‘เพื่อไทย’ จัดทัพลุยสนามเลือกตั้ง สก. แบ่ง 4 โซน วาง 4 ขุนพล

“4 ขุนพล กทม.” ถือเป็น “คนรุ่นใหม่” ที่พรรคเพื่อไทยหมายมั่นปั่นให้เป็นอนาคตของพรรค จึงต้องพิสูจน์ฝีมือว่าทวงคืนพื้นที่เมืองหลวงจาก “ค่ายสีส้ม”
KEY
POINTS
- “พรรคเพื่อไทย” ยุคนายกฯ อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร คิดเร็ว-ทำเร็ว วางยุทธศาสตร์เตรียมความพร้อมการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เสร็จสรรพ
- แม้จะเหลือเวลาอีกก
“พรรคเพื่อไทย” ยุคนายกฯ อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร คิดเร็ว-ทำเร็ว วางยุทธศาสตร์เตรียมความพร้อมการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เสร็จสรรพ แม้ สก. ชุดปัจจุบันยังเหลือวาระกว่า 1 ปี ถึงจะครบเทอมในการดำรงตำแหน่ง
“หัวหน้า อิ๊งค์” หมายมั่นจะกอบกู้คะแนนนิยมในพื้นที่ กทม. ให้กลับมาอยู่กับ “ค่ายสีแดง” หลังต้องพ่ายแพ้ให้กับ “ค่ายสีส้ม” ในสนามเลือกตั้ง สส.ปี 2566 อย่างย่อยยับ
ก่อนไปถึงวันเลือกตั้ง มีด่านวัดคะแนนนิยมในสนามเลือก สก. โดยคาดการณ์ว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. - สก. ในช่วงต้นปี 2569 ซึ่งจะเป็นจังหวะวัดใจ-วัดกระแส “ค่ายสีแดง” ว่าจะฟื้นตัวมาได้มากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ตามในระยะหลัง มีการวางตัวให้ “รมต.อิ่ม” ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ให้นั่งหัวหน้าทีม กทม. ดูแลพื้นที่เมืองหลวง โดยผนึกกับ “ดร.จอห์น” สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภาฯ กทม. สร้างขุมกำลังรุ่นเก่า - รุ่นใหม่ กอบกู้ศักดิ์ศรีให้ “ค่ายสีแดง”
ทว่าบารมีของ “รมต.อิ่ม” ยังอยู่ห่างไกลกับภารกิจหัวหน้าทีม กทม. แม้จะมีเก้าอี้ รมช.มหาดไทย ช่วยหนุนเสริม แต่การแบ่งก๊ก-แบ่งเหล่าของทีม กทม. เป็นโจทย์ยากที่จะมีใครมาผนึกรอยร้าวได้
ล่าสุด “หัวหน้า อิ๊งค์” แก้เกมด้วยการผ่า กทม. ออกเป็น 4 โซน แบ่งพื้นที่ให้ 4 ขุนพลดูแลรับผิดชอบ เตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง สก. ซึ่งมีโจทย์กอบกู้ กทม.เป็นเดิมพันใหญ่
โดย “ดนุพร ปุณณกันต์” รับผิดชอบ กทม. โซน 1 มี 15 เขต ประกอบด้วย พระนคร ดุสิต ปทุมวัน บางคอแหลม บางรัก ดินแดง ห้วยขวาง สัมพันธวงศ์ สาทร ยานนาวา คลองเตย วัฒนา ราชเทวี พญาไท ป้อมปราบฯ
พื้นที่ของ “ดนุพร” อยู่ในโซนชั้นใน ซึ่งไม่ใช่ฐานเสียงของ “เพื่อไทย” จึงถือเป็นโจทย์ยากพอสมควร ที่สำคัญเจ้าตัวไม่เคยมีประสบการณ์บริหารจัดการ และกำกับดูแล “ขุมกำลังการเมือง”
“พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ” รับผิดชอบ กทม. โซน 2 มี 9 เขต ประกอบด้วย วังทองหลาง บางเขน บึงกุ่ม คันนายาว บางกะปิ สะพานสูง สวนหลวง คลองสามวา ลาดพร้าว
พื้นที่ของ “พลภูมิ” อยู่ในเซฟโซนของตัวเอง ฐานเสียง-ฐานกำลัง ค่อนข้างแข็งแกร่ง มีทีมงานฝังตัวอยู่ในทุกเขต โอกาสที่จะคว้าเก้าอี้ สก. มีสูง
“ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์” รมช.มหาดไทย รับผิดชอบ กทม. โซน 3 มี 11 เขต ประกอบด้วย ดอนเมือง สายไหม มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง หลักสี่ ประเวศ บางนา พระโขนง จตุจักร บางซื่อ
พื้นที่ของ “ธีรรัตน์” บางส่วนอยู่เป็นฐานเสียงเดิม ซึ่งมีเครือข่ายหนาแน่นอยู่แล้ว แต่บางส่วนถูกดีดไปอีกฟากฝั่ง โดยอาจจะมีมิตรเก่าที่พยายามทอดสะพานขอกลับ “บ้านเก่า” มาช่วยเกื้อหนุน ทำให้มีโอกาสคว้าเก้าอี้ สก. สูง
“พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ” รับผิดชอบ กทม. โซน 4 มี 15 เขต ประกอบด้วย ธนบุรี ภาษีเจริญ จอมทอง ทุ่งครุ บางขุนเทียน บางบอน หนองแขม ราษฎร์บูรณะ บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ตลิ่งชัน บางแค ทวีวัฒนา คลองสาน บางพลัด
พื้นที่ของ “พงศ์กวิน” อยู่ในเขตชานเมือง มีขุมกำลังค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยเจ้าตัวซุ่มลงพื้นที่ สร้างเครือข่ายมาพักใหญ่ ทำให้มีทีมงานที่แข็งแรงพอตัว
ย้อนกลับไปการเลือกตั้ง สก. ปี 2565 “พรรคเพื่อไทย” คว้าแชมป์มาได้ โดยได้ สก. 20 ที่นั่ง “อดีตพรรคก้าวไกล” 14 ที่นั่ง “พรรคประชาธิปัตย์” 9 ที่นั่ง “กลุ่มรักษ์กรุงเทพ” 3 ที่นั่ง “พรรคไทยสร้างไทย” 2 ที่นั่ง “พรรคพลังประชารัฐ” 2 ที่นั่ง
อย่างไรก็ตาม “พรรคเพื่อไทย” สามารถรวบรวม สก. ค่ายอื่นเข้ามาอยู่ค่ายสีแดงได้อีก 8 ที่นั่ง ทำให้ภายในสภาฯ กทม.ในปัจจุบัน มี สก. จากพรรคเพื่อไทย 28 ที่นั่ง
ทั้งนี้ “หัวหน้า อิ๊งค์” วางเป้ารักษาเก้าอี้ สก. ให้ไม่น้อยกว่า 20 ที่นั่ง เพื่อตรึงพื้นที่ฐานเสียงเอาไว้ แม้การเลือกตั้ง สก. จะมีกลิ่นของการเลือกตั้งท้องถิ่นแฝงอยู่ การเมืองแบบ “บ้านใหญ่” ในบางพื้นที่พอจะมีแรงขับ แต่นับวันกระแสยิ่งเป็นปัจจัยหลักในสนาม กทม.
“4 ขุนพล กทม.” ถือเป็น “คนรุ่นใหม่” ที่พรรคเพื่อไทยหมายมั่นปั่นให้เป็นอนาคตของพรรค จึงต้องพิสูจน์ฝีมือว่าจะนำพา “พรรคเพื่อไทย” ทวงคืนพื้นที่เมืองหลวงจาก “ค่ายสีส้ม” ได้หรือไม่
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์