จี้กกต.สอบ 'อนาคตใหม่' ปูดซื้อส.ส.120ล้าน ถ้าไม่จริงระวังเชือดทั้งพรรค
"ศรีสุวรรณ" จี้กกต.สอบ "อนาคตใหม่" ปูดซื้อส.ส.120ล้าน ถ้าไม่จริงระวังเชือดทั้งพรรค ชี้เหตุหวังผลทางการเมืองก่อนจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีกรรมการบริหารและ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่มีคนติดต่อมาเพื่อขอซื้อตัวให้เป็นงูเห่าโดยเสนอผลประโยชน์หรือทุ่มซื้อตัวสูงถึง 120 ล้านบาทต่อคนนั้น
กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ไม่อาจปล่อยผ่านให้เป็นเหมือนคลื่นกระทบฝั่งไปได้ เนื่องจากหากเป็นความจริง จะถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายอย่างรุนแรงหลายฉบับหลายมาตรา ทั้งกฎหมายอาญา ม.149 และกฎหมายพรรคการเมือง 2560 ม.28 ม.29 ม.44 ม.46 ม.88 วรรคสอง และถือได้ว่าเป็นกระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญ บุคคลของพรรคการเมืองใดกระทำเช่นนั้น จะเป็นมูลเหตุสำคัญที่นำไปสู่การยุบพรรคการเมืองโดยศาลรัฐธรรมนูญได้
โดยที่เมื่อกรรมการบริหารและ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ได้ออกมาแถลงข่าวเปิดโปงขบวนการซื้องูเง่าว่ามีจริง จะต้องดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายต่อผู้ที่มาติดต่อขอซื้อตัวโดยเร็ว ว่าเป็นใคร มาจากพรรคการเมืองใด เพื่อลบข้อครหาว่าเป็นแกะ หรือแสร้งแถลงข่าวเพื่อหวังผลทางการเมืองก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมาเท่านั้น เพราะหากพรรคอนาคตใหม่ไม่ดำเนินการใด ๆ ทางกฎหมายและไม่แจ้ง กกต. ให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน ตามอำนาจหน้าที่ต่อไปก็อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง และอาจมีโทษถึงขั้นที่นายทะเบียนพรรคการเมืองอาจเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ กกต. เพื่อพิจารณามีคําสั่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น พ้นจากตําแหน่งทั้งคณะ และต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกําหนด 5 ปีด้วย
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อ กกต. ให้เรียก โฆษกพรรคอนาคตใหม่และ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.และก่อนหน้านั้นที่ออกมาเปิดโปงว่าถูกติอต่อขอซื้อตัว มาให้ข้อเท็จจริงต่อ กกต.เพื่อเอาผิดบุคลหรือพรรคการเมืองที่กระทำการดังกล่าว และหากสอบแล้วไม่มีมูลความจริง จะต้องเอาผิดผู้ที่ไขข่าวดังกล่าวตามกฎหมายต่อไปด้วย โดยสมาคมฯจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อ กกต.ในวันศุกร์ที่ 7 มิ.ย.เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม.