แจ้งจับ ‘7 แกนนำพรรคฝ่ายค้าน’ กอ.รมน.ชี้เปิดเวทีแก้ รธน.เข้าข่ายปลุกปั่น
กอ.รมน.แจ้งจับ 7แกนนำพรรคฝ่ายค้าน-นักวิชาการ ชี้ จัดเสวนาแก้รธน.เข้าข่ายบิดเบือน-ปลุกปั่น “ประวิตร” ชี้สมรู้ร่วมคิดชงแก้มาตรา1 ด้าน“จักรทิพย์” รับลูกสั่งรอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคงดูคดี ขณะที่7พรรคเตรียมแจ้งความกลับ กมธ.กฎหมาย สภาฯ จ่อเรียกสอบ
ความเคลื่อนไหวหลังแกนนำ7พรรคฝ่ายค้านจัดเสวนา “พลวัฒแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่” ที่บริเวณลานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานีเมื่ิอวันที่ที่28ก.ย.ที่ผ่านา
วานนี้ (3 ต.ค.) พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้รับมอบอำนาจจากพล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) เข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับบุคคลรวม 12 คน ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา116 ประกอบด้วย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้าน , นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ , พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ปี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) , นางชลิตา บัณฑุวงศ์ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลับเกษรศาสตร์ , นายสมพงษ์ สระกวี สมาชิกำรรคพรรคเสรีรวมไทย,นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ , นายมุข สุไลมาน สมาชิกพรรคประชาชาติ, นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย , นายรักชาติ สุวรรณเครือข่ายไทยพุทธเพื่อสันติภาพ, นายอสมา มังกรชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์นักวิชาการอิสระ
เนื่องจากพบว่า การจัดเวทีเสวนาดังกล่าว ได้มีการพูดนำเสนอข้อมูลในลักษณะมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระทั่งกระเดื่องต่อประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบภายในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน
รายงานข่าวเปิดเผยว่ากรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการเสวนาซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าเข้าร่วมรับฟังอยู่ด้วย พร้อมอัดคลิปวีดีโอ และถอดเทป โดยเฉพาะในช่วงที่นางชลิตา กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนใต้ไม่มีทางที่จะดีขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญโดนเนื้อหาตอนหนึ่งระบุถึงการแก้รัฐธรรมนูญอาจแก้มาตรา1
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายของกอ.รมน.ภาค 4 ได้พิจารณาอยู่แล้ว ส่วนข้อเสนอเรื่องแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 1 ที่เป็นเพียงความเห็นเดียวของนักวิชาการ มองว่า ในเมื่อนั่งอยู่ด้วยกัน ก็ต้องคัดค้านกัน ส่วนเป็นการสมรู้ร่วมคิดหรือไม่ตนไม่ทราบ ต้องถามนักกฎหมายดู ทั้งนี้การจัดเวทีเสวนาของ 7 พรรคฝ่ายค้าน ในจังหวัดอื่นๆ ตนคงไม่กำชับอะไร เพราะเป็นเรื่องของข้อกฎหมาย
ขณะที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวว่ากรณีดังกล่าวขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆนี้ยังไม่ได้มีการเชิญบุคคลใดมาให้ปากคำแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าเนื้อหาที่มีการเสวนาเข้าข่ายความผิดตามที่มีการแจ้งความร้องทุกข์จึงได้สั่งกำชับให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ)ไปติดตามความคืบหน้าทั้งนี้ฝากเตือนไปยังประชาชนไม่ควรพูดอะไรเป็นการสุ่มเสี่ยง เพราะหากมีการพูดลักษณะเข้าข่ายความผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีไปตามกฎหมาย
ส่วนความเคลื่อนไหว7พรรคฝ่ายค้าน แกนนำพรรคมีการนัดประชุมที่พรรคเพื่อไทยเพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าว โดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า ที่ประชุมของ7พรรคร่วมฝ่ายค้าน มีความเห็นชัดเจนจะไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1-2 อย่างเด็ดขาด เมื่อถูกแจ้งความเอาผิดแล้ว เราก็มีข้อต่อสู้ตามแนวทางกฎหมาย อย่างไรก็ดีการนำเอาประมวลกฎหมายอาญามาตรา116 มาแจ้งความเอาผิด เพียงเพื่อหวังปิดปากนักการเมือง หวังเบี่ยงเบนประเด็น หรือหวังผลทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง
ด้านพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า คดีความทางอาญาหากว่ากันตามปกติ กรณีนี้มีการใช้ กอ.รมน.ซึ่งถือเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี ไปแจ้งความ ก็เหมือนกับนายกฯได้สั่งการให้มีการไปแจ้งความหรือไม่
ขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่าการแจ้งความเอาผิดตามมาตรา116 ถือเป็นข้อหาแรงเกินไป เพราะที่ 7 พรรคฝ่ายค้านไปพูดเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงกับประชาชนถึงความจำเป็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่ยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนก่อความวุ่นวาย และเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งเรายืนยันมาโดยตลอดว่าจะไม่แตะต้องหมวดที่1ซึ่งเรื่องทั่วไปและหมวดที่2ที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์และที่เขาแจ้งความดำเนินคดีก็ว่ากันไปเราพร้อมชี้แจงแต่ถ้าดำเนินการไม่ถูกต้องเราก็จะฟ้องกลับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
เช่นเดียวกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ตนในฐานะประธานกมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษชยน ตอนนี้มีคนหลายคนทำหนังสือร้องเรียนเข้ามา เกี่ยวกับกรณีที่นายทหารของคสช.เที่ยวไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลจำนวนมาก จากนี้คงต้องมีการเรียกพล.ต.บุรินทร์มาใ้หการต่อกมธ.เพื่อสอบถามว่าพิจารณาองค์ประกอบความผิด ตามม.116 อย่างไร มองว่าเป็นการปิดกั้นเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ มีสาเหตุสำคัญ 2 ประการคือ 1.ต้องการกลบเกลื่อนช่วงขาลงของรัฐบาลชุดนี้ และ2.กลบประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งตอนนี้ดูทีท่าว่าสังคมจะตอบรับมากขึ้น
ขณะที่พล.ต.บุรินทร์ กล่าวว่ากรณีที่นายปิยบุตร เตรียมเรียกชี้แจงถึงหลักกฎหมายนั้น ตนพร้อมไปชี้แจงต่อกมธ.กฎหมาย ซึ่งไม่มีอะไรต้องกลัว และจะชี้แจงว่าทำตามหน้าที่ในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจ ส่วนเรื่องรายละเอียดของคดีไม่สามารถพูดได้ เป็นความลับให้ไปว่ากันในชั้นศาล
วันเดียวกันที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องกล่าวหานางชลิตา กรณีที่แสดงความคิดเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนญในมาตรา 1 เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา113 ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิตและมาตรา116
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-รอยปริเพื่อไทย 'เจ๊หน่อย' คุมไม่อยู่
-เปิด! มุมมอง เงินกู้ 191 ล้าน บ่วง 'ธนาธร-อนาคตใหม่'
-'จุติ' หนาว ถูกบีบให้ลาออก ส.ส.
-สภาฯของบเพิ่มทะลุ1.2หมื่นล้าน ค่าอาหารส.ส.เพิ่มรายละ300