มท.1 รับ 'ชาดา' เซ็นปม 'อัลไพน์' จริง เผยทางออกยึดดุลพินิจกฤษฎีกา คืนธรณีสงฆ์

มท.1 รับ 'ชาดา' เซ็นปม 'อัลไพน์' จริง เผยทางออกยึดดุลพินิจกฤษฎีกา คืนธรณีสงฆ์

'อนุทิน' รับ 'ชาดา' เซ็นจริง ให้กรมที่ดินยึดกฎหมายเคร่งครัดปม 'สนามกอล์ฟอัลไพน์' ก่อนพ้น มท.3 แต่ย้ำอำนาจเพิกถอนเป็นของ 'รองปลัดมหาดไทย' เผยทางออกมีไม่มาก ดุลพินิจถูกล็อกมาโดยแนวทาง 'กฤษฎีกา' ต้องคืนที่ 'ธรณีสงฆ์' ขออย่าไปโยงการเมือง แลกหมัด 'เพื่อไทย-ภูมิใจไทย'

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2568  ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.)​ นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวนายชาดา​ ไทยเศรษฐ์​ อดีต รมช.มหาดไทย เซ็นคำสั่งเพิกถอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์​ กลับคืนเป็นที่ธรณีสงฆ์ ก่อนพ้นจากตำแหน่ง​ ว่า​ นายชาดาได้เซ็นให้กรมที่ดินปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด และได้ลงนามก่อนพ้นตำแหน่ง แต่นายชาดาไม่มีอำนาจในการเพิกถอน เพราะเป็นอำนาจของนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะต้องพิจารณาเรื่องข้อกฎหมายที่ไม่ใช่เฉพาะคดีอัลไพน์​ รวมถึงคดีที่ดินเขากระโดงด้วย ขณะนี้เรื่องของการเพิกถอนอยู่ระหว่างกระบวนการ มาถึงจุดที่เป็นดุลยพินิจของนายชำนาญวิทย์แล้ว​ และหากไม่ดำเนินการก็จะผิดตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และรองปลัดฯก็มีเวลาถึงเดือน ก.ย.นี้ ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ เชื่อได้ว่าจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อย

“ไม่มีทางออกสักเท่าไร เพราะดุลยพินิจถูกล็อกมาตามแนวทางของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่จะต้องเพิกถอนกรรมสิทธิ์ ด้วยการออกเอกสารสิทธิ์ของที่ดินอัลไพน์​เป็นโมฆะ และที่ดินกลับไปเป็นที่ธรณีสงฆ์” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่าอำนาจการเพิกถอนที่ดินดังกล่าวสิ้นสุดที่รองปลัดฯแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อุทธรณ์​อีกคงไม่มีสมมุติว่ารองปลัดฯ ให้เพิกถอนที่ดิน ส่วนผู้เสียหายที่ไม่พอใจ ก็ให้ไปร้องต่อศาลเป็นรายบุคคลไป​

เมื่อถามว่าหากมีการเพิกถอนที่ดินอัลไพน์​ กรมที่ดิน จะต้องเยียวยาผู้ถือครองโดยสุจริตหรือไม่ นายอนุทิน​ กล่าวว่า ตรงนั้นก็ว่ากันไป กรมที่ดินก็หนักหน่อย เพราะเป็นผู้เก็บค่าธรรมเนียม และออกโฉนดให้แก่ประชาชน ซึ่งหากเกิดอะไรขึ้น กรมที่ดินจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนใครจะถูกจะผิดก็ต้องไปไล่เบี้ยกัน ซึ่งตนเคยให้นโยบายกรมที่ดินไปแล้ว

ถามย้ำว่าหากเพิกถอนที่ดินผู้ถือครองโดยสุจริตจะต้องชดใช้ตามการประเมินมูลค่าที่ดินหรือไม่​ นายอนุทิน​ ยอมรับว่า​ “ใช่”​

เมื่อถามว่ากรมที่ดินมีการประเมินราคาที่ดินอัลไพน์​หรือไม่ หากต้องชดใช้ นายอนุทิน​ กล่าวว่า ก็ประเมินได้​ ตอนนี้ไร่เป็นล้านอยู่แล้ว​ แตกต่างจากในอดีตที่เป็นพื้นที่ชนบท ที่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่เมืองทั้งหมดแล้ว ก็ต้องไปฟ้องกัน

เมื่อถามว่า ประเด็นอัลไพน์​ ถือเป็นการแลกกันคนละหมัด ระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้ มีการดำเนินการเรื่องที่ดินเขากระโดง​ นายอนุทิน​ กล่าวว่า ไม่มีเลยเรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ถ้าตนไปสั่งรองปลัดฯเมื่อไหร่ แล้วรองปลัดฯไปพูดต่อตนตายเลย เพราะมันเป็นอำนาจโดยชอบธรรมของรองปลัดฯ และอำนาจของรัฐมนตรีก็ไม่มีสิทธิ์ไปยับยั้ง​ จะบอกว่าที่แล้วมาก็แล้วไปไม่ได้ ซึ่งเรื่องเขากระโดงกับเรื่องอัลไพน์​ หน่วยงานที่รับผิดชอบก็คล้ายๆกัน มีการออกเอกสารสิทธิ์ แต่วันดีคืนดี ก็มีคำสั่งศาลมาเพิกถอน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อ

เมื่อถามย้ำว่าเรื่องดังกล่าวไม่เชื่อม โยงกับการเมืองใช่หรือไม่ นายอนุทิน​ กล่าวยืนยันว่า​ ไม่ใช่เลย การไปโยงกับการเมืองทำให้คนมีอารมณ์ร่วมเปล่าๆ ถึงตนไม่ใช่รมว.มหาดไทย เรื่องนี้รองปลัดฯ ก็ต้องดำเนินการ​

เมื่อถามว่าการพิจารณาเพิกถอนที่ดินอัลไพน์​จะต้องชี้แจงต่อนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ เคยชี้แจงแล้ว​ เพราะเป็นเอกสารสิทธิ์ที่หน่วยงานรัฐออกให้ มีตราครุฑอยู่บนหัวโฉนด ถ้าจะไปยกเลิกก็เปรียบ เหมือนเวลา เราเซ็นเช็คไปให้คน หากมีปัญหาขึ้นมา ผู้ที่เซ็นเช็คก็ต้องชดใช้ใช่หรือไม่ เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ซึ่งที่ตนกล้าพูด เพราะอธิบดีกรมที่ดินคนปัจจุบัน ไม่เกี่ยวข้อง เพราะเรื่องเกิดขึ้นสมัยเขาอยู่ซี3 -​ ซี4 เอง ซึ่งใครทำเรื่องนี้ ก็ต้องรับผิดชอบ

เมื่อถามว่า​หากไปเพิกถอนที่ดินของครอบครัวนายกรัฐมนตรี กรมที่ดินมีเงินเพียงพอเยียวยาหรือไม่​ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ “ก็เงินรัฐบาลไทย​ เขากระโดง​ก็เหมือนกันนะ มาเย๊วเย๊วกัน​ ต้องเพิกถอน​ ต้องยกเลิก​ และถ้าเขามีโฉนดถูกต้องก็ต้องเอาเงินไปเยียวยาเขา ในมูลค่าปัจจุบัน ซึ่งตนไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น ซึ่งเดี๋ยวเราต้องขอดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปพวกเราไม่เกี่ยว แต่จะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะอย่าลืมว่า หากประชาชนทั่วไป ไม่สามารถเชื่อถือเอกสาร ของรัฐได้แล้ว ประเทศก็จะอยู่ไม่ได้ ดังนั้นคนที่ออกเอกสารสิทธิ์อะไรไป ก็ต้องรับผิดชอบ”