อดีตรัฐมนตรีคลัง เสนอทางออก 'วิกฤติโควิด' และปัญหาเศรษฐกิจ
ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีคลัง เสนอทางออกวิกฤติโรคระบาดโควิดและปัญหาเศรษฐกิจ ชี้การสั่งปิดร้าน หยุดทำงานไปเรื่อยๆ โดยไม่ให้เงินชดเชยไว้ก่อน ถือเป็นข้อผิดพลาด
วันนี้ (19 เม.ย.) ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรมว.คลัง เสนอข้อแท้จริงและทางออกจากวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ว่า เราต้องมองว่าประเทศไทยยังเป็นประเทศยากจน ที่ผ่านมา 5 ปีรัฐบาลบริหารประเทศ มุ่งเน้นดูแลทรัพย์สินและรายได้คนรวย ทำให้มีคนยากจนเพิ่ม จากเดิม ในปี 2548 มีคนจน 4.8 ล้านคน แต่ปี 2562 เพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านคน รวมเป็น 6.8 ล้านคน ประชาชนไทยจำนวนมากยังต้องหาเช้ากินค่ำ หากหยุดทำงานเพียง 2-3 วัน เงินก็แทบหมดลงแล้ว ข้อแท้จริงอันนี้รัฐบาลไม่ได้ประเมินไว้
การสั่งปิดร้าน หยุดทำงานไปเรื่อยๆ โดยไม่ให้เงินชดเชยรายได้ไว้ก่อน จึงเป็นวิธีการที่ผิดพลาดมาก ทำให้คนต้องกลับบ้านเกิดในต่างจังหวัดเพราะอยู่ในกรุงเทพฯก็ไม่มีกิน ไม่มีค่าเช่าบ้านทำให้เสี่ยงการระบาดของโรคมากขึ้น การสั่งให้ประชาชนหยุดทำงานนานๆจึงทำให้เกิดความเดือดร้อนทั้งกายและใจอย่างมาก หลายคนคิดทำร้ายตัวเองเพราะไม่มีทางออก พอรัฐบาลประกาศจะจ่ายเงินชดเชยเดือนละ 5,000 บาท จำนวน 3 เดือน ก็เป็นเหมือนขอนไม้ที่ลอยมา ในขณะที่กำลังจะจมน้ำ จึงมีเหตุการณ์เรียกร้องที่กระทรวงการคลังแต่เงินที่จะจ่ายก็ไม่ครอบคลุมไม่ทั่วถึงคนที่เดือดร้อน และหลักเกณฑ์ก็ไม่ยุติธรรม รัฐบาลมีเป้าหมายจ่ายให้เพียง 9 ล้านคน แต่ผู้เดือดร้อนลงทะเบียนมากกว่า 27ล้านคน จึงมีคนไม่ได้เงินนี้เป็นจำนวนมาก
เราเป็นประเทศยากจนไม่สามารถพิมพ์เงินได้เองแล้วใช้ได้ทั่วโลก รัฐบาลจึงต้องให้น้ำหนักที่เหมาะสมระหว่างการขจัดโรคระบาดกับการทำมาหากินของประชาชนส่วนใหญ่
ศ.ดร.สุชาติ กล่าวว่าในส่วนคณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุขไทยก็ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม สามารถหยุดชะลอโรคระบาดนี้ได้ดีมาก คนป่วย คนเสียชีวิตมีจำนวนน้อยเป็นที่ชื่นชมโดยองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้น รัฐบาลจึงควรใช้โอกาสนี้ เปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วน ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการมีประชาชนจำนวนมากๆ มาชุมนุมกัน เพื่อให้ประชาชนได้ทำมาหากิน โดยสามารถดำเนินไปพร้อมกับมาตรการลดโรคระบาดก็คือ ใส่หน้ากากเมื่อออกนอกบ้าน ล้างมือ แยกช้อนแยกจานรักษาความสะอาด รักษาระยะห่างในสังคม (Social Distancing) กันคนสูงอายุและคนมีโรคประจำตัวออกห่างจากเด็กและหนุ่มสาว พยายามอยู่บ้านให้มากที่สุด และที่ยังช้าอยู่คือการรีบตรวจหาผู้ติดเชื้อให้เร็วและมาก แล้วแยกมารักษา
"ร้านค้าต่างๆ ร้านอาหาร ร้านนตัดผม สามารถเปิดได้ นั่งทานอาหารแบบรักษาระยะห่างได้ โดยให้ทำมาตรการทางสาธารณสุขที่กำหนดไว้ การดำเนินการคู่ขนานกันไปในการดูแลสุขภาพ กับการดูแลรายได้และฐานะประชาชนทางเศรษฐกิจจะเป็นหนทางที่ดีสุดในการดูแลประเทศในยามนี้ จะทำให้ประเทศและประชาชนไทย ไม่จมลึกเกินความจำเป็น สามารถฟื้นได้เร็วกว่าและมีโอกาสที่มากกว่า เทียบกับหลายประเทศในโลก" ศ.ดร.สุชาติ กล่าว