร่วมรัฐบาล ทั้ง “รวมไทยสร้างชาติ” ก่อนหน้านี้แสดงจุดยืน “เห็นด้วย” แบบมีเงื่อนไข อาทิ การแบ่งครึ่งหนึ่งเป็นรายเดือนให้ผู้สูงอายุทั่วประเทศ

ในส่วนของ“ภูมิใจไทย” ก่อนหน้านี้ สะท้อนสัญญาณบางฉากบางตอนที่พลิกหลายตลบ ทั้งการแถลงจุดยืน 4 ข้อ คัดค้าน “กฎหมายกาสิโน” ด้วยเหตุไม่ตอบโจทย์ประชาชน

ทว่าเวลาต่อมาท่ามกลาง "เกมต่อรอง" ทางการเมือง กระทั่งเปลี่ยนผ่านรัฐบาลจากเศรษฐา ทวีสิน มาเป็น “แพทองธาร” 

สัญญาณจากภูมิใจไทย กลับเป็นไปในทางตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เมื่อ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยยืนยันถึงจุดยืนพรรคในการรักษามารยาทการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยการ “สนับสนุน” กฎหมายฉบับดังกล่าว

ชำแหละพท.ฟอกขาว‘กาสิโน’  ‘แก้พนัน’ผิดจุด-‘3 ปีศาจร้าย’?

ว่ากันว่า ข้อต่อรองในการสนับสนุน เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เวลานั้นคือการสนับสนุน “นโยบายกัญชา”อันถือเป็นเรือธงพรรคภูมิใจไทย 

ถึงเวลานี้แน่นอนว่า ลำพังเสียงในสภาล่าง “เพื่อไทย” อาจเป็นเป็นต่อในแง่ของเสียงที่มีอยู่ในมือ แต่อย่าลืมว่า ปราการด่านสุดท้ายหากกฎหมายเข้าสภาฯคือ ด่านสภาสูง คือ สว. ที่เวลานี้ถูกรวบอำนาจโดยสีน้ำเงิน

โดยเฉพาะ “สว.สายบ้านใหญ่” ก่อนหน้านี้เคยออกมาแสดงความเห็นคัดค้านประเด็นดังกล่าว ตัวอย่างมีให้เห็นดังเช่น กรณีกฎหมายประชามติ ที่วัดพลังกันไปมาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงสว.จนเวลานี้ต้องยืดเวลาออกไปอีก180วัน 

เป็นเช่นนี้ต้องจับตา เพราะนอกเหนือจากมิติด้านสังคม และเศรษฐกิจ ที่มีการพูดถึงเวลานี้แล้ว เกมต่อรองการเมืองก็ถือเป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขสำคัญไม่แพ้กัน