'กกต.' ไม่รับจองชื่อ เหตุติดล็อค 'คสช.'
"ไพบูลย์" เผยยื่นจองชื่อ "พรรคประชาชนปฏิรูป" กับ กกต. แต่ไม่รับ อ้างติดล็อค คสช. ทำใจรอไปยื่นใหม่ ยันนโยบายหนุน "ประยุทธ์" เป็นนายกฯ
นายไพบูลย์ นิติตะวัน แกนนำผู้ก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป (ปชช.) พร้อมด้วยคณะผู้เตรียมจัดตั้งพรรค อาทิ นพ.มโน เลาหวณิช ผู้อำนวยการสถาบันคานธี มหาวิทยาลัยรังสิต, ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือ ผู้กองปูเค็ม, พล.อ.ลือพงศ์ โชติวิทยากาญจน์ อดีตข้าราชการกองทัพบก, นายธรรมนูญ อัตโชติ ประธานชมรมคุ้มครองสิทธิสมาชิกเจ้าหนี้สหกรณ์คลองจั่น แถลงยืนยันต่อการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลังจากที่มีประกาศกกต. ให้ผู้ที่ต้องการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม
โดยนายไพบูลย์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าตนให้เจ้าหน้าที่ยื่นหนังสือเพื่อขอจองชื่อพรรคการเมือง ว่าพรรคปฏิรูปประชาชน ชื่อย่อ ปชช. ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่เจ้าหน้าที่ผู้รับเรื่องปฏิเสธที่จะรับจองชื่อเพราะติดเงื่อนไขห้ามทำกิจกรรมและตั้งพรรคการเมืองตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดังนั้นตนจึงเห็นใจ กกต. และเตรียมจะยื่นหนังสือเพื่อจองชื่อพรรคอีกครั้งหลัง คสช. ปลดล็อคคำสั่งดังกล่าว สำหรับความพร้อมของพรรค ขณะนี้มีผู้ร่วมอุดมการณ์และต้องการร่วมจัดตั้งพรรคแล้ว 117 คน ซึ่งกระจายอยู่ทั่วภูมิภาคของประเทศ และทันทีที่สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ จะเรียกประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดว่าด้วยการตั้งพรรคการเมืองใหม่
"พรรคประชาชนปฏิรูปยืนยันว่าจะเป็นพรรคการเมืองระบบใหม่ และจะไม่ทำเหมือนที่พรรคการเมืองในระบบ 70 พรรคที่ทำให้การเมืองไทยล้มเหลว สำหรับอุดมการณ์และนโยบายของพรรคนั้น เบื้องต้นมี 3 แนวทาง คือ ปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาให้อยู่ในพระธรรมวินัย ผ่านการออกกฎหมาย, สนับสนุนบุคคลที่ซื่อสัตย์ สุจริต มีความสามารถ เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ให้เป็นนายกฯ อย่างไรก็ดีประเด็นนี้คือการสนับสนุนตัวบุคคล ไม่ใช่คณะของคสช. และ ปฏิรูปเพิ่มอำนาจให้ประชาชน ตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจรัฐ" นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมาถึงยืนยันว่าพรรคประชาชนปฏิรูปจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งตามระบบเลือกตั้งขั้นต้น (ไพรมารี่โหวต) และจะส่ง ผู้สมัครส.ส.ให้ครบ 77จังหวัด เพราะเชื่อว่ากติกาการเมืองและการเลือกตั้ง ขณะนี้สร้างความเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่ หรือ พรรคที่เกิดใหม่ ดังนั้นตนไม่กังวลเรื่องความได้เปรียบกว่าใคร เพราะเชื่อมั่นว่าพรรคที่เตรียมตั้งนั้นจะเป็นตัวเลือกให้กับประชาชนได้