'ลุงป้อม' สอน 'หลานอิ๊งค์' ประเทศไม่ใช่เวทีของมือสมัครเล่น

'ลุงป้อม' สอน 'หลานอิ๊งค์' ประเทศไม่ใช่เวทีของมือสมัครเล่น

'ลุงป้อม' ซักฟอก 4 ข้อ สอน 'หลานอิ๊งค์' ประเทศไม่ใช่เวทีของมือสมัครเล่นมาซ้อมมือ ชำแหละรัฐบาลบริหารล้มเหลว - เอื้อพวกพ้อง ลั่นพูดไม่เก่งแต่ขอใช้ใจบันดาลแรง

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา151 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ใช้สิทธิอภิปรายในฐานะสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน เป็นครั้งแรกของรัฐบาล 

ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่เนื้อหาอภิปราย ปรากฏว่า นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า พล.อ.ประวิตร ไม่เคยเข้าร่วมประชุมสภาฯ จะถือว่าขาดคุณสมบัติการอภิปรายหรือไม่

แต่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม วินิจฉัยว่า พล.อ.ประวิตรใช้สิทธิในฐานะสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน ไม่ถือว่าขาดคุณสมบัติ ก่อนที่จะตัดบทให้พล.อ.ประวิตร อภิปรายต่อไป

โดย พล.อ.ประวิตร อภิปรายว่า ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อม สส.พรรคได้เข้าชื่อเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจน.ส.แพทองธาร โดยไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินได้อีกต่อไป

ประเด็นแรก การดำเนินนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ ผิดพลาดล้มเหลววันนี้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัส เกิดความทุกข์ยาก ทุกหัวระแหง ปัญหาปากท้องไม่ได้รับการแก้ไขตามที่รัฐบาลได้ให้สัญญา พนักงานถูกเลิกจ้าง บริษัทห้างร้าน ปิดกิจการจำนวนมาก การแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ผิดที่ผิดทาง ประชาชนเกิดปัญหาหนี้สินทั้งในระบบ และนอกระบบ หนี้ครัวเรือนสูงถึง 104% ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ตลาดหุ้นดำดิ่ง เศรษฐกิจไทยมืดมน ไม่มีมาตรการใดๆ มาแก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องจริงๆ

\'ลุงป้อม\' สอน \'หลานอิ๊งค์\' ประเทศไม่ใช่เวทีของมือสมัครเล่น

"จริงๆ ผมให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีเพื่อแก้ปัญหาปากท้องได้สำเร็จ เพราะเห็นว่านายกรัฐมนตรีเคยบริหารด้านธุรกิจมาก่อน คงมีประสบการณ์ที่จะมาช่วยประเทศชาติได้บ้าง แต่ปรากฏว่า นายกรัฐมนตรีไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ดีขึ้น จนเศรษฐกิจถอยหลังไปอีก จนจีดีพีของไทยรั้งท้ายในกลุ่มประเทศอาเซียน และที่สำคัญคือ การตัดสินใจที่ผิดพลาดขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจ ด้วยการตัดงบประมาณนับแสนล้านบาทที่ควรจะอัดฉีดเข้าสู่เศรษฐกิจ แต่นายกรัฐมนตรีกลับเอาเงินก้อนนี้ไปแจกเงินหมื่น ซึ่งธนาคารโลก และกองทุนไอเอ็มเอฟได้ออกมาเตือนแล้วว่า การแจกเงินหมื่นไม่ได้ผล แต่ควรกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆ แทน

ถ้านายกรัฐมนตรีได้ศึกษาข้อมูลด้านเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน วันนี้คนไทยคงจะไม่ลำบาก ทุกข์ใจในเรื่องปากท้องอย่างแสนสาหัสเช่นนี้ ท่านจะนำพาประเทศให้รอดพ้นปัญหาเหล่านี้อย่างไร" 

\'ลุงป้อม\' สอน \'หลานอิ๊งค์\' ประเทศไม่ใช่เวทีของมือสมัครเล่น

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวอีกว่า ประเด็นถัดมา ผมห่วงประเทศชาติเป็นอย่างมาก และไม่สบายใจต่อการดำเนินนโยบายต่างประเทศ และความมั่นคงคือ นโยบาย MOU 44 ที่วันนี้ท่านพาประเทศชาติต่อความสูญเสียทรัพยากรทางทะเลมูลค่ามหาศาล ที่น่าเศร้าใจคือ ลูกเรือไทยที่นายกฯ รับปากว่าจะนำกลับมา แต่วันนี้ผ่านมา 4 เดือนแล้วก็ยังไม่ได้กลับ

"ในฐานะที่ผมทำงานด้านความมั่นคงมาทั้งชีวิตในฐานะผบ.ทบ. รองนายกฯ ด้านความมั่นคง และรมว.กลาโหม ผมทราบดีว่า งานด้านความมั่นคงไม่ใช่เรื่องง่ายจำเป็นต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ในหลายๆ มิติเป็นอย่างมาก ผมเห็นใจท่านนายกรัฐมนตรีที่ต้องมาตัดสินใจในเรื่องที่ท่านไม่มีประสบการณ์แต่เรื่องความมั่นคงของชาติสำคัญอย่างยิ่ง ประเทศชาติไม่ใช่เวทีที่จะให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือได้นะครับ"
 

หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังกล่าวว่า ประเด็นที่สาม การบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ รัฐบาลพยายามที่ผลักดันจนมีช่องทุจริตเชิงนโยบายเอื้อประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง

ขอย้ำว่ากาสิโนจะนำชาติไปสู่หายนะ อันตรายอย่างที่สุดเพราะจะทำให้สังคมอ่อนแอ เกิดธุรกิจสีเทาตามมาอีกจำนวนมาก ซึ่งทุกวันนี้การปล่อยปละละเลย ส่งผลให้ไทยเป็นแหล่งฟอกเงินธุรกิจสีเทา ปัญหายาเสพติดอาชญากรรรม และพนันออนไลน์มากมายอยู่แล้ว

อีกประเด็นสำคัญคือ ประเด็นขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา160(4) และ(5) ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ท่านมีการทำนิติกรรมอำพราง ยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ หลีกเลี่ยงภาษีอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงเรื่องการถือหุ้นบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ จำกัด ที่รู้ว่าเป็นที่ดินธรณีสงฆ์ท่านไม่ควรแสวงหาประโยชน์ในทางที่ผิด นอกจากนั้นยังปล่อยปละละเลยให้บุคคลในครอบครัวมากระทำให้เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้การที่บุคคลในครอบครัวของนายกฯ ได้เรียกแกนนำพรรคการเมืองไปพูดคุยในการจัดตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า และบุคคลในครอบครัวทำตัวมีอิทธิพลเหนือพรรค ส่อไปในทางครอบงำหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบต่อไป ผลจะเป็นอย่างไร ตนเชื่อว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ทั้งหมดที่กล่าวมาไม่ใช่กล่าวหาด้วยความอคติ แต่ตามหลักฐานข้อเท็จจริงทุกประการ สส.พปชร อีก 4 คนจะนำเสนอต่อไป

\'ลุงป้อม\' สอน \'หลานอิ๊งค์\' ประเทศไม่ใช่เวทีของมือสมัครเล่น

 "ผมขอขอบคุณทุกท่านในที่นี้โดยเฉพาะท่านนายกรัฐมนตรี ประชาชนที่รับฟังในสิ่งที่ผมพูด ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่กระฉับกระเฉงเท่าตอนเป็นหนุ่มๆ ผมจึงใช้ใจบันดาลแรงบริหารประเทศให้สำเร็จมากได้หลายอย่างส่วนนายกรัฐมนตรีเป็นคนหนุ่มสาวที่ยังแข็งแรงผมเชื่อว่าท่านบริหารประเทศด้วยสติปัญญามีความอ่อนน้อม มีความหนักแน่นในหลักการยึดผลประโยชน์ประเทศมากกว่าครอบครัว และพวกพ้องประชาชนจะชื่นชม และยอมรับท่านเอง"

 จากนั้นน.ส.แพทองธาร  จึงลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมทันที ว่า ตนจะพยายามตอบทุกหัวข้อเพื่อมีความสบายใจเกิดขึ้น ซึ่งตนได้จับเวลาที่ สส.ผู้อาวุโส พูดประมาณ 10 นาที  ซึ่งที่พูดไป "ไม่เป็นความจริง"

เป็นที่น่าสังเกตว่า การชี้แจงของนายกรัฐมนตรี ถูกนำไปเปรียบเทียบในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว ในช่วงเดือนก.พ.2564 ซึ่งพล.อ.ประวิตร ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี เคยถูกนายนิคม บุญวิเศษ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทยเวลานั้น อภิปรายประเด็นการทำผิดกฎหมายจากกรณี นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังไทยรักไทย หรือเจ้าพ่อเหล็กไหล ได้เข้ามอบเหล็กไหลเป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิดให้ พล.อ.ประวิตร

โดยเวลานั้น พล.อ.ประวิตร ลุกขึ้นชี้แจงว่า “สิ่งที่ท่านพูดมาทั้งหมดไม่เป็นความจริง” แล้วเดินออกจากห้องประชุมไปทันที

ครั้งนั้น พล.อ.ประวิตร ใช้เวลาชี้แจงไม่ถึง 5 วินาที

\'ลุงป้อม\' สอน \'หลานอิ๊งค์\' ประเทศไม่ใช่เวทีของมือสมัครเล่น

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์