วัดความเชื่อถือ 'กกต.' กับเรื่องร้อน ยิ่งกว่าอากาศ

วัดความเชื่อถือ 'กกต.' กับเรื่องร้อน ยิ่งกว่าอากาศ

การเมืองช่วงรอประกาศรับรองความเป็น ส.ส. อย่างเป็นทางการ จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีความขมุกขมัว เพราะหลายสิ่งตามสภาพของการเมืองไทย ไม่ใช่อย่างที่เคยเป็นมา

อนึ่งตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กำหนดให้ “กกต.” รับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ให้แล้วเสร็จ โดยไม่เกินกรอบ 60 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง 24 มีนาคม ซึ่ง “กกต.” ขีดเดดไลน์ของตัวเองให้ทำงานให้เสร็จ และเตรียมประกาศรับรองผลเลือกตั้ง 9 พฤษภาคมนี้ ก่อนเดดไลน์ 15 วัน เพื่อกันกรณีฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้

วัดความเชื่อถือ \'กกต.\' กับเรื่องร้อน ยิ่งกว่าอากาศ

โดยเฉพาะการจัดการ เลือกตั้งซ่อม หรือ เหตุที่ต้องมีผลเปลี่ยนแปลงคะแนนเลือกตั้ง ที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับในช่วงเลือกตั้ง เหตุผลสำคัญที่ต้องรอกระบวนการรื้อใหม่ เนื่องจาก ระบบเลือกตั้งจัดสรรปันส่วนผสม ที่ออกแบบให้ทุกคะแนนเสียง ไม่ตกน้ำ จำเป็นต้องนำคะแนนนิยมที่ได้จากการเลือกตั้ง นำมาคำนวณเพื่อหาจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ

ดังนั้นหากให้ กกต. จัดคำสั่งคอมโบเซต เลือกตั้งใหม่แค่ 5 เขต เท่ากับว่า การประกาศรับรองผลความเป็นส.ส. ภายใน 9 พฤษภาคมนี้ อาจต้องยืดไป เนื่องจากมีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญกำหนดเป็น เดดล็อกไว้ด้วยว่า ต้องรับรองผลความเป็น ส.ส. ให้เกิน 95 เปอร์เซ็นต์ ถึงจะดำเนินการในขั้นตอนสำคัญต่อไปได้ คือ การเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก

อย่างไรก็ตามกระบวนการทางการเมือง นอกจากรอฟังคำประกาศผลเลือกตั้ง ยังมีสิ่งที่เคลื่อนไหวต่อเนื่อง คือ กระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ผ่านการรวมเสียงข้างมาก โดยขณะนี้ปรากฏภาพชัด คือ มีขั้วของ “พรรคเพื่อไทย” รวมกับ 7 พรรคการเมือง กับขั้วของ “พลังประชารัฐ” ที่ล่าสุดยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะมีกี่พรรคการเมืองเข้าร่วมอย่างจริงจัง

วัดความเชื่อถือ \'กกต.\' กับเรื่องร้อน ยิ่งกว่าอากาศ

แต่แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันถึงความมั่นใจว่าขั้วที่ชู “พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา” นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นแคนดิเดตนายกฯ คนต่อไป จะได้รับการตอบรับ เพื่อให้ “ลุงตู่” คัมแบ็คบนเก้าอี้สูงสุดของฝ่ายบริหารแน่นอน

2_14

หากมองจากรูปการณ์ เห็นได้ชัดว่า โอกาสที่ พลังประชารัฐ จะได้สมใจหมาย วิธีเดียว คือ ตัดทอนเสียงของ กลุ่มพรรคฝั่งเพื่อไทย ให้ได้มากที่สุด ผ่านกระบวนการสำคัญที่มี “นักร้อง” ยื่นเรื่องต่อ “กกต.” ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของเหล่าว่าที่ส.ส. ในสถานะที่ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค ทั้ง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” - “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวช” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ว่าดีพร้อมเป็น “ส.ส.” ตามที่ได้รับเลือกมาหรือไม่

วัดความเชื่อถือ \'กกต.\' กับเรื่องร้อน ยิ่งกว่าอากาศ

เนื่องจากมีกรณีที่เป็นข้อสงสัยว่า “คุณสมบัติความเป็นส.ส.นั้นจะสิ้นลง” เพราะถือครองหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน ตามข้อห้ามที่เข้มงวดของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กำหนด

แต่กับกรณีนี้ เชื่อว่า กกต. ต้องใช้ความละเอียดและรอบคอบอย่างหนัก เพราะหาก ตัดสินชี้ขาดไปในทางสร้างผลกระทบกับ “ว่าที่ ส.ส.” ย่อมเกิดผลกระทบต่อการทำงานในฐานะองค์กรอิสระที่ต้องปราศจากการแทรกแซงอย่างแน่นอน

เพราะตามที่ “ปิยบุตร แสงกนกกุล" เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่” แถลงดักทาง กกต. ว่า หากตัดสินชี้ขาด โดยไม่ให้ “ธนาธร” ฐานะผู้ถูกยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ ชี้แจงหรือแก้ต่าง ย่อมทำให้เห็นว่ามีความหวังผลทางการเมืองต่อการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งแน่นอน อีกครั้งจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อ “กกต.” ฐานะผู้กำกับการเลือกตั้งที่ต้องมีอิสระและยุติธรรมในการทำหน้าที่

ดังนั้น สถานการณ์การเมืองก่อนการรับรองผลเลือกตั้ง ยังมีความขุ่นมัว และร้อนระอุ เหมือนฝุ่นพิษที่ปกคลุมภาคเหนือ และทั่วประเทศไทยยามนี้ อุณหภูมิร้อนจนแทบจะอยู่โดยปราศจากความเย็นไม่ได้