กกต.แนะ 'ทษช.'รีบเก็บป้าย-ลบโพสต์หาเสียงโซเชียล
"เลขากกต." แจงชัด "อดีตกรรมการทษช." ช่วยพรรคอื่นหาเสียงได้ แต่ต้องระวังไม่ครอบงำพรรคอื่น ส่วนสมาชิกย้ายไปสมัครพรรคอื่นช่วยหาเสียงได้เต็มที่ ย้ำรีบเก็บป้าย-ลบข้อความ ส่วนปมโต๊ะจีนพปชร.สัปดาห์หน้าถึงมือ กกต.ทั้ง 7 แน่นอน
เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2 เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.กล่าวถึงผลจากคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติว่า กรรมการบริหารพรรคทั้ง 13 คนจะถูกตัดสิทธิสมัคร และห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรคหรือผู้ร่วมก่อตั้งพรรคการเมืองอื่นภายในเวลา 10 ปี ยกเว้นนายรุ่งเรือง พิทยะศิริ ซึ่งลาออกไปก่อนมีการกระทำความผิด ทั้งนี้กรรมการบริหารพรรคทั้ง 13 คน ที่ถูกเพิกถอนสิทธิสามารถไปช่วยหาเสียงให้กับพรรคการเมืองอื่นได้ แต่ต้องระวังไม่ให้เข้าข่ายครอบงำพรรคอื่น และจะขึ้นรูปในป้ายหาเสียงคู่กับผู้สมัครของพรรคอื่นไม่ได้ ส่วนสมาชิกและผู้สมัครคนอื่นๆ เมื่อพรรคถูกยุบสามารถไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่น และเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ เพราะยังมีสถานะเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้ประเด็นผู้ช่วยหาเสียงจะถูกควบคุมด้วยจำนวนและค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนที่ทำการพรรคและสาขาพรรคแม้กฎหมายไม่ได้กำหนดว่าต้องรื้อถอนป้ายชื่อและโลโก้พรรคออกภายในกำหนดเวลาเท่าไร ก็แต่ควรรีบดำเนินการโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม หากอดีตสมาชิก ทษช.ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นแล้ว ก็สามารถขึ้นรูปในป้ายหาเสียงคู่กับผู้สมัครได้
"อดีตสมาชิกพรรคทษช. ห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองในนามของพรรคที่ถูกยุบ สำหรับการโฆษณาหาเสียงในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นป้ายหาเสียง หรือการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียต้องลบทิ้งทั้งหมด ในระหว่างนี้กกต.ได้เร่งประชาสัมพันธ์ไปยังสถานเอกอัครราชทูตใน 97 ประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ให้เร่งชี้แจงกรณีพรรคทษช.ถูกยุบ เพราะหากกาบัตรเลือกผู้สมัครของพรรคที่ถูกยุบ ผู้สมัครถูกถอนชื่อจะถือเป็นบัตรเสียทันที" เลขาธิการกกต.กล่าว
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับขั้นตอนการยุบพรรค เมื่อกกต.ได้รับคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญจะเร่งส่งเรื่องให้ศาลฎีกาสั่งถอนชื่อผู้สมัครของพรรคทษช.ออกจากการเป็นผู้สมัครทันที โดยเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จการวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า รวมถึงกรณีพรรคเพื่อนไทยซึ่งผู้สมัครถูกตัดสิทธิสมัครทั้งพรรค โดยตามขั้นตอนนายทะเบียนพรรคการเมืองประกาศยุบพรรคไทยรักษาชาติ และนำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมกับแจ้งประกาศดังกล่าวให้กับอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติทราบ และแจ้งให้พรรคไทยรักษาชาติ จัดส่งบัญชีและงบแสดงสถานะทางการเงินต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองภายใน 30 วันนับแต่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งยุบพรรค เพื่อแจ้งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินดำเนินการชำระบัญชีของพรรค
เมื่อถามถึงการรณรงค์โหวตโน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า โหวตโนหมายถึงกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนให้ผู้ใดสามารถกระทำได้ แต่ห้ามไปแจกเงิน บังคับ ข่มขู่ หลอกลวง ให้โหวตโน เพราะจะมีความผิดในลักษณะเกียวกับการซื้อเสียง
พ.ต. อ.จรุงวิทย์ ยังกล่าวชี้แจงข้อวิจารณ์ที่ว่ายุบ ทษช. รวดเร็ว แต่เรื่องร้องยุบพรรคอื่นทำช้า โดยเฉพาะกรณีโต๊ะจีนพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งยื่นคำร้องมาตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.61 ว่า กรณีทษช.ความผิดปรากฎชัดมีหลักฐานอันควรเชื่อว่ามีการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองอย่างชัดเจน จึงเสนอให้คณะกรรมการกกต.พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ทันที ส่วนกรณีโต๊ะจีนระดมทุนต้องตรวจสอบบัญชียอดบริจาค จะยุบพรรคได้ต่อเมื่อมีการรับเงินจากชาวต่างชาติหรือนิติบุคคลที่มีชาวต่างชาติถือครองหุ้นมากกว่า 49% ซึ่งมีรายชื่อนิติบุคคลบริจาคถึง 40 แห่ง และเป็นการบริจาคจากบุคคลธรรมดาถึง 84 คน รายละเอียดทั้งต้องตรวจสอบไปยังสำนักทะเบียนราษฎร และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนและสามารถเสนอความเห็นให้กรรมการกกต.พิจารณาได้ รวมถึงคำร้องยุบพรรคอื่นๆด้วย
เลขาธิการกกต. กล่าวถึง การเดินทางไปดูงานการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรของกกต.ทั้ง 7 คนว่า กฎหมายใหม่กำหนดให้กกต.ต้องไปดูการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร หากเกิดเหตุผิดพลาด เช่น ส่งบัตรผิด กกต.สามรถใช้อำนาจสั่งระงับการเลือกตั้งได้ทันที ถ้ากกต.ไม่เดินทางไปแล้วเกิดเหตุขัดข้องผิดพลาด จะกลายเป็นกกต.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนงบประมาณในการเดินทางก็อยู่ในขอบข่ายของการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ในการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มี.ค.นี้ กกต.ทั้ง 7 คนก็จะลงพื้นที่ตรวจสอบการจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ต่างๆเช่นกัน