'ศรีวราห์'ยันยศ'พล.ต-พ.อ.' พัวพันคดีม.112กว่า50นาย
"ศรีวราห์"เผยมีนายทหาร"พล.ต-พ.อ." พัวพันคดีม.112 กว่า 50 นาย ซัดทอดไปมา แต่ยังขาดหลักฐาน คาดอีก 2 วันออกหมายจับเพิ่ม
พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท. รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนคดีแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงตามมาตรา 112 กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนี้ว่า ขณะนี้ทางกองทัพยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความหรือร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายทหารที่กระทำความผิดตามที่ปรากฏเป็นข่าว แต่อาจมีการไปร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม แต่ตอนนี้เรื่องยังมาไม่ถึงตน อย่างไรก็ตามในสำนวนที่ตนรับผิดชอบอยู่นั้นมีการให้การพาดพิงว่ามีนายทหารทั้งยศ พล.ต. และ พ.อ. มาเกี่ยวข้องพัวพัน 40-50 นาย โดยเป็นการซัดทอดกันไปมา แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะสามารถออกหมายจับทหารคนใดได้ ยืนยันว่าหากพบใครกระทำผิดก็จะต้องดำเนินการทั้งหมด
“ในสำนวนที่อยู่ในความรับผิดชอบของผมนั้นยืนยันว่าจะมีการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมแน่นอน แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร คาดว่าอีก 1-2 วันนี้จะมีความคืบหน้าในการออกหมายจับเพิ่มเติม ส่วนกรณีกระแสข่าวที่ว่ามีนายทหารยศ พล.ต. และ พ.อ. ที่เกี่ยวข้องและได้หลบหนีออกนอกประเทศนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของการสืบสวนต้องไปถามชุดสืบสวนของ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.” พล.ต.ท.ศรีวราห์ระบุ
พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปประสานเชิญคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มาให้ข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวนในประเด็นเรื่องการติดตั้งเสาสัญญาณสื่อสาร และจะมีการเรียกตัวแทนของบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SAMART เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา และดำเนินการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเสาสัญญาณดังกล่าวนั้น มีข้อมูลปรากฏว่า พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด ได้มีการย้ายเสาสัญญาณของตำรวจสื่อสารจากพื้นที่ย่านบางชัน มาติดตั้งบนอาคารตึกใบหยก ย่านประตูน้ำ เพื่อใช้ในกิจการบางอย่าง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำครั้งนี้ต่อไป