ระดมทหาร-หมอ ทำแผนรองรับหากคนติดโควิด-19 เพิ่ม
กลาโหม เปิดพื้นที่ระดมสมองทหาร-แพทย์ จัดทำแผนรับสถานการณ์โควิด-19 หากผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ยืนยันเตียงเพียงพอ รองรับผู้ป่วยได้ถึง 5,000 คน พร้อมเล็งเปิดค่ายทหาร-สนามบิน เป็นโรงพยาบาลสนาม ขณะที่ยอดผู้ป่วยโควิดวันนี้เพิ่มอีก 35 คน
ที่กระทรวงกลาโหม มีการประชุม ระหว่างกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข พล.ร.อ.ประวิตร รุจิเทศ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมรับการพัฒนาของสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดย พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม
ทั้งนี้ จะมีการจัดการฝึกร่วมจำลองสถานการณ์ เพื่อแก้ปัญหาด้วย โดยเฉพาะการรับและการส่งต่อผู้ป่วยได้ทันท่วงที ไม่ต้องเคลื่อนย้ายในระยะไกล ซึ่งเมื่อจบการฝึก จะสรุปเป็นแผนบูรณาการรายงานรัฐบาลต่อไป
นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในวันนี้มีข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 35 คน แต่ขณะนี้ยังสามารถรองรับ ทั้งจำนวนเตียงและห้องพักของผู้ติดเชื้อได้ ซึ่งการฝึกร่วมกับกระทรวงกลาโหมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์หากมีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มมากขึ้นในระดับที่สูงกว่าปัจจุบัน ไปจนถึง 5,000 คน
สำหรับผู้ป่วยอาการหนักในสถานการณ์จริง ที่ต้องแยกอยู่ในห้องที่มีความดันเป็นลบ มีอยู่ 3 คน แต่ตามหลักการฝึกจะต้องจัดเตรียมห้องรองรับผู้ป่วยอาการหนักให้ได้ 5% ผู้ป่วยอาการปานกลาง 15% ส่วนผู้ป่วยทั่วไป ซึ่งอาการไม่หนักมาก จะต้องรับให้ได้ 80%
การฝึกซ้อมครั้งนี้ยังถือเป็นความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน เพื่อประสานงานในการรับผู้ติดเชื้อ หากมีจำนวนสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยอาการหนักที่จะต้องสื่อสารและต่อให้ได้ภายใน 3 ชั่วโมง เพราะที่ผ่านมายอมรับว่า ไม่สามารถสั่งการโรงพยาบาลเอกชนได้ จึงต้องใช้กลไกของสมาคมโรงพยาบาลเอกชนในการประสานงาน
ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ย้ำถึงความพร้อมของหน่วยแพทย์สังกัดกระทรวงกลาโหมว่า หลังจากนี้โรงพยาบาลทหาร จะปรับให้มีขีดความสามารถ เพื่อให้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะโรค รองรับสถานการณ์โควิด-19 และหากมีผู้ป่วยจำนวนเพิ่มขึ้นก็ได้เตรียมสถานที่เปิดเป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งเบื้องต้นจะใช้พื้นที่ค่ายทหารหน่วยต่างๆ มณฑลทหารบก รวมถึงสนามบินด้วย ทั้งนี้ ขอให้เชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาล ภายใต้การขับเคลื่อนของกระทรวงสาธารณสุข และขอให้ประชาชน ปฏิบัติตามข้อกำหนดรวมไปถึงข้อบังคับต่างๆ รับผิดชอบตัวเองและสังคม