บีบ 'อุตตม' เปิดประชุมใหญ่ 'พลังประชารัฐ' เลือก กก.บห. ชุดใหม่
“ไพบูลย์” หาช่องกฎหมาย บีบ “อุตตม” นัดประชุมใหญ่เลือก กก.บห. ชุดใหม่ “เพื่อไทย” ป่วน รองหัวหน้าพรรคโวยเลขาฯพรรค งุบงิบ ตั้งคนนอกพรรคนั่ง กมธ.โอนงบฯ
ความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่สรรหาหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)ชุดใหม่ ภายหลัง กก.บห.ชุดเก่าลาออก 18 คน ทำให้ กก.บห.พ้นสภาพทั้งหมด ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พปชร.ตอบข้อถามสื่อมวลชน ถึงกรณีที่ระบุว่า “ไม่พร้อม” หากถูกเสนอชื่อให้เป็นหัวหน้าพรรค พปชร.ว่า ยังไม่ถึงเวลา เพราะเมื่อถึงเวลาก็แล้วแต่ทางพรรค และสมาชิกพรรค ซึ่งตนไม่เกี่ยว เขาเลือกกันอย่างไร ก็ว่าไปตามนั้น
ขณะที่ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง รักษาการหัวหน้าพรรคพปชร. ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาภายในพรรคพปชร. โดยกล่าวว่า “วันนี้ขอไม่พูดเรื่องการเมือง แต่ขอพูดเรื่องเศรษฐกิจ”
ขณะเดียวกัน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวถึงกระแสข่าวถูกทาบทามให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพปชร.ว่า ตนไม่ได้รับการทาบทามให้ไปดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพปชร. และขณะนี้ยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองพรรคใด เนื่องจากนายกฯตั้งเป็นกรรมการบริหารบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อไปแก้ไขปัญหาในการบินไทย ซึ่งตามกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามไปดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง ดังนั้นข่าวที่ออกมาว่าจะไปรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพปชร.จึงเป็นไปไม่ได้
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน รักษาการรองหัวหน้าพรรค พปชร. เปิดเผยความคืบหน้าการสรรหาผู้บริหารพรรคชุดใหม่ว่า นายอุตตม ยังไม่มีการนัดหมาย กก.บห.ที่เหลือ 16 คนเพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญ สถานที่ และระเบียบวาระการประชุม และหากยังไม่มีความชัดเจน ตนเห็นว่าสัปดาห์หน้าจะพิจารณาใช้แนวทางของกฎหมายดำเนินการ เพื่อขอให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ทั้งนี้การใช้มาตรการทางกฎหมายเพราะคาดว่าอาจจะมีการยื้อเวลาในการประชุมให้ล่าช้า
ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย (พท.) ล่าสุดได้เกิดความขัดแย้งในการส่งตัวแทนไปดำรงตำแหน่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณปี 63 โดยเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.วาระ พ.ร.บ.โอนงบเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ โดยปกติพรรค พท.จะต้องประชุมทุกอังคาร และนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ประธานวิปรัฐบาล นัดหมายส.ส.พรรค มาประชุมเพื่อกำหนดท่าที
แต่ปรากฏว่า น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคพท. สั่งงดประชุมโดยไม่แจ้งเหตุผล กระทั่งเช้าวันพฤหัสบดี ก็ไม่มีการนัดประชุมเพื่อสรุปมติพรรค และกำหนดท่าทีพรรคต่อการโหวต พ.ร.บ.โอนงบฯ ทำให้ส.ส.ไม่รู้ว่าจะลงมติในทิศทางใด กระทั่งต่อมาได้มีปัญหาเกิดขึ้น เนื่องจากมีการสรุปรายชื่อผู้ที่จะเป็น กมธ.วิสามัญฯ หลังผ่านวาระ 1 พ.ร.บ.โอนงบฯ ปรากฏว่า มีการส่งชื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ซึ่งทั้งสองไม่ได้สังกัดพรรคเพื่อไทย แต่เคยลงสมัครส.ส.สังกัดพรรคไทยรักษาชาติที่ถูกยุบไป
ปัญหาดังกล่าว ปรากฏว่า นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคได้ส่งข้อความถึง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค ในไลน์กลุ่มพรรคเพื่อไทย เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าวว่า ในฐานะที่เป็น ส.ส.มหาสารคาม (สอบได้) และรองหัวหน้าพรรค แต่เวลาตั้งกรรมาธิการวิสามัญที่เกี่ยวกับงบฯ ต่างๆ ตนขอถามว่า ส.ส.สอบได้ ที่ประชาชนเลือกมาและชนะการเลือกตั้งมา ไม่มีความรู้และความสามารถพอที่จะเป็นกรรมาธิการวิสามัญเกี่ยวกับงบฯได้บ้างหรือ
“ถ้าเป็น ส.ส.สอบได้ แล้วเป็นกรรมาธิการวิสามัญงบฯ ไม่ได้ กลัวว่าเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคเพื่อไทยจะมีโรคระบาดเหมือนโรคโควิดเกิดขึ้น คือพากันไปเป็น ส.ส.สอบตกกันเยอะๆ แล้วพรรคจะเป็นอย่างไร การตั้งกรรมาธิการวิสามัญงบฯ ครั้งนี้ ไม่ได้มีการประชุม ส.ส.พรรค และไม่ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพราะตนเป็นรองหัวหน้าพรรค ถ้ามีประชุมจริงตนต้องได้รับแจ้ง” นายยุทธพงศ์ ระบุ
ทำให้ น.อ.อนุดิษฐ์ ต้องชี้แจงในไลน์ว่า การตั้งกรรมาธิการโอนงบฯ พรรคเพื่อไทยได้สิทธิ์ทั้งสิ้น 10 คน ในครั้งนี้มีการตั้งตามที่แต่ละภาคส่งชื่อมา ภาคอีสาน 5 ท่าน ภาคเหนือ 1 ท่าน ภาคกลาง 1 ท่าน ภาคกทม. 1 ท่าน และส่วนกลาง 2 ท่าน โดยกรรมาธิการในสัดส่วนของภาคเป็น ส.ส.สอบได้ทั้งหมด ส่วนโควตาส่วนกลาง ไม่มีท่านใดลงสมัครรับเลือกตั้ง สำหรับภาคอีสาน มีการนัดประชุมเพื่อกำหนดตัวท่านที่จะมาทำหน้าที่ในเวลา 13:00 น.
อย่างไรก็ตาม นายยุทธพงศ์ ยังโต้แย้งอีกว่า ตนได้ยื่นชื่อขออภิปรายไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะ ต้องอยู่ในห้องประชุมสภาฯ ตลอดเวลา เพราะไม่อาจทราบได้ว่า ประธานสภาฯ จะเลือกชื่อให้อภิปรายช่วงเวลาใด เพราะมี ส.ส.ทั้งจากฝั่งฝ่ายค้านและฝั่งรัฐบาลทยอยขอถอนชื่ออภิปรายออกตลอดเวลา ตนมีความจำเป็นต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา
“เห็นว่าการตั้งกรรมาธิการวิสามัญต่างๆ ต้องโปร่งใส ผ่านที่ประชุมใหญ่ และเป็นมติของที่ประชุมส.ส.พรรค ไม่ใช่ทำกันแบบลับๆ ล่อๆ แบบนี้ สื่อมวลชนและ ประชาชนถึงบอกว่า พรรคตกต่ำลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ขอถามเลขาธิการพรรคว่า ทำไมพรรคถึงสั่งให้งด การประชุมพรรค ทั้งที่ประธานวิปฝ่ายค้านได้นัดหมายให้มีการประชุมพรรคในวันที่ 2 พ.ค.” นายยุทธพงศ์ ระบุ