รปช.แจง 'ม.ร.ว.จัตุมงคล' ลาออก ยันไม่ขัดแย้ง
รปช.แจง "ม.ร.ว.จัตุมงคล" ลาออก ยันไม่ขัดแย้ง ดันชื่อ "เอนก เหล่าธรรมทัศน์" นั่ง รมว.แรงงานแทน
แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือ รปช. นำโดย นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง รักษาการเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รักษาการกรรมการบริหารพรรค และนายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง รักษาผู้อำนวยการพรรค
ร่วมกันแถลงข่าวกรณี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรงงแรงงาน หลังลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล ได้ฝากหนังสือลาออกมากับ นายดวงฤทธิ์ ในฐานะ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ช่วงเที่ยงเมื่อวานซึ่งมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค และการลาออกครั้งนี้ เป็นการลาออกจากสมาชิกพรรคด้วย โดยให้มีผลตั้งแต่เมื่อวาน ทำให้ตามกฎหมาย กรรมการบริหารพรรคทั้งคณะพ้นตำแหน่งไปด้วย แต่ขณะนี้ก็อยู่ในฐานะของตำแหน่งรักษาการ และให้นายทวีศักดิ์ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคแทน ไปจนกว่าจะถึงวันประชุมใหญ่พรรค ในวันที่ 5 ก.ค.นี้
และทางพรรคยังส่งหนังสือแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรี ด้วยว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคด้วย ส่งผลให้ผลทางกฎหมายไม่ได้อยู่ในวิสัย ที่จะได้รับการพิจารณาเป็นรัฐมนตรีต่อไป ดังนั้นพรรคจึงเสนอชื่อ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เพื่อให้นายกรัฐมนตรี พิจารณาในตำแหน่งรัฐมนตรีในการปรับ ครม.ครั้งต่อไป เพราะเห็นว่า มีคุณสมบัติที่เหมาะสม แต่ขณะนี้ ม.ร.ว.จัตุมงคล ก็ยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอยู่
ทั้งนี้ส่วนตัวยอมรับว่าตกใจ เพราะถือเป็นการตัดสินใจที่กระทันหัน รวดเร็ว
นายทวีศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคและการทำงาน หรือถูกประเมินไม่ผ่านโปร เพราะการส่งคนไปเป็น รัฐมนตรี ไม่ใช่การทดลองงาน แต่ยอมรับว่า มีการพูดถึงการทำงานที่ล่าช้าของระบบประกันสังคม ซึ่งจะต้องใช้อุปกรณ์เข้าไปช่วย และเกิดจากอุปกรณ์ ไม่ได้เกิดจาก ม.ร.ว.จัตุมงคล และหลังลาออก ก็ไม่ได้คุยกับ ม.ร.ว.จัตุมงคลโดยตรง แต่ได้พูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรคและเป็นผู้ชักชวนกันเข้ามาเล่นการเมือง ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกันอย่างสุภาพบุรุษเข้าใจกันดี โดยไม่ได้มีความขัดแย้ง และพรรคยังถือว่าม.ร.ว.จัตุมงคลเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก และเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ
ส่วนการชิงลาออกของม.ร.ว.จัตุมงคล เป็นจะการเร่งปรับ ครม.เร็วขึ้นหรือไม่ นายทวีศักดิ์ บอกด้วยว่า ตนเองไม่มีความจัดเจนในเรื่องการเมือง เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรค รปช.มีเพียง 5 เสียงในสภาเท่านั้น และพรรคร่วมรัฐบาลมีเสียงเกินอยู่แล้ว และนายกรัฐมนตรีก็ยังไม่มีการส่งสัญญาณ เพื่อให้พรรคส่งรายชื่อรัฐมนตรีคนต่อไปมายังพรรคด้วย
ด้าน นายเอนก บอกด้วยว่า ตนเองพร้อมทำงานทุกตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย และยืนยันว่า ไม่เคยดิ้นรน ที่จะรับตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะรู้ดีทุกอย่างขึ้นกับความเหมาะสมและโอกาส