'ฝ่ายค้าน-รัฐบาล' พร้อมใจชง 10ญัตติด่วน ถกรับมือ ทรัมป์ขึ้นภาษี

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ โดยนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระที่กำหนดไว้ ซึ่งเดิมจะเป็นเรื่องด่วน การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.. ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม ได้เสนอญัตติด่วนต่อที่ประชุมเพื่อให้ สภาฯ พิจารณาศึกษาผลกระทบและมาตรการรับมือจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากการเสนอดังกล่าว พบว่ามี สส. ทั้งฝั่งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ร่วมเสนอญัตติในทำนองเดียวกัน อีก 9 ญัตติ ทำให้มีญัตติด่วนที่เสนอต่อสภาฯ ทั้งสิ้น 10 ญัตติด่วน 

ทั้งนี้ การเสนอญัตติดังกล่าวไม่มีผู้ใดคัดค้านจึงทำให้สภาฯ สามารถพิจารณาญัตติดังกล่าวได้ตามข้อบังคับการประชุม

ทั้งนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง  แจ้งต่อที่ประชุมว่าเรื่องดังกล่าว รัฐบาลให้ความสำคัญ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ  ได้มอบหมายให้ ตน รัฐมนตรีหลายคนรับฟังข้อเสนอแนะและความเห็นนำไปเจรจากับทางสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นได้ขออนุญาตต่อสภาฯ ให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในห้องประชุมเพื่อจดบันทึกข้อเสนอต่างๆ ของสส.

จากนั้นได้ให้ผู้เสนอญัตติด่วนได้อภิปรายในหลักการและเหตุผลเสนอญัตติด่วนดังกล่าว

โดยนายอรรถกร กล่าวเสนอญัตติว่า น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นห่วงการเจรจาของรัฐบาลไทยกับสหรัฐฯจะกระทบต่อเกษตรกร ที่ผ่านมารัฐบาลมักเอาสินค้าเกษตรเป็นเงื่อนไขเจรจา การให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศคู่ค้าอาจส่งผลต่อเกษตรกร ขอให้รัฐบาลคำนึงถึงผลกระทบต่อเกษตรกร คิดถึงหัวอกเกษตรกร เจรจาด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงรากเหง้าของประเทศให้เสียดุลมิติทางการเกษตรน้อยที่สุด รวมถึงข้อเรียกร้องการอนุญาตให้นำเข้าสินค้าการเกษตรบางชนิดเข้าประเทศไทย อาจกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรไทยตกต่ำมากกว่าเดิม เราไม่ได้ค้าขายกับสหรัฐฯประเทศเดียว

นายอรรถกร อภิปรายด้วยว่าตนมี 4ข้อเสนอคือ 1.อยากเห็นการเจรจาอย่างรัดกุมให้กระทบต่อเกษตรกรน้อยที่สุด 2.ให้รัฐบาลหาทางลดความเสี่ยง โดยหาประเทศคู่ค้าเพิ่ม ไม่ใช่สหรัฐฯอย่างเดียว 3.มีมาตรการรองรับสินค้าที่จะไหลทะลักจากยุโรปมายังเอเชีย 4.มีมาตรการเยียวยาเกษตรกรที่จะได้รับผลกระทบจากการเจรจาให้ดีที่สุด