“สมพงษ์” ไม่เชื่อมั่น “รบ.” ขับเคลื่อนประเทศได้ ห่วงพาประเทศสู่หายนะ ชี้รมต.เศรษฐกิจ ชุดนี้ยังหน้าเดิม - นโยบายขาดความชัดเจน
เมื่อเวลา 11.50 น. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ฐานะผู้นำฝ่ายค้าน นำอภิปรายนโยบายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้แถลงต่อรัฐสภาเป็นคนแรก โดยสาระสำคัญตอนหนึ่งแสดงความไม่มั่นใจและไม่เชื่อมั่นต่อการนำนโยบายรัฐบาลไปปฏิบัติรวมถึงกังวลว่าภายใต้การบริหารของพล.อ.ประยุทธ์ และ ทีมเศรษฐกิจที่เป็นชุดเดิมเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาจะทำให้ประเทศไปสู่ความล้มเหลวแบบหายนะ ทั้งนี้มองด้วยว่านายกฯ และครม. ชุดปัจจุบันไม่มีความชอบธรรมต่อการเข้าสู่อำนาจ ทั้งผ่านกลไกของรัฐธรรมนูญที่ใช้ประชามติแบบมัดมือชก และมีพฤติกรรมสืบทอดอำนาจที่ชัดเจน รวมถึงในช่วงของการเลือกตั้งพบการใช้งบประมาณแผ่นดินก่อนการเลือกตั้ง อาทิ โอนเงินให้กับ อสม. เพียง 2 วันก่อนวันเลือกตั้ง ทำให้ตนมองว่ารัฐบาลปัจจุบันขาดความชอบธรรมต่อการได้อำนาจมาซึ่งการบริหารประเทศ รวมถึงไม่มีความสง่างาม เพราะจากกฎหมายและการเข้าสู่อำนาจ ทำให้ประเทศกลายเป็นประชาธิปไตยแบบจอมปลอม
นายสมพงษ์ ยังกล่าวถึงคุณสมบัติของรัฐมนตรีที่พบว่ามีปัญหา อาทิ ผู้ที่เคยต้องคดียาเสพติดที่รัฐธรรมนูญกำหนดห้ามเข้าสู่การดำรงตำแหน่งทางการเมือง และถือว่าเป็นคุณสมบัติที่ขัดกับจริยธรรมอย่างร้ายแรง นอกจากนั้นยังพบว่าการให้ตำแหน่งรัฐมนตรีมีลักษณะมากกว่าความเป็นนอมินี คือ เมื่อไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้ ให้น้อง หรือ ภรรยา หรือสามี เข้ารับตำแหน่งแทน ขณะที่คุณสมบัติของพล.อ.ประยุทธ์ ยังพบว่ามีปัญหาเนื่องจากเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
“ทีมเศรษฐกิจชุดที่ 5 ปี ยังเป็นชุดเดียวกันปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ผมห่วง เพราะการแก้ปัญหาไม่ได้เรื่อง ประชาชนเดือดร้อน จนมีสโลแกนประจำว่า รวยกระจุกจนกระจาย ขณะที่การลงทุนจากนักลงทุนไม่กล้าเข้ามาลงทุน ส่วนหนึ่งเพราะรัฐบาลขาดมาตรการส่งเสริมที่เหมาะสม ส่วนกรณีที่รัฐบาลเตรียมทำนโยบายด้านการอัดฉีดเม็ดเงิน ขอให้ระวังหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่นโยบายที่เกี่ยวกับเกษตรกร ขาดความชัดเจนที่นำไปสู่เป้าหมาย คือ แก้ปัญหาของเกษตรกร ” นายสมพงษ์ กล่าว
ผู้นำฝ่ายค้าน อภิปรายด้วยว่าสำหรับการใช้งบประมาณเพื่อทำนโยบาย ตนไม่เห็นตัวเลขของการใช้งบประมาณส่วนต่างๆ ทั้งนี้ตนมองว่าการจัดสรรงบประมาณให้กับกองทัพ อย่ามากเกินไป เพราะประเทศต้องการใช้เงินเพื่อสนับสนุนงานด้านอื่นๆ ตนมองว่าบางครั้งทุ่มงบประมาณเพื่อกองทัพ ทั้งที่ประเทศยังไม่เกิดภาวะสงคราม ทำให้สะสมงบประมาณของกองทัพมากจนเกินขอบเขต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายสมพงษ์อภิปรายถึงคุณสมบัติของพล.อ.ประยุทธ์ มีการประท้วงเกิดขึ้นโดยส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เพราะมองว่าเป็นการอภิปรายนอกกรอบนโยบาย และนอกประเด็น ทำให้นายชวน วินิจฉัยว่า กรณีที่เกี่ยวข้องกับพล.อ.ประยุทธ์ สามารถชี้แจงและตอบโต้ได้เอง และร้องขอให้ส.ส.แต่ละฝ่ายยุติการประท้วงเพราะจะทำให้เสียเวลาการอภิปราย แต่การประท้วงระหว่างที่นายสมพงษ์อภิปรายเกิดขึ้นต่อเนื่อง