'ผบ.เหล่าทัพ' แถลงจุดยืนสนับสนุนคนดีปกครองบ้านเมือง'
"ผบ.เหล่าทัพ" แถลงจุดยืน หลังเลือกตั้ง น้อมนำพระบรมราโชวาท ร.9 พร้อมทำงานทุกพรรค วอนหยุดสร้างวาทะกรรม สืบทอดอำนาจ อย่าตั้งเป้า รัฐประหาร ขอเชื่อใจ กกต.ให้เวลาสางข้อบกพร่อง
เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เวลา 13.00 น. ที่กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ พล.อ.ณัฐอินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าว
โดย พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า จุดยืนต่อบทบาทและหน้าที่ในการปกป้องสถาบันหลักของชาติ ของทหารและตำรวจไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ส่วนบทบาทความเป็น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และความเป็นแม่น้ำ 5 สายจะมีโรดแม๊พตามระยะเวลา ก็ไม่มีเรื่องใดที่ต้องกังวลการบริหารงานของรัฐบาลในเวลาต่อไปเป็นไปตามตัวบทกฎหมายและรัฐธรรมนูญที่กำหนด
เมื่อถามว่า สถานการณ์การเมืองหลังเลือกตั้ง ผบ.เหล่าทัพ วิเคราะห์อย่างไร พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมาต้องขอขอบคุณทุกพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องที่ได้ทำให้เกิดความเรียบร้อย ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาคสช.ได้คลายความกังวลเพราะทุกอย่างเป็นไปตามโรดแม๊พ ผลของการเลือกตั้งเท่าที่ได้ติดตามในฐานะประชาชน ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยปกติ
พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ส่วนการพยายามที่จะรวมเป็นรัฐบาลโดยคะแนนข้างไหนนั้น ขอให้เป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง ส่วนทหาร ตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบและป้องกันเอกราชอธิปไตยของประเทศชาติต่อไปตามปกติ ทั้งนี้ ทหาร ตำรวจ เป็นส่วนราชการเป็นกลไกทางราชการที่ต้องปฏิบัติงานตามคำสั่งของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดก็ตาม เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดที่จะมาทำหน้าที่ในการเป็นรัฐบาล ทหารและตำรวจต้องปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางที่รัฐบาลดำเนินการไว้
เมื่อถามว่า ในฐานะที่กองทัพเป็นส่วนหนึ่งของคสช แต่ 7 พรรคการเมือง ลงสัตยาบันหยุดสืบทอดอำนาจ คสช.และปฏิรูปกองทัพ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า คสช.ต้องยุติไปตาม โรดแม๊พ อยู่แล้ว เมื่อเลือกตั้งและตั้งรัฐบาลความเป็น คสช.ก็พ้นไปโดยธรรมชาติ ตนไม่เห็นว่าจะมีโอกาสที่จะเป็นการสืบทอดอำนาจตาม
วาทะที่ได้พูดในระยะนี้ ไม่มีอะไรที่จะเป็นเรื่องน่ากังวล ในส่วนที่ถามเกี่ยวกับปรับปรุงพัฒนากองทัพ ถ้าคำสั่งแนวทาง นโยบายแห่งรัฐเป็นเรื่องที่คิดใคร่ครวญอย่างเหมาะสมแล้วที่ทำให้ประเทศชาติ มีความมั่นคง เสถียรภาพ ไม่ถูกรุกรานจากประเทศภายนอก ทุกอย่างจะปรับได้ตามที่รัฐบาลกำหนดนโยบายให้กับกองทัพและตำรวจปฏิบัติ
เมื่อถามว่า เราจะสามารถทำตามพระบรมราโชวาท คือให้คนดีมาปกครองบ้านเมืองได้หรือไม่ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่เป็นความเร่งด่วนสุด ที่กองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พยายามจะพูดในทุกครั้งและทุกโอกาส การดำเนินการทุกประการตามแนวพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ถือว่ามีความลึกซึ้งและเป็น ปรัชญา สูงสุด เราไม่สามารถทําให้ทุกคนเป็นคนดี แต่เราเลือกคนดีเข้ามาบริหารมีอำนาจได้ แล้วเราทุกคนในสังคมต่างๆทหารตำรวจพยายามยึดมั่นในแนวปฏิบัติอันนี้คือพยายามให้ทุกคนก็ตามที่เป็นคนดีขึ้นมาเป็นผู้ปกครองบังคับบัญชา
เมื่อถามว่า เป็นห่วงหลังเลือกตั้งเรื่องการทุจริตหรือไม่ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ต้องให้เวลากับ กดต. เราต้องเชื่อมั่นกลไกของรัฐ แม้ว่าเราอาจมีความเห็นว่าการทำงานของ กกต.ไม่เรียบร้อยในกระบวนการจัดการเลือกตั้ง อย่างไรต้องเชื่อใจว่า กกต. เขามีหลักในการปฏิบัติและพยายามที่จะทำออกมาให้ดีที่สุด เมื่อพบข้อบกพร่องก็ต้องแก้ไขและในข้อแก้ไขจะต้องใช้เวลาพอสมควร ถ้าเราให้โอกาส กกต.มากกว่าจู่โจมด้วยคำพูดจนเขาไม่สามารถตั้งตัวได้และทำลายความน่าเชื่อถือ ในบางเรื่องเป็นเรื่องจริงหสกเราก็เลือกไม่เชื่อไปแล้ว ก็ต้องให้ความเป็นธรรม กกต.ไปด้วย
เมื่อถามว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีไม่ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกกองทัพมีจุดยืนอย่างไร พล.อ. พรพิพัฒน์กล่าวว่า กองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ภายใต้รัฐบาลมาเป็น 100 ปี อยู่ภายใต้การนำของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยมาทุกแบบเพราะฉะนั้นไม่มีปัญหา ว่ากองทัพจะปฏิบัติงานภายใต้รัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีท่านใด
เมื่อถามว่า หากการเลือกตั้ง ไม่ได้ข้อสรุปที่ดีจะเกิดการรัฐประหารหรือไม่ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า เราอย่าไปตั้งเป้าว่าจบไม่ดี คนไทยต้องคิดบวกเราอุตส่าห์เดินทางตามโรดแมปมาถึงขั้นนี้แล้ว จนมีการเลือกตั้งคะแนนก็ได้ผลการเลือกตั้ง ขอให้ กกต. ประกาศยืนยันผลเป็นทางการทุกอย่างก็จะมีการฟอร์มรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ซึ่งในที่สุดก็จะสามารถมีรัฐบาล ที่ได้เสียงข้างมากจนได้