อีสานโพลชี้อยากได้ "สุดารัตน์" เป็นนายก และเพื่อไทยนำตั้งรัฐบาล
อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจ “มุมมองคนอีสานกับการตั้งรัฐบาล” พบว่าผลงานและนโยบายพรรคเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือก ส.ส. ส่วนใหญ่ไม่พอใจการทำงานของ กกต. และคิดว่า กกต. จำเป็นต้องเปิดเผยคะแนนเลือกตั้งรายหน่วย และไม่พอใจการตั้ง ส.ว. เพื่อโหวตเลือกนายกฯ โดยยอมรับคุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกฯ มากที่สุด และอยากให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมากที่สุด หากตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากไม่ได้ เสียงจำนวนมากหนุนให้มีรัฐบาลแห่งชาติที่มี 1 พรรคพรรคเป็นฝ่ายค้าน
ผศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพลเปิดเผยว่า การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นคนอีสานต่อการจัดการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาล ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17-19 พฤษภาคม 2562 จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,027 ราย กระจายตามสัดส่วนโครงสร้างประชากรในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด เมื่อสอบถามว่าอะไรคือปัจจัยที่สำคัญที่สุดต่อการตัดสินใจในการเลือก สส. ครั้งที่ผ่านมาของท่าน พบว่า อันดับหนึ่งร้อยละ 44.5 พิจารณาจากผลงานและนโยบายพรรค รองลงมา พิจารณาจากจุดยืนทางการเมือง และพิจารณาจากผลงานและประวัติผู้สมัคร ซึ่งมีสัดส่วนเท่ากันคือ ร้อยละ 18.7 และร้อยละ 18.0 พิจารณาจากว่าที่นายกฯ
เมื่อสอบถามต่อว่าท่านพอใจการทำงานของ กกต. (คณะกรรมการเลือกตั้ง) หรือไม่ อย่างไร พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 76.4 ไม่พอใจจนถึงไม่พอใจมาก ขณะที่มีเพียงร้อยละ 23.6 ที่พอใจจนถึงพอใจมาก เมื่อสอบถามว่า กกต. จำเป็นต้องเปิดเผยคะแนนเลือกตั้งทุกหน่วยเลือกตั้งหรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 80.9 คิดว่าจำเป็น ขณะที่เพียงร้อยละ 19.1 คิดว่าไม่จำเป็น
เมื่อสอบถามต่อว่า ท่านพอใจการแต่งตั้ง ส.ว. 250 คน เพื่อมาโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 74.4 ไม่พอใจ และพอใจเพียงร้อยละ 25.6
สอบถามด้วยข้อจำกัด ท่านยอมรับใครเป็นนายกฯ ได้บ้าง พบว่า จาก 5 รายชื่อที่เป็นตัวเลือก อันดับหนึ่งที่กลุ่มตัวอย่างยอมรับได้ คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 80.0 อันดับสอง คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ร้อยละ 71.5 อันดับ 3 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 44.5 อันดับ 4 นายอนุทินชาญวีรกูล ร้อยละ 40.6 และอันดับ 5 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 28.9
เมื่อสอบถามว่า พรรคใดที่ควรร่วมตั้งรัฐบาลบ้าง พบว่า จาก 5 พรรคใหญ่ที่เป็นตัวเลือก อันดับหนึ่งที่กลุ่มตัวอย่างอยากให้ร่วมเป็นรัฐบาล คือ พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 81.2 อันดับ 2 คือ พรรคอนาคตใหม่ ร้อยละ 72.4 อันดับ 3 พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 57.4 อันดับ 4 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 53.4 และอันดับ 5 พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 29.5
สุดท้ายเมื่อสอบถามว่า ถ้าไม่มีฝ่ายใดสามารถรวบรวมเสียง ส.ส. และ ส.ว. เพื่อตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้ (มี ส.ส. เกิน 251 คน และรวมกับ ส.ว. แล้วต้องได้เสียงเกิน 376 เสียง) ควรทำอย่างไร พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 34.8 ต้องการให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติโดยมี 1 พรรคเป็นฝ่ายค้าน อันดับ 2 ร้อยละ 28.5 ต้องการนายกฯ คนกลาง อันดับ 3 ร้อยละ 20.4 ต้องการให้เลือกตั้งใหม่ และอันดับ 4 ต้องการให้ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย