อธิบดีกรมคุกโต้การเมืองล้ำเส้น แจงยิบสร้างเรือนจำโปร่งใส
"ณรัชต์" อธิบดีกรมราชฑัณฑ์ โต้ทุกปมยืนยันการก่อสร้างเรือนจำถูกต้องและโปร่งใส พ้อฝ่ายการเมืองล้ำเส้น ไม่ให้เกียรติข้าราชการประจำ ซ้ำตกเป็นเครื่องมือของผู้เสียผลประโยชน์
พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสและการล็อกสเปคอุปกรณ์เสริมความมั่นคงในเรือนจำ 4 แห่งของกรมราชทัณฑ์ โดยมีผู้ไม่ประสงค์จะออกนามยื่นเรื่องเป็นบัตรสนเท่ห์ ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และต่อมาในวันที่ 17 สิงหาคม 2562 ได้มีทีมงานของรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง จังหวัดระยอง นั้น
กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า โครงการก่อสร้างเรือนจำมีองค์ประกอบอยู่ 2 อย่าง คือ 1. ตัวอาคารหรือโครงสร้าง และ 2. ระบบเสริมความมั่นคง เช่น ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ระบบควบคุมการเข้าออก (Access Control system),รั้วไฟฟ้าแรงสูง , และระบบตัดสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อป้องกันผู้ต้องขังหลบหนี และป้องกันการลักลอบใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เคยมี ดังนั้น ระบบเสริมความมั่นคงฯ จึงเป็นระบบที่สำคัญและเป็นหัวใจในการควบคุมผู้ต้องขัง อุปกรณ์เหล่านี้มีหลายยี่ห้อที่ผู้ประมูลจะสามารถนำมาเสนอได้ ผู้ร้องเรียน อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าราคาต่ำที่สุด คือผู้ชนะโดยมิได้สนใจในความต้องการของกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องการระบบเสริมความมั่นคง นำมาควบคุมผู้ต้องขังให้ได้ประสิทธิภาพไม่เป็นภัยต่อสังคม การประกวดราคาด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e - bidding) ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ทุกประการ ทุกขั้นตอน มีความโปร่งใสและยึดถือประโยชน์ ของทางราชการเป็นสำคัญ
กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ยังไม่ได้รับคำสั่งหรือข้อสั่งการจากกระทรวงยุติธรรมให้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด การออกข่าวในเชิงลบและตั้งธงว่าอาจจะมีการทุจริต อาจเป็นการชี้นำให้สังคมเข้าใจผิด ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร ตลอดจนขวัญและกำลังใจของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทุกคน
นอกจากนี้เบื้องหลังของการร้องเรียนดังกล่าว อาจเป็นความพยายามของผู้ไม่ชนะการประมูลบางรายยื่นเรื่องร้องเรียนขึ้นมาโดยใช้ฝ่ายการเมืองเป็นเครื่องมือเพื่อหาหนทางล้มเลิกโครงการที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบของทางราชการทุกประการ ตนจึงไม่อยากให้ใครต้องตกเป็นเครื่องมือของขบวนการดังกล่าว
กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่า ได้ปฎิบัติตามนโยบายรัฐบาลอย่างเคร่งครัดตลอดมา จนได้รับรางวัลต่างๆมากมาย อาทิเช่น รางวัลการประเมินผลระดับคุณธรรมและความโปร่งใส จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รางวัลองค์กรที่ความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลังของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และรางวัลหน่วยงานบริหารทรัพยากรบุคคลดีเด่น (ด้านความโปร่งใสด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล) จากสำนักงาน ก.พ. เป็นต้น
พันตำรวจเอก ณรัชต์ กล่าวเพิ่มเติมว่าได้ยึดถือนโยบาย 3 ส. คือ สะอาด สุจริต และเสมอภาค เป็นหลักในการบริหารงาน ได้ตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่ซื้อขายตำแหน่ง ไม่ค้าขายหรือมีประโยชน์ทับซ้อนกับทางราชการ และไม่เบียดเบียนผู้ใต้บังคับบัญชา โดยส่วนตัวมีความเคารพและนับถือท่านรัฐมนตรีเป็นอย่างสูง แต่อยากเรียนเสนอให้มีการทบทวนและปรับปรุงแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานฝ่ายการเมือง กับข้าราชการประจำให้เป็นไปอย่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยยึดผลประโยชน์ของทางราชการเป็นหลัก ไม่เปิดประเด็นออกสื่อรายวัน โดยไม่สอบถามข้อเท็จจริงหรือเปิดโอกาสให้ทางส่วนราชการได้ชี้แจงอย่างเป็นกิจจะลักษณะเสียก่อน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-รมว.ยธ.ส่งทีมสอบล็อกสเปกสร้างคุก
-กรมคุก โต้ข่าวสินบนสร้างรพ.ราชทัณฑ์
-สั่งย้าย! 'ผบ.คุกปทุมฯ' เซ่นปมนักโทษตายคาเรือนจำ
-'ราชทัณฑ์' วอนสังคมให้โอกาสผู้พ้นโทษ