ตัวเลข 'ฝ่าเคอร์ฟิว' ลดเหลือ 330 ราย หลังคลายล็อกระยะ 2 ครบสัปดาห์
ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปยอดผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั่วประเทศ พบออกจากที่พักหลังเคอร์ฟิว 303 ราย ขณะที่รวมตัวมั่วสุมเพียง 27 ราย โดยจังหวัดที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวมากสุดภูเก็ต-ปทุมธานีและชลบุรี
วันที่ 24 พฤษภาคม ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) ได้สรุปยอดผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม เวลา 23.00 น. จนถึงเช้าวันที่ 24 พฤษภาคม เวลา 04.00 น.โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นบุคคล รวม 22,541 คน และยานพาหนะ รวม 17,248 คัน จับกุมผู้ฝ่าฝืนได้ รวมทั้งสิ้น 330 คน ประกอบด้วยผู้ออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันควร ขับขี่ยานพาหนะเล่น เดินทางกลับที่พัก หลังเวลาเคอร์ฟิว ออกมาทำธุระและอื่นๆ 303 ราย
รวมตัวมั่วสุมในเคหสถานเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ รวม 27 ราย แบ่งเป็น เหตุแห่งการชุมนุมมั่วสุม 3 อันดับแรก ได้แก่ ดื่มสุรา 19 ราย ลักลอบเล่นการพนัน 5 ราย และเสพยาเสพติด 3 ราย
ทั้งนี้ มีสถิติการจับกุมผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกนอกเคหสถาน สูงสุด 3 ลำดับแรก คือ จ.ภูเก็ต 27 ราย จ.ปทุมธานี 26 ราย และ จ.ชลบุรี 17 ราย
สำหรับผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548