'สส.พท.' ลุกป้อง 'คนนอก' ขอลบชื่อออกจากบันทึกการประชุม

สภาฯ เดือด หลัง "วิโรจน์" ซัด "สส.พท."เป็นบริวาร ไร้ศักดิ์ศรี ด้าน “พท.” ซัดเป็นไอ้เหลือก ไล่ออกห้องประชุม พร้อมขอลบชื่อคนนอกที่ถูกพาดพิงออกจากบันทึกการประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อการประชุมสภาฯ วาระพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ หลังจากการอภิปราย ของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายต่อประเด็นการใช้นิติกรรมอำพรางเพื่อเลี่ยงการชำระภาษีแล้ว เสร็จ พบว่าบรรยากาศของการประชุมเป็นไปอย่างวุ่นวาย เพราะมีการประท้วงกันไปมาของ สส.พรรคร่วมรัฐบาล และ สส.พรรคฝ่ายค้าน เพราะมีการพาดพิงถึงบุคคลในครอบครัวของน.ส.แพทองธาร
โดยนายโรจน์ ได้ตอบโต้ด้วยว่า “หากอยู่ในสภาฯ ต้องอยู่ในฐานะลิ่วล้อ เป็นบริวาร ไม่มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะอยู่ทำไม ผมถามแค่นี้ ไม่มีความเป็นศักดิ์ศรีของความเป็นสส. จะอยู่ทำไม”
ทั้งนี้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้ควบคุมการประชุมและได้ปิดไมโครโฟน แต่ไม่เป็นผล นายวิโรจน์ยังตะโกนอภิปราย จนมีเสียงดังภายในห้องประชุมดังสวนขึ้นว่า “ออกไป”
ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายประท้วงนายวิโรจน์ ว่า "ผมใช้สติความเป็นผู้แทน ตั้งแต่หัวหน้าเท้ง บอกว่าอย่าให้เกียรติ โดยมารยาทอย่าประท้วง ผมนั่งฟังนายวิโรจน์ ว่าทุจริต อภิปรายเองยังทุจริต เชิญชวนให้คนสนับสนุนพรรคด้วยการบริจาคเงิน และขู่ผมว่าถ้าโหวตให้นายกฯ จะผิดข้อบังคับ และกรรโชกผมอีก ขอให้น้องใจเย็น น่าจะดีกว่านี้ เป็นห่วงเหมือนคนสติแตก”
ส่วนนายวิโรจน์พยายามประท้วงตอบโต้ แต่นายพิเชษฐ์ ไม่อนุญาติ แต่กลับให้สิทธิกลับให้สิทธิ นายธีระชัย แสนแก้ว สส.บัญชีรายชื่อ ประท้วงว่า ขอให้นายวิโรจน์ได้ใช้สมองด้วย ที่ผ่านมาใช้ 2 ซีก คือ ซีกที่ยกตนข่มท่าน เหยียดยามคนอื่น อีกซีกคือ ยกย่องพวกตัวเองเท่านั้น คนแบบนี้เหมาะเป็นหัวหน้าม็อบเท่านั้นคนแบบนี้ ต้องวินิจฉัยเอาจริงเอาจัง จะได้ใจ ไอ้เหลือก”
ซึ่งนายวิโรจน์ ประท้วงตอบว่า “การพูดถึงให้ สส.คำนึงถึงศักดิ์ศรี สส. และส่วนอีกคนบอกว่าให้ใช้สมอง แต่ยังดีที่ใช้สมอง แต่คำพูดของท่านชัดเจนไม่ใช้สมอง” ทำให้นายธีระชัยลุกประท้วงว่า “ให้ระวังปากด้วย”
ทั้งนี้ในช่วงท้าย นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย ลุกหารือว่า ในการอภิปรายของนายวิโรจน์มีการอภิปรายพาดพิงถึงบุคคลภายนอก ดังนั้นในรายงานหรือบันทึกการประชุมช่วยว่านำชื่อคนนอกออก เพื่อความถูกต้องของการอภิปราย ตามข้อบังคับด้วย
นายพิเชษฐ์ ชี้แจงว่า การเอ่ยชื่อคนนอกต้องรับผิดชอบเอง จากนั้นได้ให้ผู้จะอภิปรายในลำดับถัดไปได้อภิปรายต่อไป.