'ผบ.ทบ.' นำทหารปฏิญาณตนไม่มีนัยการเมือง
โฆษก ทบ. แจง "ผบ.ทบ." นำทหารปฏิญาณตน ไม่มีนัยการเมือง เชื่อสถานการณ์เลือกตั้งเข้มข้น สั่งเกาะติด ติงพรรคการเมืองหาเสียงควรมีมารยาท
เมื่อวันที่ 7 มี.ค.62 ที่ กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี แถลงผลการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกวาระพิเศษ ซึ่งก่อนการประชุม พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้นำผู้บังคับหน่วย ถวายสัตย์ปฏิญาณตน เพื่อปลุกจิตสำนึกของข้าราชการทหารที่ดี ปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ถือเป็นการเน้นในเรื่องของสภาพจิตใจที่จะต้องเข้มแข็ง มุ่งมั่น อดทน เสียสละสามัคคีและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการที่จะทำงานให้กับประเทศชาติ ซึ่งกิจกรรมนี้ไม่ได้มีนัยทางการเมือง แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาการเผยแพร่ข่าวสารในทางการเมืองมีเรื่องราวหรือข้อมูลที่พักพิงผู้บัญชาการทหารบกอยู่หลายครั้ง บางครั้งก็ถึงขั้นเอ่ยถึงบุพการีผู้ล่วงลับไปแล้วนำมาเกี่ยวข้องด้วย เชื่อว่าเรื่องเหล่านี้คงไม่น่าจะเป็นไปตามหลักมารยาทที่ดีของสังคมไทยท่านก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรและใช้หลักการอดทนอดกลั้นและไม่ได้ให้ความสำคัญ ส่วนหนึ่งน่าจะเข้าใจว่าเป็นไปตามแนวทางและช่วงเวลาของการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า สำหรับในส่วนกรณีที่ผู้บัญชาการทหารบกให้ความสำคัญคือการที่กำลังพลออกไปปฏิบัติหน้าที่ และมีการตำหนิหรือการปฏิบัติตอบที่ไม่เหมาะสมในลักษณะการดูถูกเหยียดหยามทำให้เสื่อมเสีย เกียรติยศและศักดิ์ศรี นำมาประจานผ่านสื่อ ซึ่งเป็นช่วงในเวลาการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้ ผู้บัญชาการทหารบกให้ความสำคัญเพราะเหตุการณ์ในลักษณะนี้อาจจะมีผลกระทบต่อกำลังใจของบุคคลผู้ปฏิบัติงานรวมถึงความน่าเชื่อถือขององค์กรในภาพรวม ยิ่งในยุคปัจจุบันเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกสังคม ในปัจจุบันจึงมีการดำเนินการ 2 ส่วน คือ ผู้ที่มีหน้าที่ในส่วนของสำนักงานโฆษก จะต้องชี้แจงในสิ่งที่ถูกต้อง และใช้กระบวนการยุติธรรมที่อยู่ในระบบปกติมีส่วนในการที่จะดำเนินการ
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่า การประชุมในวันนี้ มีผู้บังคับหน่วยจนถึงผู้บังคับกองพันเกือบ 800 นาย ซึ่งก่อนการประชุมได้มีการบรรยายพิเศษโดยวิทยากรรับเชิญซึ่งถือเป็นหนึ่งกิจกรรมที่กองทัพบกได้ดำเนินการต่อเนื่องในการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาอาชีพต่างๆ มาให้ความรู้ เปิดวิสัยทัศน์ให้กับผู้บังคับหน่วยในที่ประชุมให้ได้เห็นความเคลื่อนไหวของบ้านเมืองโดยมีการเชิญอดีตนายทหารระดับสูงของกองทัพบก พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์ อดีตโฆษกกระทรวงกลาโหม ให้ความรู้ให้มุมมองทรรศนะการทหารกับบ้านเมืองอย่างต่อเนื่อง
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า โดยได้บรรยายในเรื่อง เราคือทหารของชาติ เป็นการนำเอามุมมองแนวคิดเกี่ยวกับพัฒนาการทางทหารและความสัมพันธ์ทางด้านทหารกับประชาชนจะต้องมีความเข้าอกเข้าใจกันในเรื่องใดบ้าง เรื่องใดที่สังคมให้ความสนใจและกองทัพต้องชี้แจงและสร้างความเข้าใจและเรื่องใดที่จะเป็นการอยู่ร่วมกันหรือทำงานร่วมกันในทุกภาคส่วนต่างๆ ซึ่งในการบรรยายของท่านยังเชื่อว่าประชาชนยังคงรักและศรัทธาในอาชีพทหาร ขณะเดียวกันกองทัพก็ต้องอด ทนต่อการสร้างความเข้าใจในประเด็นต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องสถานการณ์การเมือง ผู้บัญชาการทหารบกได้มีการปรารภกับผู้บังคับหน่วยโดยได้กล่าวถึงการเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในห้วงต่อจากนี้ในเรื่องความเคลื่อนไหวทางด้านการเมืองจะมีความเข้มข้นหลากหลายมิติในทุกพื้นที่แต่ก็เชื่อว่าผู้บังคับหน่วยทุกท่านจะมีวิจารณญาณมีความเข้าใจอันดีต่อสถานการณ์บ้านเมืองไม่จำเป็นที่จะต้องไปกำชับเรื่องใดเป็นพิเศษและเชื่อว่าผู้บังคับหน่วยจะสามารถดูแลพื้นที่ต่างๆ ให้มีความเรียบร้อยได้เป็นอย่างดีและเอื้ออำนวยให้การจัดการเลือกตั้งเดินหน้าไปได้ตามห้วงเวลาตามที่สังคมไทยกำลังจับตามอง
เมื่อถามว่า ผบ.ทบ. สั่งให้ติดตามสถานการณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินแต่หลังจากนี้เป็นต้นไปจนถึงวันเลือกตั้งไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็มีความเข้มข้นในเรื่องของการดำเนินการของพรรคการเมืองต่างๆ อยู่แล้ว ทั้งการเตรียมการหาเสียงชูนโยบายต่างๆและทำให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์ของตนเองอย่างเต็มที่เป็นอิสระ ในส่วนของกองทัพนอกจากการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในภาพรวมแล้ว การสนับสนุนกำลังพลและครอบครัวไปใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่ ยังคงดำเนินการควบคู่ไปรวมถึงการสนับสนุนคณะกรรมการการเลือกตั้งจัดกิจกรรมการเลือกตั้งตามกรอบและแนวทาง
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ ย้ำว่า กองทัพมีแนวทางในเรื่องดังกล่าวดังชัดเจน เรามีส่วนการสนับสนุนในเรื่องการรักษาความปลอดภัยการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนและครอบครัวรวมถึงกำลังพลปฏิบัติงานในพื้นที่ต่างๆ โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า โดยให้กำลังพลปฏิบัติงานพื้นที่ชายแดน และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงกำลังปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพที่เซาท์ซูดาน ก็ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าอย่างเต็มที่
โดยมีอัครราชทูตไทยได้นำบัตรเลือกตั้งจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าให้แล้ว ส่วนในเรื่องของรายละเอียดทางด้านการเมืองให้ทางฝ่ายการเมืองได้แสดงวิสัยทัศน์และแนวทางต่างๆ กับประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ การเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มี.ค. นี้ กำลังพลที่ลงทะเบียนไว้แล้วให้ไปเลือกตั้งเป็นไปตามระเบียบวาระที่ กกต. ได้ประกาศไว้ ซึ่งกำลังพลที่ต้องไปเลือกตั้งล่วงหน้า ได้ไปลงทะเบียนหมดแล้วทั้งที่แสดงโดยมีอัครราชทูตไทยได้นำบัตรเลือกตั้งทำการลงจัดการ
เมื่อถามถึงกรณี พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรครวมไทย ระบุ ให้ผู้บัญชาการทหารบกกลับไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งเท่าไหร่ วิธีการหาเสียงทางฝ่ายการเมืองจะมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจะพูดหรือวิธีการเสนอแนะนโยบาย อย่างไรก็แล้วแต่จะต้องมีขอบเขต กฎกติกา มารยาทในการที่จะนำเสนอข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะการแข่งขันทางด้านการเมืองก็ควรจะมีขอบเขต ในส่วนของการใช้ถ้อยคำต่างๆ อย่างเรื่องของ เพลงหนักแผ่นดิน ที่ให้มีการฟังซึ่งเพลงนี้ เป็นเพลงที่มีความหมายเป็นการเตือนสติในหลายอย่างและเป็นเพลงที่ทุกคนเปิดฟังกันอยู่แล้ว ทั้งในส่วนของกองบัญชาการกองทัพบกและก็ยังมีหลายเรื่องที่ยังเป็นการเตือนสติสังคมไม่ใช่เฉพาะเพลงนี้อย่างเดียว ยังมีบทเพลงอื่นๆ รวมถึงหนังสือ เช่นหนังสือสมบัติผู้ดี ก็เป็นหนังสือที่น่าอ่านถ้ามีโอกาสให้หลายส่วนได้ลองไปอ่านดูจะทำให้เราจรรโลงสังคมไทยให้มีความเข้าใจและเอื้ออาทรต่อกันอยากให้ฟังทั้งเพลงและอ่านทำหนังสือมีอะไรดีให้ช่วยกันแนะนำ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ แถลงผลการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกวาระพิเศษ ว่า พล.อ.อภิรัชต์ ได้ย้ำเตือนและกำชับในนโยบายต่างๆ คือ การทำงานของกองทัพบกโดยได้พูดถึงงานในหลายมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรที่เป็นความตั้งใจและเป็นความทุ่มเทของผู้บังคับบัญชาที่ต้องการให้พัฒนาบุคลากรของกองทัพบกโดยเริ่มตั้งแต่ต้นทาง โดยนโยบายนี้กองทัพบกจะดึงการอย่างจริงจังโดยการวางรากฐานทางกายภาพและอุดมการณ์ด้วยอีกส่วนหนึ่งเกิดการพัฒนาศักยภาพ ของส่วนกำลังรบจะมีการพัฒนาในเรื่องของหลักนิยมขีดความสามารถและองค์ประกอบต่างๆ ให้ส่วนกำลังรบมีขีดความสามารถ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า วาระงานต่างๆ ของกองทัพบกในช่วง 6 เดือนต่อจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับให้ผู้บังคับหน่วยให้ความสำคัญในเรื่องราวต่างๆ โดยเฉพาะการสนับสนุนงานพระราชพิธีราชาภิเษกและการที่กองทัพบกเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกองทัพบกกลุ่มประเทศภาคพื้นดิน Pacific ในช่วงเดือนกันยายนและการเตรียมกำลังกองร้อยทหารราบเข้าร่วมการฝึกประสมที่ฮาวายในเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ส่วนภารกิจที่ถือว่าได้ดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยเฉพาะมาตรการสกัดกั้นปรามยาเสพติดในช่วง 3 เดือน และการใช้มาตรการการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรในพื้นที่ชายแดน ได้กล่าวชมเชยในการทุ่มเทของทุกหน่วยถือว่าการปฏิบัติงานในช่วงที่ผ่านมามีประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่งและย้ำให้หน่วยต่างๆ ได้ดำรงความต่อเนื่องในภารกิจดังกล่าวมีทุกพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งผิดกฎหมายเข้ามาบั่นทอนสังคมไทย